ทางหลวงปล่อยคนเสี่ยงตาย สะพานลอยพัง1ปียังสร้างไม่เสร็จ/พระถูกรถชนดับคาถนน


เพิ่มเพื่อน    

ชีวิตแขวนบนเส้นด้าย ชาวอ่างทองเสี่ยงภัยข้ามถนนสายเอเชียหลังรถชนสะพานลอยพังนานร่วม 1 ปี แต่ทุกวันนี้ยังสร้างไม่เสร็จ ล่าสุดเกิดเหตุสลด พระเดินบิณฑบาตข้ามถนนถูกรถชนเสียชีวิต ผอ.แขวงทางหลวงเผยสร้างเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์
    เมื่อวันที่ 22 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวบ้านต้องเสี่ยงชีวิตเดินข้ามถนนสายเอเชีย หลังได้เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกรถแบ็กโฮชนสะพานลอยพังหล่นลงมานานกว่า 1 ปี แต่ไม่มีการสร้างขึ้นให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว ล่าสุดเกิดเหตุสลดพระเดินบิณฑบาตถูกรถชนเสียชีวิตที่บริเวณถนนสายเอเชีย หมู่ 5 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง ทั้งนี้ มีประชาชนและพระสงฆ์ได้รับความเดือดร้อนและเสี่ยงอันตรายในการข้ามถน โดยจุดดังกล่าวเป็นเขตชุมชนและมีเพียงสะพานลอยแห่งเดียวที่ใช้ในการเดินทางข้ามถนนสายเอเชีย
    นายประสิทธิ์ โมอุ่ม อายุ 57 ปี จักรยานยนต์รับจ้างบริเวณดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้พบเห็นพระสมเดช กิจวิบูลย์ อายุ 74 ปี พระลูกวัดมธุรสติยาราม เดินข้ามถนนเพื่อรับบิณฑบาตทุกวัน และบ่นให้ฟังหลายครั้งว่ามันอันตราย แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็ต้องทนข้ามถนนเสี่ยงอันตรายมานานร่วมปี แล้วสุดท้ายก็เกิดอุบัติเหตุสลด โดนรถยนต์ชนเสียชีวิตดังกล่าว นอกจากนั้นในช่วงเวลาเช้าและเย็นจะมีพนักงานและพระสงฆ์เดินข้ามถนนทุกวัน
    นายปฏิเวชวุฒิศักย์ สุขขี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอ่างทอง กล่าวว่า สำหรับสะพานลอยคนเดินข้ามบริเวณดังกล่าว จนถึงวันนี้ไม่ยังไม่สามารถเปิดใช้การได้เป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว ขณะนี้ทางแขวงทางหลวงอ่างทองได้ดำเนินการดึงลวดและหล่อคอนกรีตคานสะพาน เพื่อจะยกคานสะพานขึ้นวางบนตอม่อ คาดว่าจะดำเนินการได้ในวันที่ 26 มกราคม 2561 หลังจากนั้นจะดำเนินการก่อสร้างส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นพื้น ราวสะพาน ให้แล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เปิดให้ประชาชนได้มีสะพานลอยใช้ข้ามระหว่างสองฝั่งได้อย่างปกติ
    "ช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางแขวงทางหลวงอ่างทองได้ติดป้ายเตือนให้ระวังคนข้ามถนน แต่ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอยู่ ขณะเดียวกันได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง มูลนิธิกู้ภัยต่างๆ ในการที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน แต่อาจจะไม่ทั่วถึง เนื่องจากว่าถนนสายเอเชียมีการจราจรที่หนาแน่นและผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูง" นายปฏิเวชวุฒิศักย์กล่าว
    ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอ่างทองกล่าวอีกว่า แขวงทางหลวงไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำการเร่งรัดผู้ที่ชนสะพานพังเสียหาย ถึงแม้ว่าเวลาในการก่อสร้างจะล่าช้าไปกว่า 1 เดือน ซึ่งทางผู้ละเมิดได้แจ้งว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยในวันศุกร์ที่ 26 มกราคมนี้จะมีแผนในการปรับการจราจรเพื่อที่จะนำรถเครนมายกคานสะพาน เพื่อที่จะจัดวางตรงสะพานลอยที่ชำรุดเสียหาย โดยแขวงทางหลวงจะได้ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการปิดเส้นทาง เพื่อดำเนินการยกคานสะพานให้ประชาชนทราบต่อไป
    ส่วนกรณีพระถูกรถชนเสียชีวิตดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.30 น.ของวันจันทร์ที่ผ่านมา ทราบชื่อว่า พระสมเดช กิจวิบูลย์ อายุ 74 ปี พระลูกวัดมธุรสติยาราม ห่างจากศพผู้เสียชีวิตประมาณ 300 เมตร พบรถยนต์กระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน 1 ฒว 1779 กรุงเทพมหานคร มีร่องรอยเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าข้างขวายุบเสียหาย จอดอยู่ริมถนน พบนายวัชรา แก้วมณี อายุ 44 ปี ผู้ขับขี่ บอกว่า ได้เดินทางกลับจากจังหวัดตากเข้าสู่กรุงเทพฯ แล้วขับรถมาตามทาง มองเห็นคนเดินตัดหน้ารถกะทันหัน ทำให้เบรกไม่ทันจึงเกิดอุบัติเหตุ
    พระครูพิศาล คุณาภินันท์ เจ้าอาวาสวัดมธุรสติยาราม กล่าวว่า พระสมเดชได้ออกรับบิณฑบาตทุกเช้ามืดของทุกวัน ปกติจะออกไปกับพระลูกวัดจำนวน 2 รูป แต่วันนี้พระอีก 1 องค์เกิดป่วย จึงมีพระสมเดชออกบิณฑบาตเพียงองค์เดียว หลังจากสะพานลอยที่ใช้ข้ามถนนพังเสียหายมานานร่วม 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีการก่อสร้าง ทำให้ชาวบ้านและพระได้รับความเดือดร้อน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"