ร้องตร.ถูกยัดข้อหาเสพยา ตกงาน7ปียังไม่ลบประวัติ


เพิ่มเพื่อน    

งามหน้าต้นทางยุติธรรม พนักงานบริษัทวัย 27 ปีร้อง สตช.ถูกตำรวจ สภ.ชลบุรียัดข้อหาเสพยาเสพติด นอนคุกฟรี 7 วันหลังผลตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด ซ้ำถูกให้ออกจากงาน ผ่านไป 7  ปีไปสมัครงานตรวจประวัติพบยังมีคดีติดตัว ถูกบีบให้เขียนใบลาออก ซัด พงส.ไม่แจ้งลบประวัติ
     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วันที่ 22 ม.ค. นายเฉลิมพล อยู่ดี อายุ 27 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งเดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.และโฆษก สตช. เนื่องจากผลจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งผลให้จะถูกไล่ออกจากงาน
       นายเฉลิมพลเปิดเผยย้อนหลังว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ค.53 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะกำลังเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงานพร้อมด้วยเพื่อนอีก 6 คน โดยสารมากับรถบรรทุก 6 ล้อ เมื่อมาถึงด่านตรวจของ สภ.เมืองชลบุรี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 7-8 นายเลือกสุ่มตรวจปัสสาวะของตนเพียงคนเดียว โดยให้ซองพลาสติกไปปัสสาวะใส่ เมื่อนำมาตรวจพบว่ามีสีม่วงจางๆ ขึ้น 2 ขีด แต่ตนก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตำรวจตั้งคำถามทันทีเล่นยามาเมื่อไหร่ ตนก็ปฏิเสธไปไม่เคยยุ่ง 
    "จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวได้ควบคุมตัวผม พร้อมด้วยคนอื่นที่ถูกตรวจพบว่ามีปัสสาวะสีม่วงอีก 7 คนไปที่ สภ.เมืองชลบุรี เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ให้ปัสสาวะใส่ขวดเพื่อไปตรวจอีกครั้ง นั่งอยู่สักพักพนักงานสอบสวนยศ พ.ต.ต. ได้นำเอกสารรายชื่อของแต่คนละมาวางบนโต๊ะและบอกให้เซ็น ผมได้แย้งไปว่าขออ่านก่อน แต่พนักงานสอบสวนกลับบอกว่าไม่ต้องอ่านเซ็นไปก่อน เมื่อเซ็นเสร็จกลับพบว่าเป็นเอกสารยอมรับคำสารภาพข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย"  
       นายเฉลิมพลกล่าวว่า ถึงแม้ตนจะปฏิเสธอย่างไรก็ไม่เป็นผล ถูกนำตัวขึ้นไปควบคุมไว้ในห้องขังเพื่อฝากขัง แต่ติดวันเสาร์-อาทิตย์จึงต้องนอนอยู่ในห้องขัง 2 วัน เมื่อฝากขังวันจันทร์ต้องนอนอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดชลบุรีอีก 5 วัน รวมเป็น 7 วัน ญาติถึงประกันตัวได้ในวงเงิน 15,000 บาท ก่อนจะไปรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติและได้รับผลการตรวจปัสสาวะจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จ.ชลบุรีว่า ไม่พบสารเสพติดให้โทษกลุ่มเมทแอมเฟตามีนแต่อย่างใด
     "ผลจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทำให้ผมถูกให้ออกจากงานทันที เพราะตัวเองต้องไปอยู่ในห้องขังและเรือนจำกว่าสัปดาห์ และเมื่อผลการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด ก็คิดว่าเรื่องจบไปแล้ว  แต่นับจากนั้นไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ไม่ทราบด้วยสาเหตุอะไร เวลาล่วงเลยไปกว่า 7 ปี เพิ่งมาทราบว่าตัวเองมีคดีติดตัว เมื่อมาสมัครงานที่บริษัทแห่งหนึ่งเกี่ยวกับพลังงานย่านวิภาวดีฯ เมื่อปลายปี 60 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกฎของบริษัทต้องตรวจสอบประวัติ ทำงานมาได้เกือบ 4 เดือน กำลังจะผ่านโปรฯ ทางบริษัทได้แจ้งว่าพบประวัติติดตัวคดียาเสพติด ให้ไปเขียนใบลาออกภายในสิ้นเดือนนี้"
      เขาบอกว่าเมื่อรู้ผลตกใจมาก วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาจึงรีบกลับไปที่ สภ.เมืองชลบุรี ติดต่อขอพบพนักงานสอบสวนคนเดิมเพื่อขอสำนวน กลับได้รับคำตอบว่าหาเอกสารไม่พบ วันที่ 16 ม.ค.จึงเดินทางมาที่ฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร สตช.เพื่อขอตรวจสอบ พบว่าคดีของตนยังคงอยู่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า  สภ.เมืองชลบุรียังไม่ได้แจ้งผลการดำเนินคดีถึงที่สุดมายังกองทะเบียนประวัติอาชญากร จึงได้ติดต่อกลับไปยัง สภ.เมืองชลบุรีอีกครั้ง ซึ่งก็เหมือนเดิมคือพนักงานสอบสวนอ้างว่าหาไม่พบ เนื่องจากห้องเก็บสำนวนมีการปรับปรุงยังหาไม่เจอ ไม่รู้อนาคตเรื่องงานจะเป็นอย่างไร ถ้าผลการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องต่อหน้าที่ก็จะดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายต่อไป
      ด้าน พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จะให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายอย่างดีที่สุด จากนี้จะนำเข้าที่ประชุมว่าสาเหตุใดประวัติยังคงอยู่ในฐานข้อมูล ทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขภายใน 3 วัน ถ้าตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ทุกอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่ถูกนำตัวเข้าเรือนจำ ผู้เสียหายถูกละเมิดต้องมีการชดใช้เยียวยา และมีสิทธิ์ที่จะฟ้องดำเนินการเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย สตช.มีระเบียบอยู่แล้ว ถ้าใครเลินเล่อบกพร่องต้องถูกดำเนินการทั้งวินัยและอาญา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"