ขอหมายจับแก๊งเผานั่งยางฝรั่งอิตาลี


เพิ่มเพื่อน    

 

23 ม.ค.61 -ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพเผานั่งยางที่เป็นคดีสะเสือนขวัญ ขณะนี้มีรายงานความคืบหน้าล่าสุด จากกรณีที่ นายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี่ อายุ 62 ปี สัญชาติอิตาลี ถูกฆ่าและนำศพมาเผายางที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ บ้านบึงทับจั่น หมู่ที่ 3 ต.แหลมรัง อ.บึงนางราง จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก 
    โดยเฉพาะหลังจากที่พบศพชายที่ถูกฆ่าหั่นศพนั่งเผายาง คือนายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี่ ชาวอิตาลี สามีของนางรุธจิรา เอี่ยมละม้าย อายุ 37 ปี ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุ นางรุธจิรา ได้หายตัวไปพร้อมกับนายฮามัวนี่ ชู้รักชาวฝรั่งเศส พร้อมด้วยรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีบอนด์ หมายเลขทะเบียน กค-1374 สมุทรสงคราม 
    ความคืบหน้า วันนี้ พล.ต.ต.สุกิจ สมณะ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 ได้เดินทางมาดูความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี โดยมี พล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 6 และชุดสืบสวนจังหวัดพิจิตร ได้เข้าร่วมประชุมหาแนวทางการสืบสวน
    หลังการประชุม พล.ต.ต.สุกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคดีสะเทือนขวัญและประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก  จึงเรียกประชุมชุดสืบสวนทั้งในจังหวัดพิจิตร และชุดสืบสวนของภาค 6 รวมทั้งตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มาร่วมประชุมหาแนวทางการสืบสวน และเร่งไล่ล่าตัวคนร้าย ซึ่งมั่นใจแล้วว่า คนร้ายคือนางรุจิรา และนายฮามัวนี่ 
    พล.ต.ต.สุกิจ เผยอีกว่า ส่วนลูกชายของนายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี คือ นายลูก้า เดอ สเตฟานี อายุ 30 ปี หลังจากที่ทราบข่าว ได้เดินทางมาดูศพบิดา และยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้เสียชีวิตนั้นคือพ่อของตนเองอย่างแน่นอน เพราะจำรอยสักที่ต้นขาขวาได้ ซึ่งนายลูก้า ยืนยันแบบนั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายลูกก้า ไปพิสูจน์ ดีเอ็นเอ อีกครั้ง เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง
    ด้านพล.ต.ต.ธวัชชัย มวญนรา ผบก.ตร.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบพยานไปแล้ว 10 ปาก ได้เก็บหลักฐานรวบรวมเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ก็ขอให้จับตัวนางรุจิรา และนายฮามัวนี่ได้เสียก่อน เพราะทราบว่า มีผู้ร่วมกันกระทำความผิดอีก 3 ราย ซึ่งในวันนี้ เราได้เข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุอีก 3 จุด ซึ่งก็พบเบาะแสเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆมากมาย โดยเฉพาะ ถังน้ำ ที่อยู่ในบ้านของนางรุจิรา และปรากฏว่า ถังใส่น้ำนั้นไปอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่า นางรุจิราได้นำถังไปใส่น้ำมัน เพื่อเผาร่างนายจูเซปเป้ 
    ส่วนกรณีเรื่องโทรศัพท์มือถือของนางรุจิราที่ทราบว่ามีการโทรครั้งสุดท้ายนั้นอยู่ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นได้ปิดเครื่อง ล่าสุดทราบว่า นางรุจิรา ได้นำโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว เข้าไปที่ห้างแม็คโค และเปลี่ยนเครื่องใหม่ ซึ่งตอนนี้ เชื่อว่า นางรุจิรา กำลังติดต่อขอความช่วยเหลือจากคนรู้จัก เพราะหลังจากที่ก่อเหตุ นางรุธจิรา ได้นำบัตรเอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ของนายจูเซปเป้ ไปกดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย และก็ได้กดเงินไปจนหมด ซึ่งตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งล่าตัวอย่างกระชั้นชิด คาดว่าอีกไม่นานต้องได้ตัวอย่างแน่นอน เพราะเงินของนางรุธจิรานั้นหมดแล้ว
    ส่วนนายฮามัวนี่นั้นไม่มีเงินเพราะเป็นบุคคลต้องห้าม ติดแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศไทย  แต่ก็รู้จักวิธีการหนี เพราะลักลอบเข้ามาเมืองไทย โดยการแอบผ่านเข้ามาทางประเทศลาว และขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลในการอนุญาตให้ออกหมายจับ นางรุธจิรา และนายฮามัวนี่แล้ว
    ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งเบาะแสว่า นายฮามัวนี่นั้นมีบาดแผลถูกฟันที่ใบหน้า เป็นทางยาว  หากผู้ใดพบเห็นให้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ทันที .        


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"