จเรตำรวจเผยประสานทางการกัมพูชาแล้ว ยันได้ตัวเสี่ยอ้วนกลับมาดำเนินคดีแน่ อยู่ระหว่างคุมตัวเดินทางมาส่งยังชายแดนไทยฝั่งอรัญประเทศ แม่น้องสปายลั่นไม่อโหสิกรรม

    มีคำยืนยันจากทางการไทยแล้วว่า ขณะนี้ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน เจ้าของสถานบันเทิงในจังหวัดภูเก็ต ถูกตำรวจกัมพูชาจับกุมตัวได้เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา ขณะจะหลบหนีจากชายแดนกัมพูชาเข้าประเทศเวียดนาม ในส่วนของตำรวจไทยอยู่ระหว่างประสานขอตัวนำกลับมาดำเนินคดีฆ่า 2 ศพ
    คดีดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.61 เสี่ยอ้วนร่วมกับพวกอีก 5 คน ดักยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย กับนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส ต่อหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี สาเหตุเพราะเสี่ยอ้วนเกิดความหึงหวงน้องสปาย ต่อมาตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายได้ 5 คน ประกอบด้วย นายสายันต์ ศรีสุข, นายเกียรติศักดิ์ หรือบอล สุรางค์แสงมีบุญ, นายจิรศักดิ์ หรือป๊อปปี้ อุนัยบัน, นายกฤษณะ หรือมด สีสุข และนายณรงค์ หรือบ่าว วรินทรเวช ส่วนเสี่ยอ้วนผู้ลั่นไกสังหารเป็นคนแรก หลบหนีเข้ากัมพูชา และถูกจับได้บริเวณชายแดน 
    พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวว่า วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะส่งตัวเสี่ยอ้วนไปยังกรุงพนมเปญ และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ ได้เดินทางไปประสานงานรับตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
    มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายโกวัน หรือวัน ศิลปาโน, นายวินัย หรือเหน่ง ศิลปาโน และนายภูธร หรือน้อย สิงห์ดี ผู้ช่วยเหลือพาเสี่ยอ้วนหลบหนีจากประเทศไทย ซึ่งจากการสอบปากคำ ทั้ง 3 ให้การรับสารภาพ โดยนายภูธร หรือน้อย พาหลบหนีออกทางชายแดนด้าน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว แล้วมีชาวกัมพูชาชื่อเลียง มารับตัวไปต่อ
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษก ตร. กล่าวถึงการควบคุมตัวนายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการประสานขอรับตัวเสี่ยอ้วนกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะได้ตัวมาวันไหน แต่คิดว่าไม่มีปัญหา เนื่องจาก ผบ.ตร.ไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับ ผบ.ตร.กัมพูชา คาดว่าจะมาถึงไทยเร็วๆ นี้ ผบ.ตร.มีการประสานโดยตรง ซึ่งวันนี้ก็รอฟังความคืบหน้าอีกครั้ง มั่นใจทุกอย่างจะลุล่วงด้วยดี ยืนยันการส่งตัวเสี่ยอ้วนไม่มีเงื่อนหรือข้อต่อรองใดๆ จากทางตำรวจกัมพูชา 
    รองโฆษก ตร.กล่าวว่า สำหรับเส้นทางการหลบหนียังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่จากรายงานการสืบสวน ทราบว่าเสี่ยอ้วนหลบหนีออกไปตามช่องทางธรรมชาติแน่นอน ส่วนคนที่ให้การสนับสนุนหรือนำพาให้หลบหนี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด 
    ส่วนการติดตามนายอัศยา ชัยภา อายุ 33 ปี หรือเสี่ยโก้ ผู้ต้องหาฆ่า, น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี หรือเชอรี่ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดว่าหลบหนีไปอยู่ประเทศกัมพูชาเช่นกัน รองโฆษก ตร.ระบุว่า คงมีโอกาสได้ตัวมาดำเนินคดี เพราะถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์เช่นกัน
    ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังจากเดินทางกลับจากประเทศกัมพูชาว่า ได้เดินทางลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และประสานงานกับตำรวจกัมพูชา ยืนยันได้ตัวเสี่ยอ้วนแน่นอน แต่เบื้องต้นตนยังไม่ได้พูดคุยหรือสอบสวน แต่ยอมรับว่าทางการกัมพูชาควบคุมตัวขณะเดินทางหลบหนีออกไปทางภาคตะวันออกของกัมพูชา ขณะนี้ตำรวจกัมพูชาอยู่ระหว่างนำตัวเสี่ยอ้วนเดินทางด้วยรถยนต์มาส่งที่ชายแดนไทย ฝั่งอรัญประเทศ จ.สระแก้ว คาดว่าจะใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า 9 ชั่วโมง 
    รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจกัมพูชาควบคุมตัวเสี่ยอ้วนได้ขณะหลบซ่อนอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.ปรีเวง ชายแดนกัมพูชาติดกับประเทศเวียดนาม เพื่อเตรียมเดินทางหนีออกไปประเทศเวียดนาม เบื้องต้นทางการกัมพูชาทำการสอบสวน เพราะผู้ต้องหาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย และจะนำตัวมาประเทศไทยได้ภายใน 1-2 วันนี้ จากนั้นคาดว่าจะนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์จาก อ.คลองลึก จ.สระแก้ว ไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ทันที
    นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่น้องสปาย กล่าวว่า ขอยืนยัน ไม่ว่าจะชาตินี้ ชาติหน้า ไม่ขออโหสิกรรมให้เสี่ยอ้วน และไม่ต้องการให้มาขอขมาแต่อย่างใด เพราะครอบครัวเจ็บช้ำกับการกระทำของเสี่ยอ้วนเกินที่จะให้อภัย เมื่อตำรวจจับตัวได้ก็รู้สึกดีใจ ขอให้ตำรวจดำเนินคดีเสี่ยอ้วนให้ถึงที่สุดและรับโทษประหารชีวิตด้วย เพราะเชื่อว่าวิญญาณของลูกสาวยังอาฆาต
    ขณะที่นางจอมศรี ชมพูพื้น แม่นายฟอส กล่าวว่า ตนได้ข่าวจับเสี่ยอ้วนได้ก็รู้สึกดีใจมาก ในส่วนตัวไม่ขอจองเวรอะไร ขออโหสิกรรมกับการกระทำของเสี่ยอ้วน เพราะเชื่อว่าเสี่ยอ้วนจะต้องได้รับผลกรรมที่รุนแรงเช่นเดียวกับลูกของตน เป็นไปได้ก็ต้องการให้มาขอขมา ส่วนจะมาได้หรือไม่ก็สุดแล้วแต่.