18 ส.ค.61 - ที่โรงแรมพินนาเคิล แกรนด์ จอมเทียน ชลบุรี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดประชุมผู้บริหารและผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการดำเนินการจัดการเลือกตั้งส.ส.และส.ว. โดยมีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. นายปกรณ์ มหรรณพ นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย และนายสันทัด ศิระอนันต์ไพบูลย์ กกต. เข้าร่วมการประชุม ส่วนนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ไม่ได้เข้าร่วมประชุมเนื่องจากติดภารกิจ
นายอิทธิพร ได้กล่าวเปิดงานช่วงหนึ่งว่าภูมิใจดีใจที่มีโอกาสเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระที่ร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อทำให้การเลือกตั้งเกิดความสุจริต เที่ยงธรรม และเชื่อว่ากกต.ทุกคนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน และเห็นว่าการเตรียมการจัดการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นตามโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้ ของกกต.ชุดเก่า มีการเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ประธาน กกต. ได้มอบนโยบายว่าการทำงานขององค์กรต้องมีความเข้มแข้งใน 4 เรื่อง 1. ต้องมีเอกภาพ ต้องมีการพัฒนาความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่องทันต่อโลกต่อการพัฒนา มีแนวทางการทำงานชัดเจน ประสานงานเป็นระบบ ทำงานเป็นทีม 2. คุณภาพ เราต้องรู้ซึ้งถึงอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ต้องตั้งเป้าการทำงานว่ามีอะไรเข้ามาต้องทำให้เร็ว ทันเวลา และถูกต้อง
3.คุณธรรม พนักงานต้องยึดมั่นการทำงานอย่างเป็นธรรม ยุติธรรม เปิดใจกว้าง และ4.คุณค่า การทำงานต้องยึดและปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต กล้าหาญ ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ ปราศจากอคติ ซึ่งองค์กรจะต้องกล้าหาญ ถ้าเรากล้าหาญและสุจริตก็จะเป็นเกราะคุ้มครองเรา ขอให้ถือเป็นคุณค่าและค่านิยมขององค์กร
ขณะที่นายปกรณ์ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ท่ามกลางข่าวในช่วงระยะนี้มีแต่ข่าวเช็กความพร้อมความคาดหวังสำหรับ กกต. ทุกฝ่ายต่างคาดหวังถึงความสุจริตและเที่ยงธรรม แต่อะไรคือความสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะฝ่ายหนึ่งคาดหวังอย่างหนึ่งอีกฝ่ายก็หวังอย่างหนึ่ง ดังนั้นการทำงานของกกต.ชุดนี้เราจะให้ความสุจริตเที่ยงธรรมตามกฎหมาย ดังนั้นไม่มีทางที่จะได้หากท่านไม่สุจริตมาก่อน
ส่วนเรื่องภายในขององค์กรนั้น ตนสนใจระบบความก้าวในหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ กกต. เพราะตนเคยเป็นผู้พิพากษามาก่อนซึ่งจะมีระบบความก้าวหน้าที่ชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ กกต.เองจะต้องตัดสินใจว่าจะใช้ระบบความก้าวโดยอาศัยหลักอาวุโส หรือจะใช้หลักผลงานที่มาจากการแข่งขันกันด้านความสามารถ ทั้งนี้ตนมีข้อกำหนดในการทำหน้าที่ว่าหากตนจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อตรวจงานนั้น จะต้องไม่มีการต้อนรับ ไม่มีรถนำ ไม่มีงานเลี้ยงทั้งสิ้น แต่อยากให้เน้นเรื่องความร่วมมือในการทำงานมากกว่า ทั้งนี้ตนไม่แคร์ว่าจะอยู่ในตำแหน่งนี้ได้อีกกี่ปี แต่ตนก็จะลองดูจะทำให้ดีที่สุด
“แม้ผมจะเป็นผู้พิพากษามา 36 ปี โดยการทำงานผู้พิพากษาเมื่อพิจารณาสำนวนที่หลักฐานไม่ชัด ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะต้องปล่อย แต่ผมมาทำงานนี้ หากผมสงสัย ผมจะไม่ปล่อยอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามแม้ผมไม่มีอำนาจไม่มีสิทธิ ไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้พวกท่านเข้าไปบริหารบ้านเมือง หรืออยู่ในสภา แต่ผมจะทำให้คนที่ไม่สุจริตและคนที่โกงไม่ได้เข้าไป”นายปกรณ์ กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |