21 ส.ค.61 - นายเทพพนม นามลี อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) สุรินทร์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ ว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.61 เวลาประมาณ 16.00 น. ตนได้นำพี่น้องที่ถูกดำเนินคดี “ขอนแก่นโมเดล” เมื่อเดือน พ.ค.57 มาเข้าขอรับความช่วยเหลือจากกลุ่มสามมิตร สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งนายภิรมย์ พลวิเศษ เลขาธิการกลุ่มสามมิตร ได้ให้ความอนุเคราะห์ โดยประสานให้อดีตผู้พิพากษามาให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ซึ่งตนได้พา นายพรหมพัฒน์ ธนกุลพิพัฒน์ 48 ปี อดีตรองประธาน นปช.สุรินทร์ และภรรยา พร้อมด้วยกลุ่มจำเลยอีกจำนวนหนึ่งรวม 10 คน ขอคำปรึกษาทางคดีความ และขอความเป็นธรรม ตนอยากจะช่วยเหลือพี่น้องคนเสื้อแดง รองประธาน นปช.สุรินทร์ และภรรยา ในคดี “ขอนแก่นโมเดล” มีจำเลย 26 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน

ทั้งนี้ นายภิรมย์ ให้ข้อเสนอแนะว่าควรจะมีการปรึกษาหารือในหมู่คณะผู้ต้องหาทั้งหมดที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งทุกคนได้บอกต่อนายภิรมย์ ว่าระยะเวลา 7 เดือนที่ถูกจำคุกอยู่ทุกข์ทรมาน เกิดบ้านแตกสาแหรกขาด  ไม่มีงานทำ สังคมก็ไม่ยอมรับ ไม่มีอาชีพ และสิ้นเนื้อประดาตัว ถูกดำเนินคดีอาญา ใน 9 ข้อกล่าวหา ซึ่งหนักมากสำหรับพี่น้องเสื้อแดงที่มาชุมนุม ก่อนที่จะถูกจับกุมได้มาร่วมรับฟังการปราศรัยของ นปช. และ ส.ส.ขอนแก่น ที่ บขส.3 หลังจากนั้นก็ได้แยกย้ายพากันกลับ แต่พอมีการปฏิวัติก็ได้ปรึกษาหารือกัน  โดยโทรศัพท์หาพรรคพวกทั้ง 26  คน ว่าเราจะกลับบ้าน ซึ่งมาถูก ทหาร และตำรวจ จับกุมตัวเสียก่อน

“ความทุกข์ระทมที่ได้รับมา จนถึงวันนี้เข้าปีที่ 4 บ้านเมืองก็สงบ แต่ที่สำคัญ ส.ส.และแกนนำ นปช. ที่เคยร่วมชุมนุมด้วยกัน กลับปล่อยปละละเลย ทิ้งขว้างไม่ใส่ใจ และกลับไม่ช่วยเหลือแม้แต่น้อย ไปหาก็ปล่อยทิ้ง ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดง และผม รู้สึกหดหู่ในพฤติกรรมแกนนำ นปช. และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย” นายเทพพนม กล่าว

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากแนวหน้า