ครอบครัวส่ง เสก โลโซ เข้าโรงพยาบาลรักษาโรคอารมณ์สองขั้ว หลังไลฟ์สดข้ามวันข้ามคืนติดต่อกันยาวนาน ขณะที่เจ้าตัวก็ยอมรับ "รู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นบ้า" กานต์เผยอดีตสามีป่วยระยะสุดท้าย ต่อไปคือการฆ่าตัวตาย ขณะที่อีฟเมียใหม่บอกตนเองและแม่จะดูแลร็อกเกอร์ชื่อดังให้ดีที่สุด แฟนคลับแห่ให้กำลังใจ

    มีรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรืเสก โลโซ นักร้องนักดนตรีชื่อดัง ได้ถูกครอบครัวนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาอาการไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder) โดยขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี
    โรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นโรคที่มีอารมณ์แปรปรวน ผู้ป่วยจะมีความผิดปกติทางอารมณ์ คือมีอารมณ์ดีมากจนผิดปกติ หรืออยู่ในภาวะอารมณ์ดีตื่นตัวผิดปกติ สลับกับมีภาวะซึมเศร้าอย่างหนัก ทำให้เกิดความยากลำบากต่อการทำงาน การเข้าสังคมและการใช้ชีวิต
    ก่อนหน้านี้ เสก โลโซ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 5 วันโดยไม่หลับไม่นอน และเมื่อวันที่ 16 ส.ค. เสกได้ประกาศว่าจะหยุดไลฟ์แล้ว แต่ก็ยังกลับมาไลฟ์ต่อ และในบางช่วง เสกได้ร้องไห้ขณะนั่งฟังเพลง นอกจากนี้ยังได้พูดถึงอาการป่วยของตัวเองอีกด้วยว่า 
    “เพื่อให้ทุกคนสบายใจ จะไปหาหมอรักษาโรคประสาท รู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นบ้า จะแวะไปศรีธัญญา ถ้ารักษาไม่หายก็จะไปรักษาที่อื่นต่อ หายแล้วจะกลับมาทำงานต่อ ถ้าประเทศไทยไม่หายก็จะไปรักษาที่ต่างประเทศ"
    หลังมีข่าวว่าเสกเข้าโรงพยาบาล อดีตภรรยาของเสกคือ กานต์ วิภากร ก็ได้โพสต์ว่า “เย้ๆๆๆๆ ในที่สุด เยี่ยมทุกๆ คน ขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องค่ะ”
    จากนั้นแฟนเพจก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ถามว่า กานต์ดีใจเรื่องอะไร ก่อนมีชายที่อ้างว่าอยู่บ้านตรงข้ามกับบ้านของเสก ตอบว่า “มีรถโรงพยาบาลมารับพี่เสก ยังตกใจอยู่เลย เสียงดังมาก ผมบ้านตรงข้ามครับ เห็นเสียงดังเลยออกมาดู”
    สำหรับการพาไปรักตัวของเสก โลโซ เป็นการร่วมมือกันของคนในครอบครัว และเสกก็ทำตามคำขอของครอบครัว ซึ่งทีแรกเสกมีอาการขัดขืนเล็กน้อย ก่อนที่จะยอมขึ้นรถพยาบาลไปโดยดี
    ต่อมา "อีฟ" อภิสร์ญา ยังได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากกระแสข่าวว่านำตัวเสกส่งโรงพยาบาลแล้ว ว่า “Mission Complete (ภารกิจเสร็จสมบูรณ์)” โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพศาลพระภูมิ ขณะที่ชาวโลกออนไลน์ได้มีการแสดงความคิดเห็นเข้าไปในเพจเป็นจำนวนมาก และยังมีชาวโลกออนไลน์ได้นำภาพของอีฟ กานต์ และเสือ ลูกชายของเสก ที่อยู่พร้อมหน้ากันที่ รพ. พร้อมกับระบุว่า “เก่งมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นภารกิจนี้จะสำเร็จไม่ได้เลย หากทุกคนไม่สามัคคีร่วมมือจับมือกัน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "สามัคคีคือพลัง" ทุกอย่าง Happy Ending” 
    ไม่แต่เท่านี้ อีฟยังโพสต์ด้วยว่า "ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้น้องอีฟ ทั้งในคอมเมนต์ และที่ส่งมาให้คุณแม่ในอินบ็อกซ์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณแม่และน้องอีฟจะดูแลเสกอย่างดีที่สุดค่ะ เท่าที่เราสองคนแม่ลูกจะทำได้ค่ะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ"
    ชาวโลกออนไลน์ต่างแสดงความดีใจที่สามารถพาร็อกเกอร์ชื่อดังไปรักษาตัวได้ พร้อมกับให้กำลังใจอีฟเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังได้ฝากให้ช่วยดูแลเสก โลโซ อย่างดีด้วย
    เพจ "WiphakornKarn" ของ "กานต์ วิภากร" อดีตภรรยาของเสก โลโซ ได้โพสต์ข้อความล่าสุดว่า ไบโพลาร์ โรคนี้เริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายขึ้นอย่างรวดเร็ว อยากจะให้สาระน่ารู้กับเพื่อนๆ นิดนึง คือเราก็เพิ่งรู้ คนที่เป็นไบโพลาร์คือคนที่ฉลาดกว่าชาวบ้านเค้า พบได้เยอะในกลุ่มอาชีพแพทย์และคนที่เป็นอัจฉริยะ และผู้ป่วยจะฉลาดมากๆ ในการหลอกผู้ที่รักษาตน มีวิธีหลบหลีกการรักษาและการกินยาอย่างหาตัวจับยาก เพราะเจ้าตัวไม่คิดว่าตัวเองเป็นและคิดว่าตัวเองปกติ ไม่จำเป็นต้องกินยา เค้าจะใช้สมองอันชาญฉลาดในการหลอกทุกๆ คนได้ ซ่อนเก็บอารมณ์ความรู้สึกได้ เหมือนอย่างที่เราเห็นเค้าปกติใน Live แต่คุณรู้ไหมว่า เค้าเป็นไบโพลาร์ระยะสุดท้ายแล้วคะ ต่อจากนี้คือการฆ่าตัวตาย แล้วคุณจะให้เราทำยังไง??"
    ในช่วงเย็น เฟซบุ๊กของ "กานต์ วิภากร" ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "Wiphakorn Karn" ระบุ "สื่อมวลชน!! ขอความกรุณา อย่าเพิ่งโทรมา มีไรคืบหน้าจะแจ้งค่ะ...ขอปรึกษากันในครอบครัวก่อนว่าจะทำไง ต่อไป!! ขอบคุณค่ะเป็นห่วงพี่เสกจริงๆ!!" 
    เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา เสกได้โพสต์พาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อ “จส.777 เขตปลอดแม้ว!!” ซึ่งเสกไลฟ์ในหัวข้อดังกล่าวถึง 5 รอบ รอบแรกใช้เวลาทั้งสิ้น 1:33:33 นาที มีผู้ชม 5.1 แสนคน รอบสองใช้เวลา 1:09:20 นาที มีผู้รับชม 2.5 แสน รอบสาม 1:30:36 นาที มีผู้เข้าชม 6.8 แสน และรอบ 4 ที่ใช้เวลาแค่ 31 วินาที ยังมีผู้เข้าชม 1.1 แสน และครั้งสุดท้ายที่พีกที่สุดที่ใช้เวลา 1:41:00 นาที มีผู้เข้าชมถึง 1.1 ล้านคน หลังจากนั้นก็มีผู้ติดตามในระดับแสนตลอดเวลา จนมาล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ทั้งหมด 7 รอบ ก็มีผู้ชมในระดับแสนขึ้นทุกครั้งไป โดยเฉพาะในไลฟ์ทิ้งท้ายที่ไม่มีหัวข้อนั้นใช้เวลา 2:29:37 มีผู้เข้าชมมากถึง 7.1 แสนเลยทีเดียว.