ทางการอินโดนีเซียแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า แผ่นดินไหวรุนแรงบนเกาะลอมบอก 2 ครั้งซ้อนที่เกิดห่างกันไม่ถึง 12 ชั่วโมงเมื่อวันอาทิตย์ คร่าชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 10 คน เจ้าหน้าที่ประกาศเร่งการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูบูรณะ

ชาวบ้านในหมู่บ้านเซมบาลุนตรวจสอบซากบ้านเรือนเมื่อวันจันทร์ ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงซ้ำอีกเมื่อวันอาทิตย์ / AFP

    แผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม และ 5 สิงหาคม ที่เกาะลอมบอก ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะบาหลี ได้คร่าชีวิตผู้คนรวมแล้วเกือบ 500 คน และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ช่วงเวลาก่อนเที่ยง และอีกครั้งที่มีความรุนแรงกว่าด้วยขนาด 6.9 ซึ่งเกิดกลางดึกคล้อยหลังไม่ถึง 12 ชั่วโมง ได้คร่าชีวิตคนเพิ่มอีกอย่างน้อย 10 คน ส่วนใหญ่โดนซากอาคารถล่มทับ แต่มี 2 คนเสียชีวิต เนื่องจากหัวใจล้มเหลว และมีคนบาดเจ็บเพิ่มอีก 24 ราย อาคารและมัสยิดเสียหายเพิ่มอีก 150 หลัง

    ซูโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคมว่า ทางการกำลังเร่งเพิ่มการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และบูรณะซ่อมแซมอาคารสาธารณะที่ได้รับความเสียหาย เช่น โรงพยาบาลและโรงเรียน

    เขากล่าวด้วยว่า หลังจากแผ่นดินไหวเมื่อคืนวันอาทิตย์ ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกมากกว่า 100 ครั้ง ซึ่งทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกหนีออกจากที่พักมาอยู่บนท้องถนน การติดต่อสื่อสารใช้การไม่ได้ทั่วเกาะ บางพื้นที่ไฟฟ้าดับ

รอยแตกบนพื้นภายหลังแผ่นดินไหวเมื่อวันอาทิตย์และอาฟเตอร์ช็อกอีกกว่าร้อยครั้ง / AFP

    อาฟเตอร์ช็อกซึ่งมีแรงสั่นสะเทือนขนาด 4-5 ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงเช้าวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ในเมืองมาตารัม ซึ่งเป็นเมืองหลักของเกาะนี้กล่าวกันว่า แรงสั่นสะเทือนหลายครั้งทำให้เกิดดินถล่มปิดเส้นทางทำให้บางพื้นที่ถูกตัดขาด

    แผ่นดินไหวขนาด 6.9 เมื่อคืนวันอาทิตย์มีขนาดความรุนแรงเท่ากับแผ่นดินไหวเมื่อ 14 วันก่อนหน้านั้น ซึ่งทำให้มีคนเสียชีวิตประมาณ 460 คน และทำให้ทางการอินโดนีเซียต้องเปิดปฏิบัติการค้นหา กู้ชีพและบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่ เจ้าหน้าที่ประเมินกันด้วยว่า แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่าถึง 5 ล้านล้านรูเปียห์ (ราว 11,319 ล้านบาท)

ทหารแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยในเมืองมาตารัมเมื่อวันจันทร์ / BADAN NASIONAL PENANGGULANGAN BENCANA / AFP

    ชาวบ้านนับแสนคนไร้ที่อยู่และต้องอาศัยค้างแรมตามกระโจมที่อยู่ในที่โล่งโดยไม่กล้ากลับเข้าไปอยู่ในอาคารบ้านเรือน เนื่องจากยังเกิดการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง

    ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวซ้ำอีกบนเกาะนี้ องค์กรบรรเทาทุกข์หลายแห่ง เช่น องค์การช่วยเหลือเด็ก กล่าวกันว่า พวกเขาพร้อมจะยกระดับการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์มากขึ้น.