เตือนวัยรุ่นสูบบุหรี่ไม่เท่ สิ้นเปลือง-ทำร้ายคนอื่น


เพิ่มเพื่อน    

      บุหรี่เป็นภัยร้าย แต่ยังเป็นของที่ถูกกฎหมายและสามารถแทรกตัวเข้ามาทำลายผู้เสพและคนรอบข้างทั้งทางตรงและทางอ้อม ปัจจุบันสังคมไทยกำลังหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น และมองว่าสิ่งเสพติดชนิดนี้น่ารังเกียจ จึงพยายามรณรงค์ให้ทุกคนไกลห่าง นอกจากเป็นการไม่เท่อย่างที่คิด เผาเงินทองให้สูญเปล่าแล้ว ยังตามมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บและอันตรายต่างๆ แวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย... เดือนสิงหาคมนี้ หรือเดือนแห่งวันแม่แห่งชาติ หลายคนถือเป็นฤกษ์ดีที่จะใช้เป็นวาระหักดิบการอมควัน เพื่อมอบเป็นของขวัญให้คนที่คุณรัก

                เมื่อเร็วๆ นี้ ที่สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวฯ และมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2561ภายใต้เวทีเสวนาหัวข้อ รักต้องเลิก (บุหรี่) เลิกเพื่อคนที่รัก ภายในงานมีกิจกรรมบอกรักแม่ ด้วยการนำพวงมาลัยมากราบแม่

                นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า มีข้อน่าห่วงใยที่หลายคนนึกไม่ถึง นั่นคือหากมีคนในครอบครัวสูบบุหรี่ สารเคมีต่างๆ ที่เกาะติดอยู่ในห้อง เช่น โซฟา เมื่อควันบุหรี่ทำปฏิกิริยากับอากาศก็กลายเป็นสารเคมี สารพิษที่เกาะติดหรือกระจาย ซึ่งลักษณะนี้ผู้ปกครองมักไม่นึกถึง เนื่องจากมองว่าสูบบุหรี่เวลาเด็กไม่อยู่ หรือปิดประตูห้อง แต่ความจริงนั้นเสี่ยงไม่แพ้จากการสูดควันโดยตรงเช่นกัน เพราะสารเคมีจะฝังอยู่บนโซฟา ผนังห้อง รวมทั้งการสูบบุหรี่ในรถ จะมีสารพิษเข้ามาซึ่งเป็นอันตรายมากต่อเด็ก คนรอบตัวหรือทั้งทารกที่อยู่ในครรภ์มารดา เมื่อได้รับสารพิษจะส่งผลในเรื่องการเจริญเติบโต และเมื่อคลอดมาแล้ว เด็กทารกมีโอกาสตายเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งลักษณะโรคเหล่านี้สัมพันธ์กับครอบครัวที่มีคนสูบบุหรี่

                นายแพทย์อดิศักดิ์ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ เด็กยังมีโรคระบบทางเดินหายใจติดเชื้อได้ง่าย รวมทั้งโรคแทรกซ้อน ไซนัส หูชั้นกลางอักเสบ เป็นผลจากการได้รับควันสารนิโคติน รวมทั้งโรคหอบหืด ซึ่งแสดงอาการได้บ่อยรุนแรงกว่าปกติ ขณะเดียวกันคือการส่งผลต่อพฤติกรรมล่าช้า สมาธิสั้น และในระยะยาวเป็นกลุ่มที่เสี่ยงโรคมะเร็งปอด ไซนัส โพรงจมูก และโรคหัวใจ สูงถึงร้อยละ 20-30

                ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดการหยุดคือ ตระหนักในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวและผลกระทบที่ตัวเองได้รับ กำลังใจของคนในครอบครัวด้วยกันจะเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จในการเลิกสูบบุหรี่ได้ ลูกห่วงใยพ่อ ภรรยาห่วงใยสามี จะเป็นพลังใจที่สำคัญ ขณะเดียวกันกิจกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญของคนในครอบครัวที่ทำร่วมกัน เช่น การตรวจสารนิโคตินในปัสสาวะของลูก แล้วแจ้งให้คนในครอบครัวได้ทราบผล ก็จะทำให้มีการตระหนักและเห็นความสำคัญ นายแพทย์อดิศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย

                ด้านนายแพทย์วันชาติ ศุภจัตุรัส กรรมการสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมปลอดบุหรี่ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม รักต้องเลิก (บุหรี่) เพื่อต้องการให้สังคมตระหนักถึงพิษภัยจากบุหรี่ โดยเฉพาะคุณแม่ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และที่สำคัญหากกำลังตั้งครรภ์ พิษภัยของบุหรี่ก็จะส่งผลถึงลูกไปโดยปริยาย คือได้รับผลกระทบจากคุณพ่อหรือคนใกล้ตัวสูบบุหรี่ เรียกว่าควันมือหนึ่ง แม้จะไม่สูบ แต่ได้รับอันตรายโดยตรงต่อตัวเองและลูก นั่นคือทั้งนิโคตินสารเคมีที่ก่อเกิดมะเร็ง รวมทั้งโรคเส้นเลือดตีบ อุดตัน ล้วนเป็นพิษภัยที่ต้องเผชิญ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้คุณแม่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งเด็กและครอบครัว จึงอยากให้กิจกรรมวันแม่เป็นส่วนสร้าง หนุน เสริม ต่อยอดให้สังคมไทยร่วมด้วยช่วยกันงดบุหรี่ในวันสำคัญนี้ด้วย เพื่อที่จะสร้างครอบครัวคนไทยให้ปลอดบุหรี่และขยายรวมไปสู่สังคมไร้บุหรี่ต่อไป

                นายแพทย์วันชาติระบุด้วยว่า กิจกรรมครั้งนี้สอดคล้องกับแนวคิดโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน โดยการสนับสนุนจากหลากหลายภาคีเครือข่าย รวมถึงอาสาสมัครกว่า 1 ล้านคนในประเทศ และหาก อสม.จำนวน 1 คน สร้างเครือข่ายหรือทำให้คน 1 คนเลิกบุหรี่ได้ 1 ปี ก็จะมีคนเลิกได้ 1 ล้านคน และเมื่อครบ 3 ปีก็จะมีถึง 3 ล้านคน ที่ผ่านมาโครงการได้มีการตั้งเป้าไว้ภายใน 3 ปีจะมีคนเลิกบุหรี่ได้ 3 ล้านคน โดยเครือข่ายฯ ได้ทำเอ็มโอยูกับหน่วยงานกระทรวง สธ. สสส. เพื่อขยายผลสู่เป้าหมาย จากสถิติตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ในปี 60 มีคนเลิกบุหรี่ได้ 460,000 คน เฉลี่ยแล้วปีละ 2 แสน 3 หมื่นคน

                ทั้งนี้ สนธิสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกตั้งเป้าลดการสูบบุหรี่ลงมาร้อยละ 30 ให้ได้ภายใน ค.ศ.2025 ซึ่งไทยก็คือภายใน พ.ศ.2568 ซึ่งขณะนี้ในส่วนของโครงการที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 59 นอกจากที่ได้ตั้งเป้าไว้ 3 ปี 3 ล้านคน ทุกภาคส่วนก็พยายามกันอย่างเต็มที่เพื่อไปถึงตัวเลขเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกเช่นกัน

                ขณะที่นักแสดงชื่อดังอย่าง แวร์ โซว  หรือนางนงเยาว์ แซ่โซว นางแบบและนักแสดงชาวไทย ซึ่งมีประสบการณ์โดยตรงในการสูบบุหรี่มากว่า 12 ปี จนสุดท้ายประกาศเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ โดยเธอระบุว่า สูบบุหรี่มาตั้งแต่วัยเด็ก เพราะคนในครอบครัว คนใกล้ตัวสูบบุหรี่ เมื่อเห็นก็อยากทดลองบ้าง และในสมัยก่อนการสูบบุหรี่ถือเป็นแฟชั่นในสังคม รวมทั้งเธอเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว จึงใช้บุหรี่เป็นเพื่อนสูบจนติด แม้พยายามเลิกมาตลอด เพราะเห็นผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะด้านสุขภาพ แต่ด้วยอาชีพนักแสดง ทำงานเครียดก็ใช้วิธีสูบบุหรี่

                “แวร์ โซวระบุว่า จุดเปลี่ยนสำคัญที่ตัดสินใจเลิก นั่นคือตั้งครรภ์ลูกสาว คือน้องคนดี จึงตั้งใจเลิกสูบบุหรี่เพื่ออนาคตของลูก เพราะไม่อยากให้ลูกได้รับผลกระทบและต้องการให้เขาแข็งแรง จึงหยุดสูบบุหรี่และหยุดดื่มเหล้า ถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและเก็บเงินไว้เพื่อดูแลลูก เพราะการสูบบุหรี่เหมือนเผาเงินอย่างไร้ประโยชน์ แต่หลังจากลูกโตได้ไม่นานก็เริ่มเครียดที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คิดมากที่ต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว จึงหันกลับมาสูบบุหรี่อีกครั้ง

                วันนี้ประกาศเลิกบุหรี่อย่างเด็ดขาดเพื่อลูกสาว และขอฝากถึงคุณแม่ที่กำลังคิดจะเริ่มสูบบุหรี่และที่พยายามเลิก ว่าการสูบบุหรี่เกี่ยวข้องกับทุกคนในครอบครัว ถ้ามีใครสูบ ทุกคนก็มีโอกาสเป็นมะเร็งได้ เพราะจะส่งผลกระทบกับคนอื่นๆ ทั้งผลกับเด็กในครรภ์ ฉะนั้นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หากรักลูกของตัวเองต้องหยุด เพราะผลกระทบที่ตามมาคือร่างกายของลูก เมื่อเขาไม่แข็งแรงจะส่งผลในระยะยาวที่คุณต้องดูแล มันทุกข์ทรมานเมื่อลูกป่วยไข้ ขณะที่น้องๆ วัยรุ่น เยาวชน ในสายตาของสังคมสมัยใหม่ไม่ได้มองว่าการสูบบุหรี่เท่ และมีพื้นที่จำกัดในการสูบ ทั้งดูไม่ดีและรบกวนคนอื่น รวมทั้งมีราคาแพง ท้ายที่สุดหากไม่รักตัวเองก็ขอให้รักคนรอบข้าง อย่าไปทำลายสุขภาพพวกเขา นางแบบและนักแสดงชาวไทยฝากข้อคิด

                หากใครกำลังเลิกสูบหรี่อย่ารอช้า ควรใช้โอกาสเดือนสิงหาคมวันแม่แห่งชาตินี้ หักดิบและมอบของขวัญให้ครอบครัวและคนที่คุณรัก แล้วจะรู้ว่าสิ่งที่ต้องเลิก ต้องทำด้วยการฝืนใจนั้น เป็นความคุ้มค่าที่มากมายจริงๆ.

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"