ศาลมาเลเซียชี้คดีมีมูล สั่งเดินหน้าไต่สวนสาวเวียด-อินโดฯ ฐานฆ่า 'คิม จองนัม'


เพิ่มเพื่อน    

ศาลมาเลเซียตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดี รับฟ้องคดีที่หญิงชาวเวียดนามและอินโดนีเซียตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าคิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ โดยระบุว่ามีหลักฐานเพียงพอดำเนินคดีทั้งคู่ฐานฆ่าคนตาย

แฟ้มภาพ คิม จองนัม (ซ้าย) ถูกถ่ายภาพได้ที่สนามบินนาริตะของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2544 และคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่เป็นน้องชายต่างมารดาของเขา ภาพเมื่อ 10 พ.ค. 2559  / AFP

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2561 กล่าวว่า สิตี ไอส์ยะห์ หญิงชาวอินโดนีเซีย และเจือน ทิ ฮวง หญิงชาวเวียดนาม ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรม คิม จองนัม ด้วยสารทำลายประสาทวีเอ็กซ์ ที่สนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ขณะที่เขากำลังจะเดินทางกลับมาเก๊า คดีนี้เริ่มการไต่สวนมูลฟ้องมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และเมื่อวันพฤหัสบดี อัซมี อาริฟฟิน ผู้พิพากษาศาลสูงในเมืองชาห์อลาม ตัดสินว่า มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีทั้งคู่ในข้อหาฆ่าคนตาย

ตำรวจพร้อมอาวุธนำตัวเจือน ทิ ฮวง ออกจากศาลเมื่อวันพฤหัสบดี / AFP

    ผู้พิพากษาอาริฟฟินกล่าวว่า จากหลักฐานต่างๆ ที่นำมาแสดงต่อศาลชี้ให้เห็นถึงการสมรู้ร่วมคิดที่วางแผนมาอย่างดี ระหว่างผู้ต้องสงสัยทั้งสอง กับผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีเหนือกลุ่มหนึ่งที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ศาลจึงตัดสินให้ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีที่พวกเขาโดนกล่าวหาต่อไป

    ทั้งนี้ หากผู้พิพากษาเห็นว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ก็อาจตัดสินว่าทั้ง 2 คนไม่มีความผิด คำตัดสินของศาลเมื่อวันพฤหัสบดีทำให้พวกเธอช็อกและร่ำไห้

สิตี ไอส์ยะห์ ถูกพาตัวออกจากศาล / AFP

    อัสเรีย พ่อของสิตี เผยกับเอเอฟพีที่บ้านบนเกาะชวา ยืนยันว่า ลูกของเขาไม่รู้เรื่องแผนสังหารครั้งนี้ แต่ถูกหลอกใช้ ส่วนเบดาห์ แม่ของสิตี บอกว่า อยากให้ศาลปล่อยตัวเธอในวันนี้ แต่เมื่อไม่ได้เป็นเช่นนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากภาวนาสำหรับการตัดสินครั้งสุดท้าย คดีนี้จะเริ่มต้นพิจารณาคดีใหม่ในเดือนพฤศจิกายน และคาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน

    จำเลยทั้ง 2 คนให้การว่า พวกเธอตกเป็นเหยื่อของสายลับเกาหลีเหนือที่วางแผนฆาตกรรมคิม จองนัม ด้วยการให้พวกเธอนำสารบางอย่างไปป้ายหน้าคิม โดยบอกว่าเป็นรายการแกล้งกันทางทีวี แต่อัยการในคดีนี้ระบุว่า ทั้ง 2 คนเป็นนักลอบสังหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และกล้องวงจรปิดที่นำมาแสดงในศาลพบว่า หลังเกิดเหตุ หญิงทั้ง 2 คนรีบวิ่งเข้าห้องน้ำภายในสนามบิน ก่อนที่จะขึ้นแท็กซี่หนีไป ซึ่งผู้พิพากษาระบุว่า ทั้ง 2 คนทราบดีว่าสารเหลวที่เปื้อนมือมีพิษ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"