กกต.แจงไทม์ไลน์เลือกตั้ง 24 ก.พ.62 เร็วสุด และช้าสุด 5 พ.ค. เป็นตุ๊กตาที่ตั้งไว้ตามกรอบที่หารือกับรัฐบาล คสช.และพรรคการเมือง ส่วนจะช้าหรือเร็วขึ้นกับการคลายล็อก ปชป.แนะดูอดีต กกต.เป็นบทเรียน รับใช้ผู้มีอำนาจโดยมิชอบจนติดคุก "กลุ่มสามมิตร" ออกลายศรีธนญชัย ห้ามชุมนุม 5 คนก็จะไป 4 คนเย้ย พท.อาจแพ้ถล่มทลาย "แม้ว-ปู" โผล่แสดงความเสียใจเลขาฯ ยูเอ็นเสียชีวิต "เหลิม" มั่นใจหากวางมือ "ลูกวัน" ได้เป็น รมต.แน่ ลั่นไม่กลัว คสช. ท้าแน่จริงให้ปลดล็อก
ที่โรงแรมพินนาเคิล แกรนด์ จอมเทียน พัทยา วันที่ 19 สิงหาคม นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงแผนปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.ของ กกต. ที่กำหนดวันเลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562 ว่า เป็นการเตรียมความพร้อมสำนักงานที่ได้กำหนดแผนปฏิบัติการเพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้ทำงานไปตามแผน โดยวันดังกล่าว กกต.ไม่ได้กำหนดเร็วหรือช้าไป แต่เป็นที่รัฐบาลและพรรคการเมืองได้เคยหารือและกำหนดกันไว้ ว่าถ้า พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ใช้บังคับ จะต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จใน 150 วัน วันที่จะจัดการเลือกตั้งเร็วที่สุดคือ 24 ก.พ. และช้าสุดคือ 5 พ.ค. ซึ่งเราพร้อมตั้งแต่กำหนดแรกอยู่แล้ว
"ส่วนจะมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นที่ กกต.จะไปพิจารณา สำหรับแผนปฏิบัติการที่ทางสำนักงานกำลังดำเนินการยกร่างฯ ในขณะนี้ ทางสำนักงานก็จะมีการเร่งสรุปและเสนอให้ กกต.เห็นชอบโดยเร็ว ซึ่งน่าจะลงนามก่อนกฎหมายลูก 2 ฉบับมีผลบังคับใช้"
นายอิทธิพรกล่าวชี้แจงถึงการสรรหา ส.ว.ว่า ไม่ได้ดำเนินการ 3 วันอย่างที่สังคมอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่เนื่องจาก ส.ว.จะต้องมีการสรรหาในระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ ซึ่งในแต่ละระดับจะทำพร้อมกันวันเดียวกันทั้งประเทศ รวมแล้วจะทำไม่เกิน 3 ครั้ง ไม่ใช่ทำ 3 วัน และจากแผนงานเชื่อว่าสามารถดำเนินการได้ทันแล้วเสร็จตามกฎหมายกำหนด คือก่อนเลือกตั้ง ส.ส. 15 วัน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า การกำหนดวันดังกล่าวเพื่อเป็นกรอบการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน โดยพิจารณาจากกฎหมายลูก การเลือกตั้งส.ส.ที่คาดว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษากลางเดือน ก.ย. และมีผลบังคับใช้ในกลางเดือน ธ.ค. ซึ่งจะเข้าสู่การนับระยะเวลา 150 วันที่ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จตามรัฐธรรมนูญกำหนด โดยจากการหารือร่วมคสช. กกต. และพรรคการเมืองก่อนหน้านี้ ก็มีการกำหนดวันเลือกตั้งคร่าวๆ เร็วสุดคือวันที่ 24 ก.พ.62 และช้าสุดคือ 5 พ.ค.62 เพราะกรอบเวลาครบ 150 วัน ในวันที่ 11 พ.ค. แต่ทั้งนี้การจะกำหนดเลือกตั้งที่แท้จริงต้องคำนึงถึงข้อ 8 ของคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560
"ดังนั้นจึงต้องดูความพร้อมของพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ ด้วย เพื่อให้การเลือกตั้งสมบูรณ์ ในส่วน กกต. ถือว่าเตรียมเพื่อให้พร้อมในการจัดการเลือกตั้งให้มากที่สุด วันที่ 24 ก.พ.62 จึงเป็นเพียงตุ๊กตาที่เราตั้งไว้เท่านั้น ทั้งนี้ จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับการคลายล็อกของ คสช." พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว
นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า งานด้านพรรคการเมืองที่ กกต.ต้องรับผิดชอบ จะเกี่ยวข้องกับกฎหมาย 3 ฉบับ คือ พ.ร.ป. ว่าด้วย กกต., พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งในส่วนของการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง กฎหมายใหม่กำหนดให้ประชาชนต้องมีส่วนร่วมต้องมีการทำไพรมารีโหวต โดยมีหลักการคือ พรรคการเมืองที่มีสิทธิส่งผู้สมัครจะแตกต่างกัน เพราะพรรคเก่าจะต้องมีอย่างน้อย 4 สาขา แต่พรรคใหม่ส่งได้เลย วันนี้มีพรรคตามกฎหมายเดิม 69 พรรค พรรคที่แจ้งชื่อใหม่ 117 พรรค รับจดทะเบียนไปแล้ว 4 พรรค ทุกวันนี้ไม่มีพรรคการเมืองใดเลยที่มีสาขาพรรค เนื่องจากถูกเซตซีโรหมด แต่ละพรรคจะต้องไปหาสมาชิกเพื่อจัดตั้งสาขาพรรค หรือตัวแทนประจำจังหวัดเพื่อทำไพรมารีโหวต แต่ยังไม่สามารถหาสมาชิกพรรคได้ เพราะติดคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560
ไพรมารี 7+9 รูปแบบ
นายแสวงกล่าวว่า การทำไพรมารีโหวตมีรูปแบบทั้งหมด 7+9 รูปแบบ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน หัวหน้าพรรคก็จะต้องเป็นคนเซ็นรับรอง ส่วนการทำไพรมารีโหวตแบบภาค ไม่ได้ทำให้กระบวนการทำไพรมารีโหวตน้อยลงเลย เพราะกฎหมายกำหนดให้สมาชิกพรรคในเขตนั้นๆ ต้องมีส่วนร่วม สำหรับ กกต. คิดว่าเรื่องไพรมารีโหวตจะไม่เป็นปัญหา เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนเราก็สามารถทำได้ เราได้เตรียมขั้นตอนไว้แล้ว
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี กกต.ชุดใหม่เปิดโรดแมปการเลือกตั้งว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ทั้ง 4 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งต้องรอให้มีผลบังคับใช้ 90 วัน จากนั้นอีกไม่เกิน 150 วัน ตนเชื่อว่าการที่ กกต.กำหนดวันขึ้นมาเป็นการคำนวณตามเวลาที่ระบุไว้ แต่เวลาที่กำหนดไว้ก็สามารถยืดหยุ่นได้เสมอ จึงเป็นเพียงการวางกำหนดการไว้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น
"สิ่งที่สำคัญคือ พรรคการเมืองต้องสามารถดำเนินการตามบทบัญญัติของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 คือการตั้งสาขา การมีสมาชิก การประชุมใหญ่ของพรรค และการแก้ข้อบังคับพรรค เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย คิดว่าตรงนี้น่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน หลังจากนั้นทุกพรรคสามารถลงแข่งขันในการเลือกตั้งได้ ถ้ายอมคลายเงื่อนไขทางกฎหมายเพื่อให้พรรคการเมืองเดินหน้าแบ่งเขตการเลือกตั้งได้จะดีที่สุด ซึ่งการจัดทำไพรมารีโหวตต้องเป็นไปตามกฎหมาย" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า การทำงานของ กกต.ชุดใหม่ คงได้รับการจับตามองจากสังคมมากเป็นพิเศษ เพราะ กกต.เป็นองค์กรอิสระที่มีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญในการจัดหรือดำเนินการให้มีการเลือกตั้ง ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งต้องยอมรับว่าการทำงานของ กกต.ไม่ใช่เรื่องง่าย ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้มีอำนาจมาจากการปฏิวัติรัฐประหาร และมีแนวโน้มว่าผู้มีอำนาจประสงค์จะอยู่ในอำนาจต่อไปตามกระบวนการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กกต.จึงต้องพึงระวังไม่กระทำการใดๆ ให้เกิดการเคลือบแคลงสงสัยว่าอยู่ภายใต้การแทรกแซงจากผู้มีอำนาจ
ให้ดูอดีต กกต.เก่าติดคุก
"การที่ประธาน กกต.คนใหม่ประกาศคาถาในการทำงานว่าต้องเป็นกลาง มีความกล้าหาญตัดสินใจ ไม่ถูกครอบงำจากอำนาจใดๆ นับเป็นการเริ่มต้นแสดงจุดยืนที่ดี ที่อยากเอาใจช่วยให้ กกต.ท่องคาถานี้ให้ขึ้นใจ และนำมาใช้ในการทำงานอย่างจริงจัง จะช่วยทำให้การทำงานของ กกต.ได้รับการยอมรับจากสังคม ขอฝากให้ กกต.ดูการทำงานของ กกต.คณะต่างๆ ที่ผ่านมาเป็นบทเรียน เพราะมีทั้ง กกต.ที่ทำงานรับใช้ผู้มีอำนาจโดยมิชอบ จน กกต.ต้องติดคุกติดตะรางไปหลายคน" นายองอาจกล่าว
นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการทำหน้าที่ของ กกต.ชุดใหม่ ฟังจากความเห็นของนายอิทธิพร พอมีความหวัง ดูจากประวัติการเป็นนักกฎหมายและนักการทูต มีประสบการณ์ต่างๆ รวมทั้งในคดีที่ศาลโลกจะทำให้ท่านทำหน้าที่ได้ การที่เคยอยู่ต่างประเทศ คงเห็นว่าบ้านเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพ ประชาชนก็จะมีความสุข จึงหวังว่า กกต.ชุดใหม่จะเดินหน้าเตรียมจัดการเลือกตั้งครั้งสำคัญ และทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อไป เสรี เป็นธรรม และมีความน่าเชื่อถือ และขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนว่า กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.2562 ก็นับว่าเป็นการชี้ทิศทางที่ดีและชัดเจน
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า ที่ กกต.ประกาศวันเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 นั้น แม้หลายฝ่ายจะขานรับและดูเหมือนทำให้การเมืองผ่อนคลายลงไปบ้างก็ตาม แต่ก็น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่มีสัญญาณตอบรับจาก คสช.ว่าคิดเห็นอย่างไร ถ้าดูข้อเท็จจริงการกำหนดวันเลือกตั้งเร็วสุดไว้ที่ 24 ก.พ.62 หมายความว่า คสช.ต้องปลดล็อกพรรคการเมืองภายในเดือนกันยายนนี้เท่านั้น ถึงจะทัน โดยเฉพาะขั้นตอนการทำไพรมารีโหวต แต่ถ้าจะงดเว้นไพรมารีโหวต ก็อาจมีคนยื่นตีความอีกว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งแน่นอนจะล่าช้าไปอีก การกำหนดวันเลือกตั้งต้องทำให้ชัดเจน ตรงไปตรงมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประชุมหารือร่วมกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างพูด แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นจริงสักครั้ง ต้องถาม กกต.เหมือนกันว่าได้บวกเอาเรื่องของการทำไพรมารีโหวตของพรรคการเมืองไปด้วยหรือไม่ และคิดเห็นอย่างไรที่มีหลายพรรคจ้องจะล้มไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งครั้งนี้
พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า หลังจากที่ กกต.ประกาศเปิดโรดแมปวันเลือกตั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการต่อไป คสช.ก็ยังคงดูแลความสงบเรียบร้อย เพื่อประคับประคองสถานการณ์ให้มีความสงบ นำไปสู่การเลือกตั้งได้อย่างเรียบร้อย สถานการณ์ด้านความมั่นคงและการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงนี้ คสช.ยังคงติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง และไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงและน่าวิตกกังวล ที่จะเป็นปัจจัยทำให้โรดแมปการเลือกตั้งเลื่อนออกไปอีก ทุกกลุ่มยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่กระทบความมั่นคง ถ้าพรรคและกลุ่มการเมืองใดเคลื่อนไหวขัดและผิดกฎหมาย เราก็จะดำเนินการตามกระบวนการ เชื่อว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ของประเทศให้มีความสงบเรียบร้อยได้
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกลุ่มสามมิตรระบุจะเคลื่อนไหวน้อยลงว่า สิ่งที่กลุ่มสามมิตรได้ดำเนินการเคลื่อนไหว หากผิดกฎหมายก็ถือว่าความผิดสำเร็จไปแล้วหรือไม่ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าเดินแรงหรือเดินเบา แต่อยู่ที่ว่าเป็นการกระทำความผิดหรือไม่ ขณะนี้เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่าการเดินสายดูดอดีต ส.ส. และทำกิจกรรมคู่ขนานกับรัฐบาล คสช.ของกลุ่มสามมิตรนั้น ไม่ได้ต้องการให้มาช่วยเป็นเครือข่ายสนับสนุนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง แต่ต้องการใช้เป็นเครื่องมือ มาแสดงให้ประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมืองว่าเห็นไหมการเมืองยังน้ำเน่า ต้องปฏิรูป ยังมีการพูดจาพาดพิง ใส่ร้ายกัน ยังมีการเดินสายดูด แสดงว่าการเมืองยังอยู่ในวังวนเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง จึงยังไม่พร้อมที่จะให้มีการเลือกตั้งหรือไม่
นายอนุสรณ์กล่าวว่า กลุ่มสามมิตรจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ จะมีแม่ทัพภาคหรือบิ๊ก คสช.อุ้มอย่างไร ประชาชนจับตาดูอยู่ แต่อย่ามาพาดพิงพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่ใช่คู่เทียบหรือบันไดให้ใครไต่ข้าม ขอฝากถึง กกต.ชุดใหม่ ให้รับเอาข้อสังเกตและคำเตือนถึงความสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายกระทำความผิดของกลุ่มสามมิตรหรือไม่ และใช้กรณีนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการแสดงจุดยืนว่ามีความกล้าหาญ มีสุจริตคือเกราะคุ้มครองอย่างไรหรือไม่
ศรีธนญชัยชุมนุม 4 คน
ด้านนายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำและเลขาฯ กลุ่มสามมิตร กล่าวว่า กลุ่มสามมิตรจะเดินหน้าเข้าหาประชาชนปกติอยู่ทุกวัน ไม่มีอะไรน้อยลง แต่อาจจะปรากฏทางข่าวสารไม่เท่าเดิม คือการไปเดินหาพูดคุยกับประชาชนก็จะไม่มีการออกทีวีหรือสื่อหนังสือพิมพ์ ซึ่งเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมาได้ไป อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ พบประชาชนชาวบ้านกำลังเดือดร้อนมากกับพื้นที่แล้ง แม่น้ำมูลแห้ง และเมื่อ 6 วันที่ผ่านมาได้ไป จ.ชัยภูมิ รับปัญหาของชาวไร่อ้อยเพราะราคาตก นี่คือสิ่งที่สามมิตรต้องเดินทางเพื่อสะท้อนปัญหา ฉะนั้นสามมิตรไม่ได้ลดในการเดินหาประชาชน แต่กลับยิ่งคล่อง เพราะไม่ต้องพะวังหน้าพะวังหลัง วันนี้เราไม่กลัวใครจะว่าเราสต็อปในการเดินทาง แต่เขาบอกห้ามชุมนุมเกิน 5 คน สามมิตรก็จะชุมนุมทีละ 4 คนก็ได้ คงไม่ผิดกฎหมาย
แกนนำกลุ่มสามมิตรกล่าวว่า ที่ กกต.ใหม่บอกจะเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 สามมิตรถึงจะต้องใช้การวิ่งหาประชาชนแทน วันนี้สามมิตรไม่ใช่พรรคการเมือง เป็นกลุ่มความคิด ไปหาความต้องการของประชาชน เรายังเดินต่อไปวันที่ 24 ส.ค.61 สมาคมโคเนื้อ จ.ขอนแก่นร่วมกับ ม.ขอนแก่น เชิญสามมิตรไปแลกเปลี่ยนทัศนคติโคเนื้อที่คิดตรงกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มสามมิตรก็ต้องไปร่วมด้วย แต่ไม่ได้ไปหาเสียง ส่วนนายสมศักดิ์จะมีเซอร์ไพรส์แน่นอน แต่บอกไม่ได้ จุดยืนของสามมิตรสนับสนุนคนทำดีให้กับประชาชน ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำงานดีให้กับประเทศชาติ เราก็สนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทำงานดีช่วยคนยากคนจนถูกโกงจากนายทุนก็สนับสนุน
"พรรคเดิมผมชนะถล่มทลายจริงตอนปี 2554 แต่ปีนี้ 2561 หรือ 2562 มันยังไม่ถึงเลย มันอาจจะถล่มทลายตรงข้ามก็ได้ ก็คืออาจจะแพ้ถล่มทลายก็ได้ เพราะปีนี้ 2561 ยังไม่ถึง 2562 เลย" นายภิรมย์กล่าวถึงกรณีนายทักษิณยืนยันหนักแน่นว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะถล่มทลาย
ด้านนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนักโทษหนีการจำคุก 2 ปี เริ่มแสดงบทบาทความเคลื่อนไหวแล้ว โดยได้โพสต์เฟซบุ๊กต่อเนื่องติดกันถึง 2 วัน ล่าสุดแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พร้อมโพสต์รูปที่เคยเดินคู่กับนายโคฟี รวมทั้งจดหมายที่แสดงความเสียใจ ที่ส่งผ่านไปยังนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นคนปัจจุบัน เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งนายทักษิณใช้สถานะตัวเองว่าเป็นอดีตนายกฯ ทั้งนี้ การโพสต์ของนายทักษิณ ได้มีการดำเนินการหลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โพสต์ไปก่อนหน้าไม่นานนัก
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ในเวลา 18.46 น. นายทักษิณได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน พร้อมทั้งแสดงจดหมายถึงนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เพื่อแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของนายอตัล พิหารี วัชปายี อดีตผู้นำพรรคชาตินิยมฮินดู ภารติยะ ชนะตะ (บีเจพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลอินเดียในปัจจุบัน ทั้งนี้ นายทักษิณยังโพสต์รูปที่เคยจับมือกับนายวัชปายีด้วย
"ปู"อ้างนายกฯ คนที่ 28
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งปัจจุบันยังมีสถานะนักโทษหนีคดีจำนำข้าว โทษจำคุก 5 ปี ได้ใช้ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจกรณีนายโคฟี อันนัน เสียชีวิต โดยมีข้อความว่า ดิฉันรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินข่าวการจากไปของนายโคฟี อันนัน หนึ่งในรัฐบุรุษของโลก ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อองค์กรภายใต้องค์การสหประชาชาติทุกหน่วยงานในการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ผลงานของนายโคฟี อันนัน ถือเป็นมรดกอันล้ำค่า ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ชาวโลกมากมาย ได้ยึดมั่นในสันติภาพ สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรม
"ดิฉันจะจดจำข้อแนะนำเกี่ยวกับอนาคตประเทศไทยที่ท่านเคยได้มอบไว้ ตลอดจนความอบอุ่นที่ตัวท่านได้สร้างความประทับใจให้กับดิฉัน พร้อมกันนี้ดิฉันขอส่งความรู้สึกเสียใจกับสมาชิกในครอบครัวของท่านด้วย"
ในเฟซบุ๊ก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้โพสต์รูปที่จับมือกับนายโคฟี พร้อมยังได้แนบหนังสือแสดงความเสียใจถึง นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติคนปัจจุบันด้วย ซึ่งน่าสังเกตว่าหนังสือดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ด้วย
ขณะที่สังคมออนไลน์มีการแชร์คลิปงานวันเกิดของนายวัน อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่จัดเลี้ยงขึ้นที่บ้านบางบอน เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยในคลิปดังกล่าว ร.ต.อ.เฉลิมได้กล่าวกับผู้มาร่วมงานหลายร้อยคนว่า วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดลูกวัน อยู่บำรุง ผมนึกถึงสโลแกน ใจถึงพึ่งได้ ชีวิตเขากับผมคล้ายคลึงกัน เฉียดคุกเฉียดตะราง เข้าคุกออกจากคุก สุดท้ายก็ปลอดภัย บรรดาพรรคพวกไม่ต้องห่วงเขา มันเป็นคดีความไปแล้ว ก็ไปรอศาลพิสูจน์ว่าผิดหรือถูกหรือไม่
"ผมมั่นใจว่าวันหนึ่งเมื่อผมวางมือทางการเมือง นายวัน อยู่บำรุง จะได้เป็นรัฐมนตรี (มีเสียงเฮและปรบมือจากกองเชียร์ดังสนั่น) ไม่มีอย่างอื่นให้แปรเปลี่ยนได้ พูดง่ายๆ เหมือนเล่นไฮโล เปิดไฮโลแทง นายวัน อยู่บำรุง เล่นไฮโลรอบนี้คือ การเมืองไม่มีเสีย เพราะมีแต่ชนะ ชนะ ชนะ (เสียงเฮดัง)"
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ขอให้ คสช.ปลดล็อก แน่จริงปลดล็อก อย่าไปนึกว่าผมกลัว ไม่มีกลัว ปลดล็อกเมื่อไหร่ มึงอยู่ กูไป มึงไป กูอยู่ แต่พวกผมต้องอยู่ เพราะผมนามสกุลอยู่บำรุง (เสียงเฮดัง) การเมืองไม่ใช่เรื่องใครกลัวใคร การเมืองเป็นเรื่องของประชาชน
"นี่ผมพูดเป็นความลับต่อหน้าคนหลายร้อยคน อย่าไปบอกใครนะ รอบหน้าเพื่อไทยชนะถล่มทลาย (เสียงเฮดัง) ไอ้สามมิตร ทำเป็นกูรูทางเศรษฐกิจ เอ็งรอเวลาไอ้เหลิมพูดบ้าง กูจะได้บอกท่านประยุทธ์ว่า มึงมาเล่นการเมืองเพราะอะไร ผมขอบอกกับท่านทั้งหลายด้วยหัวใจมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว เอ็งจับเมื่อไหร่กูยอมไปติดคุก มึงปล่อยเมื่อไหร่ก็กลับบ้านกู อวยพรขอให้ลูกวันโชคดี เรื่องที่ผ่านมาให้พ้นไป ขอให้เกิดเรื่องดีๆ ขอให้รักแม่มากๆ ไม่ขอตังค์แม่บ่อยๆ สุขสดชื่นสมหวังจงเป็นของวัน อยู่บำรุง" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |