ผมทำรายการ โลกป่วน ทาง ThaiPBS ออกอากาศ 4 ทุ่มทุกวันอังคาร ก็ต้องหาคนระดับสากลที่  ป่วนโลก มานั่งพูดคุยเพื่อให้ได้เนื้อหาสาระลุ่มลึกและกว้างไกลสำหรับคนไทย

      วันก่อนผมบุกถึงที่ทำงานของท่านนายกฯ มหาธีร์ โมฮาหมัดแห่งมาเลเซีย ที่ศูนย์บริหารราชการ  ปุตตราจายา ห่างจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ไปทางใต้ 25 กม.

      ในวัย 93 ท่านผู้อาวุโสผู้นี้ได้สร้างปรากฏการณ์เหลือเชื่อทางการเมืองระดับโลก ด้วยการระดมสรรพกำลังของประชาชนและฝ่ายค้านจนสามารถโค่นรัฐบาลของอดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค หัวหน้าพรรค UMNO ซึ่งยึดครองอำนาจรัฐอย่างเหนียวแน่นมาตลอดกว่า 60 ปีลงได้

      ผมบุกเข้าถึงห้องทำงานของ Dr.M หรือ ตุนมหาธีร์ เพื่อจะได้เห็นทำเนียบรัฐบาลมาเลเซียด้วยตาตนเอง

      คาดไม่ถึงว่าท่านจะเปิดเผยและเป็นกันเองกับผมและทีมงาน กาแฟดำ อย่างยิ่ง ทั้งๆ ที่ไม่มีการตระเตรียมกันล่วงหน้ากับทีมงานของนายกฯ ว่าจะเข้าไปลึกถึงห้องทำงานของผู้นำประเทศ

      เนื้อหาสาระของการสัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้เป็นเช่นไร ขอให้ติดตามในรายการ โลกป่วน ทาง ThaiPBS ครับ 

      แย้มให้ทราบล่วงหน้าได้ครับว่าผมเปิดด้วยคำถามความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซียก่อนเลยครับ เพราะหลายปีก่อน มหาธีร์มีบทบาทสำคัญอยู่เบื้องหลังการช่วยผลักดันให้มีการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลกลางของไทยกับกลุ่มผู้ก่อเหตุในสามจังหวัดชายแดนของไทย

      แน่นอนว่าผมถามทุกประเด็นที่อยู่ในความสนใจของผู้คน โดยเฉพาะวันที่ 17 สิงหาคมนี้จะเป็นวันครบ 100 วันแรกของการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สองของท่านผู้เฒ่า

      หลังชัยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา มหาธีร์และรัฐบาลใหม่รับปากกับประชาชนว่าจะทำนโยบาย 10 ข้อให้เสร็จภายใน 100 วันแรก

      เป็นช่วง ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ หรือ Honeymoon ทางการเมืองระหว่างมหาธีร์กับประชาชน เพราะเมื่อโค่นนาจิบได้ก็มีการประกาศว่านี่เป็น รุ่งอรุณใหม่ หรือ New Dawn สำหรับมาเลเซีย

      แน่นอนว่าผมต้องถามมหาธีร์ว่าถึงวันนี้ “น้ำผึ้งยังหวานอยู่หรือไม่?”

      คำตอบของท่านเป็นอย่างไร ติดตามรายการทางไทยพีบีเอสนะครับ

      มหาธีร์เป็นนายกฯ คนที่ 4 และคนที่ 7 ของมาเลเซีย

      ครั้งแรกจากปี 1981 ถึง 2003

      ผ่านมา 15 ปี เขากลับมาเป็นหัวหน้ารัฐบาลอีกครั้งในวัย 93

      พอผมบอกว่า “ท่านเป็นผู้นำประเทศที่อายุมากที่สุดในโลก....” มหาธีร์หันมาย้ำกับผมว่า “ผมเป็นผู้นำที่ได้รับการเลือกตั้งโดยประชาชนที่อายุมากที่สุดในโลกครับ”

      ครั้งนี้มหาธีร์ต้องไประดมกำลังจากอดีตศัตรูคู่แค้นอย่างอันวา อิบราฮิม ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทายาททางการเมืองเพื่อจะทำให้นาจิบ ราซัค (ซึ่งก็เคยเป็นทายาททางการเมืองอีกคนหนึ่งเช่นกัน) หลุดจากตำแหน่งให้ได้

      เมื่อปฏิบัติการ พลิกโลก ครั้งนี้สำเร็จอย่างเกรียวกราว มหาธีร์ (ซึ่งยอมรับว่า "ผมเองก็แปลกใจเหมือนคนอื่นๆ") ก็ประกาศเป็นคำมั่นสัญญาว่าจะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ เพียง 2 ปีและจะให้อันวาขึ้นมาทำหน้าที่แทน

      วันที่ผมไปถึงกัวลาลัมเปอร์ มีข่าวคราวในสื่อมาเลเซียว่าผู้บริหารพรรค PKR (People’s Justice  Party) ที่อันวาเพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าแทนภรรยา (Wan Azizah ที่ไปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลมหาธีร์) ได้ออกมากล่าวหาว่ามหาธีร์จับมือกับอดีตรัฐมนตรีคลัง ดาอิม ไซนุดดิน  (หนึ่งในสมาชิก "สภาผู้อาวุโส") พยายามจะสกัดโอกาสที่อันวาจะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

      เมื่อมีข้อกล่าวหาอย่างนี้ การเมืองในประเทศของมาเลเซียก็ร้อนซิครับ

      อย่างนี้แปลว่ามหาธีร์กับอันวากำลังจะมีประเด็นระหองระแหงกันอีกแล้วหรือ? อย่างนี้จะไม่กระทบเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลใหม่หรือ?

      พอนักข่าวถามประเด็นนี้ มหาธีร์ตอบว่า "นั่นมันเป็นความเห็นของพรรคการเมืองหนึ่ง ผมไม่มีหน้าที่ไปก้าวก่ายเรื่องของพรรคการเมืองอื่น และผมก็ไม่เคยคุยกับใครเรื่องนี้ ใครที่กล่าวหาอย่างนี้ต้องมีหลักฐานมาพิสูจน์นะครับ"

      เมื่อได้จับเข่าซักถามมหาธีร์ แน่นอนว่าผมจะไม่ยกเรื่องนี้มาคุยได้อย่างไร

      มหาธีร์ตอบคำถามอันละเอียดอ่อนอย่างยิ่งว่าอย่างไร คอยติดตามกันนะครับ

      นักข่าวต่างประเทศถามมหาธีร์เรื่องคอร์รัปชันของรัฐบาลนาจิบ ราซัค คำตอบโพล่งออกมาอย่างไม่ต้องกรองถ้อยคำให้ฟังดูดีเลย

        “ตอนแรกมองจากข้างนอก เราไม่คิดว่าความเสียหายจากการทุจริตประพฤติมิชอบของรัฐบาลก่อนจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์ขนาดนี้...คนระดับสูงๆ ส่วนใหญ่ของรัฐบาลก่อนล้วนแล้วแต่ทุจริตทั้งนั้น..”  มหาธีร์บอกกับซีเอ็นเอ็น

      พอผมมีโอกาสระหว่างการสัมภาษณ์ ผมก็ถามว่า “ระดับคอร์รัปชันในรัฐบาลก่อนมันแย่แค่ไหน?”

      คำตอบของมหาธีร์ไม่เลี้ยวลดคดเคี้ยวไปไหนเลยครับ ยิงเข้าเป้า และสะท้อนถึงความเด็ดเดี่ยวที่จะต้องเอา "เงินที่พวกเขาขโมยจากประชาชน" กลับมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้!

      เชื่อไหมครับว่าโต๊ะที่มหาธีร์นั่งทำงานที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีวันนี้ยังเป็นโต๊ะตัวเดิมตอนที่เป็นนายกฯ ครั้งก่อน

      15 ปีผ่านไป มหาธีร์ “ทวงเก้าอี้” (และโต๊ะทำงานตัวเดิม) กลับมาจริงๆ ครับ!