ซานตาเฟ่ ลุยต่างประเทศ สยายปีกกัมพูชาประเทศแรก


เพิ่มเพื่อน    

ซานตาเฟ่ ลุยต่างประเทศ สยายปีกกัมพูชาประเทศแรก พร้อมอยู่ระหว่างเจรจาฟิลิปปินส์ หลังพบตลาดเมืองไทยแข่งแรง ทำเลเริ่มหายาก ล่าสุดยังเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “เหม็ง นัว นัว” บุกร้านอาหารประเภทส้มตำ

 

นายสุรชัย ชาญอนุเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสเต๊กภายใต้แบรนด์ "ซานตาเฟ่ สเต็ก" เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำการเซ็นสัญญาเพื่อขายแฟรนไชส์ร้านอาหารซานตาเฟ่ สเต็ก ให้กับทางบริษัท โซเฟียร์วอร์น อินเวสเมนท์ (Sopheavorn Investment Co., LTD.) ผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยและพื้นที่ให้เช่าในประเทศกัมพูชา เพื่อทำหน้าที่เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ เบื้องต้นจะทำการขยาย 5 สาขาภายในปี 2563 และทำเลส่วนใหญ่จะอยู่ในพนมเปญ

 

สำหรับปัจจัยที่เลือกประเทศกัมพูชาในการรุกต่างประเทศเป็นแห่งแรก เพราะบริษัทมองว่าการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันประชากรของกัมพูชาเองก็มีความนิยมในแบรนด์ไทยอยู่เช่นเดียวกัน โดยตลาดสเต็กของกัมพูชาจะอยู่ตามโรงแรมมากกว่าห้างสรรพสินค้าหรือพื้นที่นอกโรงแรม และเป็นแบรนด์ท้องถิ่น การเข้าไปของซานตาเฟ่จะจับลูกค้ากลุ่มระดับบีบวก ราคาจะแพงกว่าเมืองไทยที่จับกลุ่มระดับบี 25% เนื่องจากต้องนำเข้าวัตถุดิบ ทำให้ต้นทุนค่อนข้างสูง

 

นอกเหนือจากประเทศดังกล่าว บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรที่ประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ประมาณไตรมาส 2 ของปี 2562 โดยปัจจัยของการเข้าไปทำตลาดในฟิลิปปินส์ เพราะมองว่าประชาชนชื่นชอบการรับประทานอาหารนอกบ้าน

 

“การเปิดสาขาใหม่ในเมืองไทยยังคงดำเนินต่อไป แต่ต้องยอมรับว่าทำเลค่อนข้างหายาก พื้นที่ดีๆ ก็เต็มเกือบหมดแล้ว ทำให้เราต้องมองว่าโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ ขณะเดียวกันการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารเมืองไทยก็รุนแรง โดยในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่งกำลังมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ บริษัทจึงหาโอกาสเข้าไป คาดว่าภายในปี 2563 น่าจะเปิดสาขาต่างประเทศได้ 7 สาขา พร้อมกับทำให้รายได้บริษัทเติบโตปีละมากกว่า 20% ” นายสุรชัย  กล่าว

 

ส่วนการขยายสาขาในเมืองไทย เบื้องต้นวางไว้ประมาณ 15-20 สาขาต่อปี โดยปัจจุบันเป็นสาขาของบริษัท 55% และอีก 45% เป็นแฟรนไชส์ คาดการณ์ว่าอีก 3 ปี สัดส่วนจะเป็น 50:50 ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจช่วง 8 เดือนแรกมีอัตราการเติบโตมากกว่า 10% นับว่าดีกว่าภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่เติบโตประมาณ 5% บริษัทมองว่าจบปี 2561 จะมีรายได้เกือบ 1,900 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงเดือน ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการเปิดร้านอาหารแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ เหม็ง นัว นัว” สาขาแรกที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ใช้เงินลงทุนไป 10 ล้านบาท เป็นอาหารประเภทส้มตำเน้นจับกลุ่มครอบครัวและพนักงาน จะเปิดปีละ 3 สาขาต่อเนื่อง เพราะมองว่าร้านส้มตำยังเป็นประเภทของอาหารที่มีการเติบโต และได้รับความนิยมจากคนไทยอยู่เสมอ หรือมีอัตราการเติบโตสองหลัก ทำให้บริษัทสนใจที่จะรุกตลาดจริงจังนับจากนี้ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"