ต้องเรียกว่าร้อนปรอทแตก! เสียจริงสำหรับการ ”เฟซบุ๊กไลฟ์” ของ "เสก โลโซ" หรือเสกสรรค์ ศุขพิมาย เพราะเล่นไลฟ์เรียลไทม์ข้ามวันข้ามคืน ที่สำคัญ “พี่เสก” ของใครหลายคนยังมีหัวข้อหลากหลายในการไลฟ์อีกต่างหาก หากเทียบเป็นละครช่วงไพรม์ไทม์ก็ต้องบอกว่ามีทั้ง ฮาร์ดคอร์ที่หากขึ้นจอก็จะมีเสียงตู๊ดๆ ตลอดเวลา และยัง มีโฆษณาคั่นรายการแบบโปรโมตสินค้า จนกระทั่งล่าสุดยังมีการรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กอีกต่างหาก ...๐ ที่สำคัญการ “ไลฟ์” ของพี่เสกยังสะเทือนทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะ คนในตระกูล “ชินวัตร” ทั้งระดับพ่อและลูกนี่สะดุ้งกันหลายรอบทีเดียว รวมทั้งยังทำให้มีเสียงกระหึ่ม! ว่าด้วยความคิดเห็นอันหลากหลายตามมาด้วย ซึ่งก็ไม่น่าแปลก เพราะเฟซบุ๊ก "SEK LOSO" นั้น มีผู้ติดตามถึง 5.4 ล้านคนทีเดียว ...๐ หันกลับมาเรื่อง “ร้อน” ทางการเมืองกันบ้าง เพราะได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 5 คนแล้ว ซึ่ง “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต.คนล่าสุด ก็ฟิตเต็มที่ โดยจะเดินทางเข้ามาหารือกับเลขาธิการ กกต. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าทำงาน และในวันศุกร์ 17 ส.ค. จะใช้ฤกษ์ 14.09 น. รับพระราชโองการฯ ...๐ เรียกว่า “ขาการเมือง” เริ่มวาดหวังเห็นแสงสว่างว่าด้วยการหย่อนบัตรกันแล้ว ที่สำคัญยังทำให้ “มหรรณพ เดชวิทักษ์” สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) หนึ่งใน 36 รายชื่อที่จะเสนอแก้ไขกฎหมายลูกว่าด้วย กกต.เริ่มมีท่าทีที่จะถอย เรื่องดังกล่าวแล้ว แหม! มันก็สมควรอยู่หรอก เพราะตามภาษีจีนแต้จิ๋วเขาบอกกรณีนี้เรียกว่า “เจี๊ยะป้าบ่อสื่อ”แปลตรงตัวคือ "กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ" ชัดๆ ...๐ พูดการเมืองไม่เอ่ยถึง “ก๊วน-กลุ่มสามมิตร” ไม่ได้ ยิ่งล่าสุดเจ้าของฉายา “รัฐมนตรีเรียงหิน” สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตรเปรียบเทียบ ส.ส.ที่ย้ายมาซบกลุ่มว่าเป็น “ดาวฤกษ์” ส่วนพวกที่ยังอยู่ในรังเก่านั้นเป็นแค่ “ดาวเคราะห์” แหม! นี่ ถ้าสมุนเหลี่ยมได้ยินได้ฟังก็คงโต้ด้วยตรรกะกระต่ายขาเดียวแน่นอนว่า ปากดีอย่างนี้ต้องมาวัดกันในการเลือกตั้ง ว่าใครจะเป็นดาวเคราะห์-ดาวฤกษ์ หรือแค่ดาวตก-ดาวหางเท่านั้น ที่สำคัญต้องปลดล็อกและยกเลิกคำสั่ง คสช.ด้วยนะเออ กรอเทปเปิดซ้ำได้เลย ...๐ พิโธ่! เห็น “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คมนาคม และคณะไปติดตามคมนาคมเชื่อมต่อ “ล้อ-ราง-เรือ” และยังมีรถไฟฟ้าบีทีเอสอีกต่างหาก แหม! ต้องเรียกว่าเป็นภาพได้ใจคน กทม.จริงๆ แต่ชาวบ้านร้านถิ่นที่เขาขึ้น “รถเมล์” อยากกระซิบหรือตะโกนถาม “ลุงตู่” และรัฐมนตรีอาคมอย่างมากว่า เมื่อไหร่จะได้นั่งรถเมล์เอ็นจีวีเสียที ทั้งที่บอกจะเป็นของขวัญปีใหม่ ซึ่งจำกันไม่ได้แล้วว่าเป็นปีไหน แต่เป็นคำสัญญาจาก “นายกฯ ลุงตู่” แน่ๆ แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ...๐ นี่ยังไม่นับรวมกรณีพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าหลากหลายในพื้นที่ฝั่งตะวันออก ที่ ป่านนี้ก็ยังไม่เพิ่มขนส่งสาธารณะอย่างที่ “รมต.อาคม” เคยบอกไว้แต่ประการใด จึงไม่น่าแปลกที่เส้น “ลาดพร้าว-สุขภิบาล 3-พัฒนาการ” ช่วงนี้จะเรียกว่าเส้นทางสาหัส ...๐ เอ่ยถึงลุงตู่แล้วไม่พาดพิงถึงการ ใช้มาตรา 44 เด้ง “พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร” พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ ปปง. ไปรับตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกฯ ไม่ได้ เพราะ เหตุผลที่ “นายกฯ” บอกว่าไม่ใช่ปลด แค่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานนั้น มันหน่อมแน้ม เสียเหลือเกิน เด็ก 3 ขวบยังเชื่อไม่ลง เพราะเลขาธิการ ปปง.ที่มีอำนาจล้นเหลือ ไปเป็นผู้ตรวจฯ ตบยุงในทำเนียบรัฐบาลจะทำเพื่อประสิทธิภาพการทำงาน ...๐ หันมาสำรวจเรื่องพระเรื่องเจ้ากันบ้าง ก่อนรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งมหาเถรสมาคม ล่าสุด “พนักงานอัยการ” ได้ยื่นฟ้องอดีตพระชั้นพรหมและพระเถระที่ถูกรวบตัว จับสึกและนอนคุกมาสักระยะในคดี “เงินทอนวัด” แล้ว และก็ไม่เกินคาด เพราะศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนไม่ให้ประกันตัว ในขณะที่กรณี “อดีตพระพุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อยและแกนนำ กปปส. ในคดีทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาลนั้น ก็มีการฟ้องในห้วงเวลาเดียวกัน แต่ งานนี้ศาลให้ประกัน ซึ่งก็เชื่อว่าจะเรียกเสียงฮือฮาให้กับบรรดาผู้เล่นกีฬาสีแน่นอนว่าเป็นเรื่อง 2 มาตรฐาน ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น คดีของ “อดีตพระพุทธะอิสระ” และก๊วนผ้าเหลืองฟอกเงินและคดีเงินทอนวัดไม่ได้มีส่วนใกล้หรือเคียงกันเลย เพียงแต่เกิดการรวบการจับในวันเดียวกันเท่านั้นเอง สาธุชนทั้งหลายจึงอาจตีขลุมว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งที่มันไกลกันเป็นโยชน์เชียว...๐