"จยย.บอมบ์" น้ำหนัก 20 กิโลฯ กลางตลาดสดเมืองยะลา ชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 18 คน เจ้าหน้าที่เร่งตรวจกล้องวงจรปิดหาเบาะแส "มทภ.4" รับการป้องกันยังมีช่องโหว่ เชื่อเป้าทำลายเศรษฐกิจ ชี้มีกลุ่มบุคคลบางตระกูลอยู่เบื้องหลัง "บิ๊กตู่" ประณามคนร้าย ขอ ปชช.ช่วยเป็นหูเป็นตา "ตำรวจ" ไม่ตัดประเด็นป่วนหรือผลประโยชน์
เมื่อวันจันทร์ เวลา 06.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลารับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดภายในตลาดสดพิมลชัย (ตลาดสดรถไฟ) อำเภอเมืองยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิตร ช่อเส้ง ผกก.สภ.เมืองยะลา, นายสาโรช กาญจพงศ์ ปลัดจังหวัดยะลา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 เดินทางไปตรวจสอบ
จุดเกิดเหตุอยู่หน้าร้านเขียงหมู ซอย 3 ภายในตลาดสดพิมลชัย เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 รายเป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเขียงหมูกับผู้ชายที่มารับหมูไปขาย ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านหลายคันได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดเช่นเดียวกับเขียงหมู หลังคาตลาดสดพังเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเป็นการด่วน แต่ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย บาดเจ็บ 18 คน
สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ มีคนร้าย 1 คนขี่รถจักรยานยนต์ซุกระเบิดที่บรรจุภายในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนัก 20 กิโลกรัม มาจอดที่หน้าร้านเขียงหมูแล้ววิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่เกิน 5 นาทีได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์
จากนั้น พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยกล่าวว่าคนร้ายสร้างสถานการณ์ความรุนแรง โดยลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 18 คน ในนามของทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน ขอแสดงความเสียใจต่อญาติของครอบครัวที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว รวมทั้งขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายร่วมกันประฌามในพฤติกรรมอันสุดโต่ง และความชั่วร้ายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รายงานเบื้องต้นให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลางโหม รวมถึง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ทราบแล้ว ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ดำเนินการใน 2 เรื่องใหญ่ คือ การดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยตั้งศูนย์เยียวยาช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ และการเร่งรัดติดตามคนร้าย
"ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งการตรวจสอบในเบื้องต้นขณะนี้รู้เบาะแสคนร้ายแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ก่อเหตุและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ยาก และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตา ที่ผ่านมาในเขตเทศบาลนครยะลาไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว โดยกลุ่มที่ก่อเหตุในพื้นที่เป็นกลุ่มเดิมๆ ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเพราะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว" โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.กล่าว
พ.อ.ปราโมทย์กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ชัดเจนว่า กลุ่มคนร้ายยังไม่ละความพยายามในการก่อเหตุ ต้องการทำลายชีวิตทรัพย์สินประชาชน การทำลายภาพรวมเศรษฐกิจ และการทำลายความเชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐ
"ข้อมูลด้านการข่าวมีการติดตามและการแจ้งเตือนมาอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผ่านมาเหตุการณ์ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ความพยายามของคนร้ายที่ต้องการก่อเหตุในพื้นที่เขตเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก และเป็นพื้นที่สามารถสร้างความสั่นคลอนในระบบอำนาจรัฐได้ ดังนั้นรัฐจะไม่ตอบโต้ แต่จะใช้กระบวนการทางกฎหมาย ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้" พ.อ.ปราโมทย์กล่าว
ต่อมา พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณตลาดสด เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสอบถามแม่ค้าพ่อค้าในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้กำลังใจ และเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา พร้อมนำถุงพระราชทาน กระเช้า และเงินบำรุงขวัญมอบให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ
พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวว่า ขอประณามผู้ก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งยอมรับว่าการดูแลพื้นที่ดังกล่าวมีช่องโหว่ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปจัดระเบียบได้ ผู้ก่อความไม่สงบจึงอาศัยช่องว่างก่อความรุนแรง ส่วนสาเหตุเชื่อว่าต้องการทำลายเศรษฐกิจ และเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีกลุ่มบุคคลในบางตระกูลอยู่เบื้องหลัง
ที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา หลังเกิดเหตุระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์ในตลาดสดกลางเมืองยะลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงได้เพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจการค้าใจกลางเมืองหาดใหญ่มากยิ่งขึ้น ทั้งตรวจสอบรถต้องสงสัยที่ถูกนำมาจอดในย่านการค้าและสิ่งของต้องสงสัยต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุลอบวางระเบิด รวมทั้งด่านตรวจด้านความมั่นคงทั้ง 3 แห่งสแกนรถขาเข้าเมืองหาดใหญ่อย่างละเอียด โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชายแดนทั้ง อ.จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย และ อ.สะเดาก็มีการสั่งการให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ
มีรายงานว่า หน่วยข่าวได้แจ้งเตือนล่วงหน้าให้เฝ้าระวังการก่อเหตุรุนแรงระหว่างวันที่ 20-26 ม.ค.61 ทั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง จ.สงขลามาก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากทราบความเคลื่อนไหวว่ากลุ่มของนายบูคอรี หลำโสะ แกนนำกลุ่มก่อการร้ายเตรียมการก่อเหตุร้ายอีกครั้ง
เช่นเดียวกับที่อำเภอเบตง จ.ยะลา นายดำรงค์ ดีสกูล นายอำเภอเบตง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจการค้า ใจกลางเมืองมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ รวมทั้งตรวจสอบรถทุกชนิดที่ต้องสงสัยและรถที่ถูกนำมาจอดทิ้งไว้ผิดสังเกตในย่านการค้า รวมทั้งสิ่งของต้องสงสัยต่างๆ ที่อยู่ผิดที่ เพื่อป้องกันการลอบวางระเบิด รวมทั้งด่านตรวจด้านความมั่นคงให้ตรวจสอบรถทุกชนิด ทั้งขาเข้าเมืองเบตงและขาออกจากพรมแดนไทย-มาเลเซีย ทุกจุดให้มีการสั่งการให้เฝ้าระวังเช่นกัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากเหตุระเบิดภายในตลาดสดรถไฟ (พิมลชัย) เทศบาลนครยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 18 คน โดยได้กำชับไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องให้เร่งดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่
"นายกฯ ยังได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำไปใช้ในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว พร้อมทั้งออกปฏิบัติการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยแก่ประชาชน เบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมวัตถุพยาน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้พอทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว" พล.ท.สรรเสริญกล่าว
โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า นายกฯ ห่วงใยสวัสดิภาพของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่อุกอาจ มุ่งทำลายชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ก่อให้เกิดความรู้สึกสะเทือนใจต่อคนในพื้นที่ เนื่องจากในเขตเทศบาลนครยะลาไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นมานานแล้ว จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันประณามพฤติกรรมที่สุดโต่งเช่นนี้ รวมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนร่วมกันสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตาและแจ้งข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.แสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ และยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนที่เข้ามาทำธุรกิจ ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น
"เหตุระเบิดในครั้งนี้อาจเกิดจากฝีมือของกลุ่มคนร้ายที่สร้างสถานการณ์ในพื้นที่ หรือเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้งไป จนกว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจนไปถึงผู้ก่อเหตุ จึงขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าสังเกตบุคคล วัตถุต้องสงสัย หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที" รองโฆษก สตช.กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |