"อภิสิทธิ์" ป้อง "สุเทพ" เปลี่ยนวิธีประมูลโรงพักตำรวจตามข้อเสนอ สตช. แจงเหตุ ครม.อนุมัติแค่หลักการ ด้าน "เทพเทือก" หอบเอกสาร 94 หน้าเข้าชี้แจง ป.ป.ช. ซัดผู้ควบคุมสัญญาก่อสร้างทำไม่เสร็จตามกำหนด ท้าส่งเรื่องให้ศาลฎีกาฯ หากไม่ผิดอนุ กก.ป.ป.ช.ต้องขอโทษประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันจันทร์ถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพักตำรวจเพียงแค่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และอดีตรองนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ตั้งข้อกล่าวหาตนทั้งที่ขณะนั้นเป็นนายกฯ ว่า ไม่ทราบ คงต้องสอบถาม ป.ป.ช. อย่างไรก็ตามโครงการก่อสร้างดังกล่าวอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของรัฐบาลตน ดังนั้น ครม.ก็ต้องร่วมรับผิดชอบ แต่สมัยนั้น ครม.อนุมัติเฉพาะหลักการว่าจะทำอะไรบ้าง แต่ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์คือ เปลี่ยนแปลงวิธีประมูลที่จากเดิมประมูลเป็นรายภาค กลายมาเป็นประมูลรวมครั้งเดียว ซึ่งวิธีการประมูลดังกล่าวไม่ได้เสนอมายังตนและ ครม. แต่เสนอตรงไปที่นายสุเทพซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกฯ ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และเท่าที่ทราบนายสุเทพอนุมัติตามที่ สตช.สรุปขึ้นมา
"ในส่วนที่ผมเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คือ มีคนทำหนังสือร้องเรียนมายังผมว่าผมไม่ทำอะไร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าสำนักงานของผมได้ส่งเรื่องให้ สตช.พิจารณาข้อร้องเรียนว่าเป็นอย่างไรไปแล้ว ผมเกี่ยวข้องเท่านี้" อดีตนายกฯ กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่นายสุเทพชี้แจงในเฟซบุ๊กนั้น คิดว่านายสุเทพอาจกลัวว่าถ้าอยู่เฉยจะเกิดความเคลือบแคลง ทั้งนี้ไม่ทราบว่าชี้แจงตรงกับข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช.ตั้งไว้หรือไม่ เพราะโดยทั่วไป ป.ป.ช.จะตั้งข้อกล่าวหาค่อนข้างกว้าง ไม่บอกรายละเอียด จะสรุปชัดเจนก็ตอนชี้มูล ส่งเรื่องให้อัยการและศาล
วันเดียวกัน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายสุเทพพร้อมนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ทีมทนายความเดินทางมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากรณีการทุจริตก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 แห่ง โดยนายสุเทพให้สัมภาษณ์สื่อก่อนให้ถ้อยคำว่า เตรียมเอกสารชุดเดิม 94 หน้า เป็นข้อมูลเดียวกับที่เคยชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.58 มาประกอบกับที่จะมาให้ถ้อยคำด้วยตัวเองในครั้งนี้ มั่นใจว่า ไม่มีความผิดเพราะทำงานตามระเบียบ มีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ทุกอย่าง กรณีที่ระบุว่ามีการฮั้วประมูลเพื่อให้บางบริษัทชนะการประมูลนั้น คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.มีอคติ ถ้าอ่านเอกสารทั้งหมดคนธรรมดาก็เข้าใจได้ ไม่ต้องเป็นนักกฎหมาย
"กรณีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญา และบริษัทที่ชนะการประมูลไม่สามารถก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งได้ทันตามเวลาที่กำหนดนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญาหรือการอนุมัติเปลี่ยนแปลงวิธีการประมูล เพราะการทำสัญญาว่าจ้างดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบงบประมาณแผ่นดินของสำนักนายกรัฐมนตรีทุกขั้นตอน แต่เรื่องการก่อสร้างล่าช้าเสร็จไม่ทันตามกำหนดเป็นเรื่องของผู้ควบคุมการก่อสร้าง ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการควบคุมสัญญาก่อสร้าง"
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสงสัยเรื่องการเปลี่ยนวิธีประมูลแบบรายภาคมาเป็นการรวมศูนย์ นายสุเทพ ตอบว่า ตอนที่อนุมัติโครงการครั้งแรกนั้นพิจารณาตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.เสนอมา ซึ่งตนเห็นว่ามีเหตุผลเรื่องการแยกสัญญาออกเป็น 9 ภาค จึงอนุมัติให้ดำเนินการ แต่ต่อมาสมัย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็น ผบ.ตร.เสนอแก้ไขสัญญาว่าจ้างใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายงบประมาณปี 2553 ที่ออกมาหลังจากที่อนุมัติโครงการครั้งแรกไปแล้ว โดยระบุว่าหากเป็นโครงการเดียวกันไม่สามารถแยกเป็นหลายสัญญาได้ จึงเป็นที่มาของการแก้ไขสัญญาใหม่ให้ถูกต้องตามระเบียบงบประมาณปี 2553 ทุกโครงการก็ทำตามระเบียบดังกล่าว
ภายหลังการเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง 40 นาที นายสุเทพให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า นำเอกสารหลักฐานทั้งหมดชี้แจงให้กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ทราบ เพราะยังไม่เคยเห็นเอกสารเหล่านี้ ได้อธิบายว่าสิ่งที่ดำเนินการไปทำโดยสุจริต ด้วยหลักการและเหตุผลตามที่ สตช.อนุมัติมา ทุกขั้นตอนทำถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้หลังจากมีการเซ็นสัญญาการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ตนพ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ ต่อมาโครงการเสร็จไม่ทันตามกำหนด และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาต่อสัญญาให้ 3 ครั้ง จนกระทั่งมีการยกเลิกสัญญาในที่สุด จากนั้นเริ่มมีกระบวนการใส่ร้ายตน คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งข้อหาแปลกๆ มีอคติ ขณะนี้กำลังตั้งพรรคการเมือง ต้องรวบรวมศรัทธาจากประชาชน จึงจำเป็นต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าวิธีการไต่สวนของคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.และดีเอสไอไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ควรตกเป็นเครื่องมือใคร
"ยินดีหาก ป.ป.ช.จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสิน ถ้าผิดก็เอาชีวิตผมไป หากไม่ผิดคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ควรขอโทษประชาชน ทั้งนี้ความยุติธรรมหมายถึงความรวดเร็วด้วย ป.ป.ช.จะวินิจฉัยอย่างไรไม่ติดใจ ดีกว่าปล่อยให้เรื่องยืดยาวต่อไป" นายสุเทพ กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |