สุดสลด พระวัย 64 ปีบวชมา 47 พรรษา ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าเณรวัย 8 ขวบ หลังบวชภาคฤดูร้อนแล้วถูกทำโทษทั้งที่เป็นไข้ ด้วยการจับแช่น้ำในกะละมัง ทุบตี จับกดน้ำ ผลักร่างไปชนเสาปูนจนหมดสติ เลือดคั่งในสมอง อยู่ได้แค่ข้ามคืน

    มีรายงานว่า เมื่อคืนวันเสาร์ ร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลูกแก ต.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลมะการักษ์ว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิดอนขมิ้นได้นำสามเณรรูปหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสมาส่งที่ รพ. เมื่อไปตรวจสอบพบสามเณรดิว อายุ 8 ปี มีอาการชักเกร็ง หมดสติ แพทย์ตรวจร่างกายพบว่าแขนทั้ง 2 ข้างหัก คางแตก ตามร่างกายมีร่องรอยเขียวช้ำ มีเลือดคั่งในสมอง อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน ซึ่งต่อมา รพ.มะการักษ์ได้ส่งผู้ป่วยไปรักษาต่อที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา 
    นางสุกัญญา ตุ้นฮิ้น อายุ 31ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/6 หมู่ 5 ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สามเณรที่บาดเจ็บเป็นลูกชาย บวชเรียนภาคฤดูร้อนเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา ตนไม่ทราบอะไรเลย มาทราบเรื่องอีกทีตอนตำรวจให้มาที่ รพ. ทราบจากหมอบอกลูกชายถูกทำร้ายจนอาการสาหัส แขน 2 ข้างหัก มีเลือดคั่งในสมอง อาการเป็นตายเท่ากัน สอบถามเณรรูปหนึ่ง อายุ 11 ปี ทราบว่าถูกหลวงตาศุภชัย พระลูกวัด ทำร้าย ตอนนี้ยังไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
    เจ้าหน้าที่ยังได้นำเณรที่อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบปากคำ ได้ข้อมูลว่า เณรดิวไม่สบาย ถูกหลวงตาบังคับให้แช่น้ำในกะละมัง แล้วทุบตี จับกดน้ำ จากนั้นก็ผลักจนร่างเณรไปชนเสาปูนใต้ฐานศาลาการเปรียญจนคางแตกหมดสติ
    ขณะที่พระศุภชัย บุญลักษณ์ขะ อายุ 64 ปี บวชเรียนมา 47 พรรษา ซึ่งเป็นพระลูกวัดที่ต้องสงสัยว่าเป็นพระที่ทำร้ายสามเณร กล่าวว่า วันเกิดเหตุท่านไปกิจนิมนต์นอกวัด เสร็จกิจนิมนต์กลับวัด แม่ชีมาฟ้องว่าสามเณรดิวแอบปีนโต๊ะชั้นวางของเพื่อไปจับลูกนกลงมาเล่น แล้วตกลงมาคางแตก พระศุภชัยจึงเรียกมาดุด่าว่ากล่าว และลงโทษใช้ไม้เกาหลังตี แต่จำไม่ได้ว่าตีไปกี่ที 
    "อาตมาไม่ได้มีเจตนาทำร้าย สามเณรดิวเป็นสามเณรที่มีนิสัยเกเร ดื้อรั้นมาก ชอบขโมยเงินและบุหรี่ไปแอบสูบ และชอบเอาไฟแช็กไปจุดไฟเผาสิ่งของเล่น เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็แอบเอาไฟแช็กไปเผากระดาษที่ด้านหลังห้องข้างโรงเรียนติดกับวัด หวิดทำให้โรงเรียนไฟไหม้" พระศุภชัยกล่าว และว่า หลังจากทำโทษเณรดิว ท่านก็เดินทางไปทำกิจนิมนต์ฉันเพลนอกวัด เนื่องจากเวลาใกล้เพล
    ด้านอาการของเณรดิว ปรากฏว่าทรุดลงเป็นลำดับ แพทย์ระบุว่ามีเลือดคั่งในสมอง โอกาสรอดชีวิตเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ จึงได้แจ้งให้พ่อและแม่เดินทางมาพบเพื่อแจ้งรายละเอียดให้ทราบ โดยให้ผู้เป็นพ่อถอดท่อออกซิเจนออก เณรดิวจึงจากไปอย่างสงบ
    หลังจากนั้น ตำรวจได้เดินทางไปนิมนต์พระศุภชัย ซึ่งติดกิจนิมนต์ฉันเพลนอกวัด เพื่อไปสอบปากคำที่ สภ.ลูกแก ก่อนจะนิมนต์พระศุภชัยไปให้พระครูสุพัฒนกาญจนกิจ เจ้าคณะตำบล ทำการสึกออกจากการเป็นพระ แล้วควบคุมตัวดำเนินคดีข้อหาฆ่าคนตาย.