ธ.ก.ส. เตรียมประชุมผู้บริหาร-สาขาทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมปูพรมลงพื้นที่ช่วยเกษตรกร 3.81 ล้านราย ผ่านโครงการลดภาระหนี้เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปภาคเกษตรตามแนวทางเกษตรประชารัฐ
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ธนาคารจะมีการจัดประชุมใหญ่ผู้บริหาร และสำนักงานสาขาทั่วประเทศกว่า 2 พันคน เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจโครงการลดภาระหนี้เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปภาคการเกษตรตามแนวทางเกษตรประชารัฐ และจัดทำแนวทางการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศถึงพื้นที่กว่า 3.81 ล้านคน โดยไม่ต้องเดินทางมาสาขาของธนาคาร
“ตอนนี้ธนาคารกำลังเตรียมความพร้อม ด้วยการจัดทำคู่มือ วิธีปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อสื่อสารกับพนักงานและนำไปประชาสัมพันธ์ให้กับเกษตรกรได้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยแนวทางของ ธ.ก.ส.จะจัดชุดเจ้าหน้าที่ลงไปหาเกษตรกรในพื้นที่เลย เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ต้องให้เกษตรกรลำบากต้องเดินทางมายื่นเรื่องที่สาขา เพราะปกติ ธ.ก.ส.จะมีการลงพื้นที่สำหรับนัดพูดคุยกับเกษตรกรเป็นประจำอยู่แล้ว” นายสมศักดิ์ กล่าว
สำหรับรูปแบบการช่วยเหลือเกษตรกร แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการช่วยเหลือแบบภาคสมัครใจ พักชำระเงินต้นใจแก่เกษตรกรที่มีหนี้กับ ธ.ก.ส. ระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1ส.ค. 2561- 31 ก.ค.2564 โดยใครจะเข้าหรือไม่ก็ได้ เพราะหากเกษตรกรรายใดมีกำลังผ่อนชำระได้ ไม่ต้องการเสียดอกเบี้ยเพิ่มก็สามารถผ่อนชำระได้ตามปกติ เพราะโครงการนี้พักเฉพาะเงินต้น แต่ดอกเบี้ยยังคิด และให้ผ่อนชำระดอกเบี้ยอยู่ แต่ถ้าเป็นดอกเบี้ยเดิมก่อนเข้าโครงการให้ชำระตามงวดอย่างน้อยปีละ1ครั้ง
ส่วนที่สอง โครงการการลดดอกเบี้ยเงินกู้ ธ.ก.ส.จะลดดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ 3% ให้ทุกคนที่เข้าเกณฑ์ เฉพาะวงเงิน 3 แสนบาทแรก เป็นเวลา 1 ปี โดยมีเกษตรกรที่เข้าเกณฑ์ 3.81 ล้านราย เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2561-31 ก.ค.2562 โดยในจำนวนนี้เป็นส่วนที่ ธ.ก.ส.ลดให้ 0.5% อีกส่วนมาจากที่รัฐบาลช่วยชดเชยอีก 2.5%
“โครงการส่วนที่สองนี้เกษตรกรจะได้รับการช่วยเหลือเท่ากันไม่ต้องมาสมัครแต่อย่างใด นอกจากนี้ ในระหว่างที่มีการพักชำระหนี้ ธนาคารยังเปิดให้เกษตรกรสามารถกู้เงินดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้ หรือกู้ทำการผลิตโครงการใหม่ได้ หลายโครงการเพื่อปรับเปลี่ยนการผลิต หรือนำไปพัฒนาอาชีพได้ด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ธ.ก.ส.ได้เตรียมวงเงินสินเชื่อสำหรับเปิดให้เกษตรกรสามารถกู้เงินนำปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต หรือกู้ทำการผลิตโครงการใหม่ได้หลายโครงการ อาทิ โครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพการประกอบอาชีพ ดอกเบี้ยเงินกู้ปี 5%ต่อปี วงเงิน 1 แสนล้านบาท อีกทั้งยังมีสินเชื่อนำไปใช้ปรับโครงสร้างการผลิตและมีแผนพัฒนาอาชีพรายบุคคล ด้วย เช่น โครงการสินเชื่อชุมชนเพื่อการปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อพัฒนาอาชีพผู้มีรายได้น้อย (โครงการเอ็กซ์วายแซด) ดอกเบี้ย 0.01%
นอกจากนี้ ยังมีโครงการสินเชื่อพัฒนาอาชีพผู้มีรายได้น้อยดอกเบี้ย 0% 6 เดือน สินเชื่อเพื่อปรับโครงสร้างการผลิตการเกษตรสู่ความยั่งยืน หรือกรณีมีความจำเป็นยังสามารถขอสินเชื่อและสินเชื่อจัดหาปัจจัยการผลิตจากโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร โครงการสินเชื่อบัตรเกษตรสุขใจ โครงการสินเชื่อเงินด่วน เอ-แคลชได้ด้วย
อย่างไรก็ดี กลุ่มเกษตรกรเป้าหมายที่ได้รับความช่วยเหลือพักหนี้ลดดอกเบี้ยครั้งนี้ มีลูกหนี้ทั้งหมดที่เข้าข่าย 3.81 ล้านราย วงเงินลูกหนี้ 1.35 ล้านล้านบาท แยกเป็นวงเงิน 0-300,000 บาท จำนวน 2.61 ล้านราย เป็นเงิน 363,652 ล้านบาท วงเงิน 300,001 - 1,000,000 บาท จำนวน 1.05 ล้านราย เป็นเงิน 540,536 ล้านบาท วงเงิน 1,000,001 บาทขึ้นไป จำนวน 0.15 ล้านราย เป็นเงิน 445,829 ล้านบาท
ขณะที่การออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรดังกล่าว ครม.ได้อนุมัติงบประมาณสำหรับทำทั้ง 2 โครงการ โดยเป็นการใช้งบกลางปี 2561 ในช่วงเดือน ส.ค. และ ก.ย. 2561 จำนวน 2,724.85 ล้านบาท ส่วนอีก 10 เดือนที่เหลืออีก 13,580 ล้านบาท จะเป็นงบประมาณปี 62 ซึ่งกระทรวงการคลังดำเนินการใช้ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติ ครม.ต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |