'กานต์'รุดช่วย'เสก'-'เสือ'ย้ำพ่อหลอนเห็นบ้านเป็นวัด!


เพิ่มเพื่อน    

 

          หลังจากร็อกเกอร์คนดัง เสก โลโซ หรือ เสกสรรค์ ศุขพิมาย ไลฟ์สดติดต่อกันทั้งวันทั้งคืนเกือบอาทิตย์จนหลายคนเป็นห่วงว่านักร้องหนุ่มจะมีอาการป่วยเป็นโรคไบโพลาร์หรือไม่ ล่าสุดทางด้านอดีตภรรยาอย่าง กานต์-วิภากร และลูกชายคนโต เสือ-เสฏกานต์ ศุขพิมาย ได้มาเปิดใจถึงการรุดเข้าช่วยเหลือ เสก โลโซ ถึงในบ้านพัก ผ่านรายการโหนกระแส
          "เขาเป็นไบโพลาร์มา 10 กว่าปีแล้ว เขาจะเป็นซึมเศร้า ไม่ออกจากบ้าน ไม่เจอใคร เป็นทุกข์ตลอดเวลา อยู่กับใครไม่ได้ ทำอะไรไม่สนุก ไม่อยากทำอะไรเลย เขาจะเป็นซึมเศร้า คุยกับกานต์คนเดียว ต้องอยู่เป็นเพื่อนเขาตลอดเวลา ขนาดลูกยังไม่กล้าเจอเลยเขาซึมเศร้ามาก ไม่อยากให้เห็นในสิ่งที่เขาเป็น เขาขังตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่อยากให้ลูกเห็นเดี๋ยวลูกเป็นทุกข์
          ในความรู้สึกกานต์เสกไม่มีความคิดจะฆ่าตัวตาย แต่วันที่เขาไลฟ์ ก่อนเข้ารับการรักษาตัว เขามีร้องไห้ช่วงก่อนตัดไลฟ์ 10 ปีก่อนก็รักษาตอนนั้นยังไม่ได้คิด แต่คิดว่าเข้าทางธรรม เสกซื้อหนังสือธรรมะมาอ่านเยอะมาก เสกชอบท่านพุทธทาส แต่ไม่ช่วยทำให้เขาดีได้ เขาเลยเปลี่ยนไปหาหมอ หมอจะให้ยาปรับอารมณ์เป็นไบโพลาร์ พอปรับอารมณ์ดีขึ้นเขาก็หาย แต่โรคนี้ต้องไปตามนัดทุกครั้งเพื่อให้หมอปรับยา พอเขาร่าเริงถ้าไม่ปรับยาจะร่าเริงผิดปกติ และจะกลายเป็นไบโพลาร์อีก เมื่อก่อนเขาไปหาหมอปกติกานต์พาไป
          ที่เสกเคยมีปัญหากับคุณหมอ อันนั้นคือมีเรื่องบำบัดยาเสพติด เขาก็บำบัดที่ธัญลักษณ์ หลังจากนั้นเราไม่รู้ แต่เห็นเขาตรวจฉี่โชว์ก็ไม่มีสาร ไบโพลาร์จริงๆเป็นโรคร้ายแรงถ้ารักษาไม่ถูกวิธี แล้วคนดูแลต้องศึกษาวิธีการดูแลด้วย ถ้ารักษาไม่ถูกวิธี สุดท้ายอาจถึงขั้นฆ่าตัวตาย เหมือนที่ฝรั่งเขาตายเยอะแยะ แต่ถ้ารักษาถูกวิธีพบหมอเป็นประจำไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล"

 

 

ด้านน้องเสือ-เสฏกานต์ ศุขพิมาย ลูกชายคนโตของนักร้องหนุ่มได้เผยถึงอาการคุณพ่อว่า
          "เมื่อก่อนพ่อไม่เป็นแบบนี้ ในสายตาเสือพ่อเป็นคนร่าเริง ชอบคุยกับลูกชอบเล่นกับลูก ตอนอยู่ด้วยกันที่บ้านเก่า พ่อเขาเป็นคนซึมเศร้า อาการพวกนี้ไม่ค่อยโชว์ออกให้ลูกเห็น เขาคงไม่อยากให้ลูกเห็นว่าเขาเป็นคนอ่อนแอ ผมไม่ได้ว่าเขาเป็นคนอ่อนแอแต่เขาเก็บความรู้สึก คนเป็นพ่อเขาอยากให้ลูกเห็นว่าเขาเป็นคนแข็งแรง เป็นหัวหน้าครอบครัว
          ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยไปดูไลฟ์สดพ่อเลย พูดตรงๆ ผมเพิ่มรู้ว่าเขาไลฟ์สด 24 ชั่วโมง เมื่อ 3 วันที่แล้วเอง เรื่องข่าวเรื่องพ่อ เรื่องสื่อ ผมรู้เลทมากๆ เพราะผมไม่อยากดูเอง เรื่องพ่อมีมาหลายปีแล้ว เรื่องข่าวเรื่องหย่ากับคุณแม่ มีมาเยอะ ผมก็ไม่ดูเลย อยากจะผลักส่วนนี้ในชีวิตเราออกไปก่อน เพราะเราอยากจะโฟกัสเรียนอย่างเดียว และดูแลน้องๆ แต่ตอนนี้ผมอายุ 21 แล้ว หนีไม่ได้แล้ว เรียนก็จะจบแล้ว เรื่องนี้คือชีวิตของผม ตอนนี้พ่อเขาแตกจากโลกของความเป็นจริงที่ผมอยู่
          โลกความคิดต่างๆของไบโพลาร์และความซึมเศร้า สิ่งที่อยู่รอบข้างเขา ยา พวกผู้หญิงอาจมากระทบในสมอง ทำให้เขาอาจจะแย่กว่าเดิม ผมก็เป็นห่วง ผมอยากให้เขากลับมาเป็นคนเดิม ที่อยากจะรู้ว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร นี่คือสิ่งที่ผมอยากรู้มากที่สุดตอนนี้
          ผมกลับจากอเมริกามา 3 เดือนกว่า อยู่โน่นก็คุยกันตลอดทางไลน์ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกับพ่อแล้ว กลับมาพฤษภาคม ผมก็ไปเยี่ยมเขาครั้งนึง เจอกันก็ตกใจ เขาโทรมมาก บ้านหลังนั้นมันเละ มีฉี่หมาขี้หมาเต็มไปหมด ตอนนี้โรคมันทำให้อารมณ์เขาขึ้น คิดว่าจะมีคนมาทำร้าย เป็นเพราะโรคไบโพลาร์มองในสิ่งที่ไม่เหมือนคนอื่นมองเขาเลยไล่คนงานออก ในบ้านก็มีแค่พ่อกับแฟน
          คนหลายคนเขาไม่เข้าใจโรคนี้ ผมก็ไม่เข้าใจครับ ตอนแรกก็งง ไปอ่านไปรีเสิร์จก็ได้แค่นั้น เราไม่ได้เป็นเราก็ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงทำไมเขาถึงด่า คนที่ด่าเขาจะด่าไปทำไม มันไม่มีเหตุผล ด่าแล้วได้อะไร เขาเป็นคนป่วย สมองเขาไม่ได้คิดทางปกติแล้ว"


นอกจากนี้ ในการช่วยเหลือ เสก โลโซ ครั้งนี้โดยมีการเอารถพยาบาลไปรับ น้องเสือก็ยอมรับว่าตนมีส่วนด้วย
          "ใช่ครับ ตั้งแต่การวางแผน แม่มาปรึกษากับผมก่อนว่าเขาต้องทำอะไร ต้องช่วยยังไง มันต้องช่วยเหลือจริงๆ ไม่ช่วยไม่ได้ การที่ผมช่วยคือการเข้าไปในบ้าน บ้านนั้นคือชื่อของผม ผมมีสิทธิ์เข้าไปอยู่แล้ว ตอนเข้าไปบ้านพ่อ ยามก็โทร.ไปเช็กพ่อว่าจะให้เข้าหรือเปล่า บ้านเป็นชื่อผม
          ด้าน กานต์ เสริมว่า "ที่เสกโทร.สั่งว่าบ้านเป็นของเขา ใครจะเข้าไปต้องบอกเขาก่อน แต่เสือเขามีสิทธิ์ในตัวเสก เขาเป็นทายาทโดยชอบธรรม อายุก็บรรลุนิติภาวะ สามารถเอาเข้ารพ.อะไรได้หมด แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่กานต์นี่ไม่ได้เพราะหย่าแล้ว อีฟก็ไม่ได้ เสือได้คนเดียว เขาสามารถเซ็นอะไรได้หมด
          ตอนแรกจะไม่ยุ่ง แฟนคลับมาขอให้ช่วยพี่เสก ก็โพสต์ไปเลยว่าไม่ใช่นางฟ้า จะได้ช่วยทุกคน แล้วแฟนคลับมาขอเรื่อยๆจนเข้าไปดู ด่ากานต์ไม่ซีเรียสเพราะพวกเกรียนมันด่าทุกคนที่เป็นคนดังในโลกโซเชียล แต่คนที่มองเขาเป็นตัวตลก กานต์รับไม่ได้ ด่าช่างมัน ไม่สนใจ แต่ถูกมองเป็นตัวตลกเราสะเทือนใจ ก็รู้สึกว่าเราช่วยดีกว่า จิตแพทย์หลายคนวิเคราะห์ ขั้นต่อไปเสกต้องฆ่าตัวตายแล้ว อันนี้เป็นขั้นสุดท้ายของไบโพลาร์ กานต์เลยต้องช่วย อีฟจัดการอยู่ภายใน เราจัดการภายนอกประสานกัน ตอนแรกยอมรับว่าเสกมีการขัดขืน สุดท้ายเจ้าหน้าที่เอาตัวออกมาได้ค่ะ"

 

 

คุณพ่อคุณแม่มีเรื่องเข้ามาตลอดทำให้ลูกชายคนโตอย่าง "เสือ" ยอมรับว่าห่วงความรู้สึกน้องๆมาก
          "การดูแลครอบครัวก็ยากขึ้น เพราะพ่อเขาไม่ได้ทำงานนานแล้ว เขาต้องรักษา เราก็ต้องเป็นคนเลี้ยงน้อง เลี้ยงแม่ กังวลมั้ยก็มีกังวล ก็เครียด แต่เรื่องนี้มีมาหลายปีแล้วจนผมชินแล้ว ผมจัดการเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก คือมองแค่การเรียนและสิ่งที่ผมต้องโฟกัสในเวลานั้นอย่างเดียว เรื่องพ่อ เรื่องแม่ เหตุการณ์แบบนี้ผมผลักมันไปก่อน
          น้องๆเป็นสองคนที่ผมห่วงมากที่สุด แม่เขาเข้มแข็งเขาอยู่ได้ น้องเขายังเด็ก น้องเล็กลอนดอนไม่รู้อะไรมาก แต่เขาก็รู้ ผมก็เป็นห่วง ผมไม่ได้อยู่กับเขาถาวร ผมอยู่อเมริกา เขาอยู่กรุงเทพฯ ก็ดูกันยาก โตขึ้นจะมีปัญหาหรือเปล่าก็เป็นห่วง ทุกคนที่ก็พยายามช่วยน้อง ไม่ให้เขากังวล ปมในหัวใจผมพูดจริงๆมันเกิดแล้ว เรื่องนี้เป็นตั้งแต่ 10 ปี พ่อแม่ทะเลาะกัน พ่อเป็นไบโพลาร์ ซึมเศร้ามานาน 10 ปีแล้ว น้องก็เก็บกด เข้าไปในหัวใจ ความคิด สมองอยู่แล้ว"

อาการ เสก โลโซ เป็นหนักถึงขั้นเห็นภาพหลอน?
          "เขาใส่ชุดนี้ทุกวัน ผมไปเจอเขาปลายเดือนห้าเขาก็ใส่ชุด-หมวกนี้ ไม่ได้ตัดผม เขาอยู่อย่างนี้อยู่ในห้องเดียว ผมบอกทำไมพ่อไม่ทำความสะอาด ทำไมนั่งห้องเดียว เขาบอกว่าโต๊ะมีพระอยู่ ตรงนี้เป็นวัด ไม่ควรจับ ไม่ควรทำความสะอาด โต๊ะที่เขาบอกเป็นพระ เพราะเป็นโต๊ะไม้มีกระจกวางบนโต๊ะ มีน้ำซึมเข้าไป เขาคิดว่าน้ำเป็นรูปพระ แล้วเสือก็บอกเขาว่ามันเป็นแค่น้ำ เขาก็บอกว่าเสือไม่มีบุญ มองไม่เห็น หมอเลยวิเคราะห์ว่านี่ถึงขั้นขั้นสุดท้ายแล้วหลอนแล้ว" เสือกล่าว

 

 

ส่วน กานต์ อยากขอโอกาสสังคมให้โอกาสอดีตสามีอีกครั้ง
          "อยากบอกว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ขอโอกาสให้เขาอีกสักครั้งหนึ่ง เพราะมันเกิดจากโรค ถ้าเกิดเขาหายออกมา ถ้ามาไลฟ์ด่ากานต์ว่าไปจับตัวเขาอีก อันนี้ขอลาจริงๆ อันนี้ทำโดยไม่ได้หวังจะกลับมาเป็นครอบครัว ทำเพราะว่าขนาดหมาแมวยังช่วยได้ ถ้าเขาไม่ใช่เสก โลโซ หรืออดีตสามีเรา เป็นคนอื่น ถ้าเราช่วยได้ก็ช่วย แต่นี่เขาเป็นถึงพ่อของลูก แล้วเป็นตัวตลกแบบนี้ รับไม่ได้ สะเทือนใจ"
          สุดท้ายเมื่อร็อกเกอร์หนุ่มเข้ารับการรักษาแล้วต้องกลับมาอยู่บ้านนั้น อดีตภรรยาอย่างกานต์ยอมรับว่ากังวลไม่น้อย เพราะกลัวจะมีอาการกำเริบอีกหากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง

 

 

 

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"