ขสมก. ตั้งเป้าลดพนักงาน 2,000 คน


เพิ่มเพื่อน    

ขสมก. ตั้งเป้าปี 65-66 ลดค่าใช้จ่ายได้จริง หลังมีโครงการให้พนักงานสมัครใจลาออก เผยปี 63 มีแผนลดพนักงานมากสุด ถึง 2,000 คน คาดเสนอบอร์ดพิจารณา ต.ค.นี้

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่าสำหรับความคืบหน้าแผนฟื้นฟูในเรื่องลดค่าใช้จ่ายของ ขสมก. นั้นคือการลดจำนวนพนักงานโดยการนำอีเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการเก็บค่าโดยสารแทนการใช้พนักงานเก็บค่าโดยสาร เพื่อจะลดค่าใช้จ่ายได้จริงจัง ส่วนรถใหม่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าเชื้อเพลิงและค่าบำรุงรักษา คาดว่าปี 2565-2566 ถึงจะเริ่มเห็นการลดค่าใช้จ่ายได้ เพราะแผนลดจำนวนพนักงานจะเห็นผลได้ชัดเจนเกือบหมดตามเป้า


ทั้งนี้เนื่องจากมีโครงการเพราะลดพนักงานต้องมาจากความสมัครใจ ตอนนี้ศึกษารายละเอียดเงื่อนไขลดพนักงาน เพื่อเตรียมของบประมาณแผนลดจำนวนพนักงาน โดยจะพิจารณาตามกฎระเบียบของกระทรวงการคลังที่ระบุว่าจะต้องไม่เกิน 30 เท่าของเงินเดือนปัจจุบัน 


นายณัฐชาติ กล่าวต่อว่า ในปี 62 มีแผนลดพนักงานประมาณ 300-400 คน ขณะที่ปี 63 ลดพนักงานถึง 2,000 คน ซึ่งมีจำนวนมากที่สุด เพราะตอนนั้นระบบอีทิคเก็ตที่นำมาติดตั้งรถเมล์เก็บค่าโดยสารต้องใช้งานได้ 100%

ทั้งนี้จากผลสำรวจความคิดเห็นพนักงานเกี่ยวกับการลดจำนวนพนักงานตอนนี้มีพนักงานเข้าร่วมโครงการเกษียณก่อนกำหนด (เออรี่รีไทร์) ประมาณ 700-800 คน ส่วนที่เหลือต้องรอดูเงื่อนไข ขสมก.จะเข้าร่วมโครงการก่อนตัดสินใจคาดว่าแผนลดจำนวนพนักงานจะเสนอที่ประชุมบอร์ด ขสมก. เดือน ต.ค. 61 จากนั้นจะนำเสนอ ครม. ต่อไปตามกระบวนการ


"ตอนนี้พนักงานเก็บค่าโดยสารไม่มีการรับเพิ่ม ส่วนพนักงานขับรถส่วนหนึ่งที่จะเป็นจ้างบริษัทเอกชนข้างนอกมาให้บริการสำหรับที่จะใช้ขับรถเมล์ที่มีการเช่า 700 คัน เช่น รถ 1 คัน จะใช้พนักงานขับรถ 2 คน ค่าใช้จ่าย 1,500 บาท เพราะหากลดจำนวนพนักงานจะไม่กระทบ"นายณัฐชาติกล่าว

นายณัฐชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องหนี้ ขสมก.ที่มีประมาณ 1 แสนกว่าล้าน จะแยกเป็นหนี้ที่เกิดจากนโยบายรัฐ ประมาณ 80% หรือ 1.7 แสนล้านบาท เช่น รถเมล์ฟรี ค่าโดยสารรถเมล์ที่ให้บริการต่ำกว่าต้นทุนจริง และหนี้เกิดจากการดำเนินงานของ ขสมก.เอง โดยต้องการให้ตั้งงบประมาณขึ้นมา เพื่อชำระหนี้ หากรัฐบาลไม่ให้ต้องตั้งงบประมาณรายปี นอกจากนี้การขอปรับค่าโดยสารนั้น เมื่อมีรถใหม่ให้บริการและบริการดีขึ้น ขสมก. เสนอขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถเมล์ให้สอดคล้องกับต้นทุนจริงถ้ามีการบริหารรที่มีประสิทธิภาพประมาณปลายปี 62 หรือต้นปี 63 จะมีการหารือเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะรถเมล์ธรรมดา(รถเมล์ร้อน) ปัจจุบันค่าโดยสาร 6.50 บาท ซึ่งต่ำเกินไป ขณะที่ต้นทุนจริงควรจะเป็น 11-12 บาท


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"