คืนเงินเหยื่อแก๊งตุ๋น เล็งจับคนร้ายเพิ่ม


เพิ่มเพื่อน    

อายัดเงินเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์คืนเจ้าของ 2 ราย เป็นเงินกว่า 5.3 แสนบาท ด้าน ตร.ภ.4 รู้แล้ว 2 คนร้ายกดเงินที่ จ.สงขลา ส่งนักสืบตามประกบหวั่นหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมตรวจสอบเส้นทางทางการเงินทั้งระบบหลังมีหลักฐานการโอนเงินจากต้นทางไปยังปลายทางชัดเจน “นพดล” เผยรอผลการพิสูจน์ตัวบุคคลแล้วเสร็จออกหมายจับทันที
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร., พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบ.ช.ก. ร่วมกันแถลงมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อายัดได้จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 2 ราย เป็นเงิน 532,000 บาท
    พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำ ความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติการณ์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นหรือกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีพฤติการณ์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชนทั่วไป และมีผู้หลงเชื่อจนเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก
    พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากการปฏิบัติงานของสายด่วน 1710 ของ ปปง. และสายด่วน 1155 ของ ตร. ร่วมกับทางธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้โอนไปยังบัญชีของกลุ่มคนร้ายแล้วระงับไม่ให้สามารถถอนเงินออกไป จึงได้นำเงินคืนให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน  2 ราย รวมเป็นเงิน 532,000 บาท
    ผู้เสียหายรายที่ 1 อยู่ในพื้นที่ สน.บางกอกน้อย ได้ถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงินจำนวน 946,000 บาท คดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายรายนี้ไว้ได้จำนวน 500,000 บาท ผู้เสียหายรายที่ 2 คดีพื้นที่ สภ.แหลมฉบัง ผู้เสียหายถูกหลอกโอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงินจำนวน 32,000 บาท คดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายรายนี้ไว้ได้ทั้งหมด สรุปจากการผลการปฏิบัติงานในการอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงจำนวน 23 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,050,894 บาท
    ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.เปิดเผยต่อว่า จากสถิติการรับแจ้งเหตุของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ศป.ฉปทน.ตร.) รับแจ้งเหตุตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 20 มกราคม 2561 จำนวน 187 คดี มูลค่าความเสียหาย 96,039,468 บาท
    วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า การสืบสวนสอบติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ข้าราชการตำรวจสังกัด สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ อดีต ผบช.ภ.4 จนมีเหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งรายล่าสุดเป็นแม่ค้าชาวขอนแก่น หลงเชื่อให้เอกสารสำคัญและเลขรหัสประจำตัวกับกลุ่มคนร้ายจนสูญเงินไปร่วม 100,000 บาท
    แนวทางการสืบสวนสอบสวนทั้งหมดเป็นไปอย่างคู่ขนาน มีความคืบหน้าทางคดีทุกวัน โดยเฉพาะการแกะรอยจากปลายทางคือ บุคคลที่ไปกดเงินออกจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ผู้เสียหายมีการตรวจสอบเลขที่บัญชีมาแล้วพบว่าเงินของตนโอนไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ที่มีเลขที่บัญชีและตัวตนของเจ้าของบัญชีจริง โดยเปิดบัญชีสาขาคลองแงะ จ.สงขลา ทีมสืบสวนได้ประสานการทำงานร่วมกับทางธนาคาร จนทราบถึงตัวบุคคลที่กดเงินสดออกจากเลขที่บัญชีดังกล่าวทั้งหมด 3 ครั้ง โดยมีผู้ร่วมมือกัน 2 คน เป็นผู้ชายและผู้หญิงปิดบังใบหน้า ขณะนี้ยังคงไม่ออกหมายจับ เพราะได้ส่งภาพถ่ายไปตรวจพิสูจน์บุคคล หากข้อมูลแน่ชัดและเทียบเคียงตัวบุคคลแล้วเสร็จ จะขออำนาจศาลออกหมายจับทันที
    “เราจะไม่ออกหมายจับเพียงแค่ภาพที่เราพบเห็นเท่านั้น วันนี้เราได้ภาพคนที่กดเงินออกจากบัญชีปลายทางที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์โอนเงินไปแล้ว ภายหลังจากที่ผู้เสียหายหลงเชื่อและยินยอมให้เลขรหัสประจำตัวประชาชน 13 หลัก และเอกสารข้อมูลต่างๆ ทางการเงิน ขณะนี้เข้าสู่ขั้นตอนของการตรวจพิสูจน์ตัวบุคคลเพื่อยืนยันตัวตนที่ชัดเจน จึงจะทำการขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ โดยยังคงไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นคนไทยหรือต่างชาติ เพราะพื้นที่ปลายทางทั้งสมุดบัญชีธนาคารและคนกดเงินนั้น มีพฤติกรรมอยู่ในพื้นที่ตามแนวเขตชายแดน ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรัดกุม รอบคอบทั้งหมด” พ.ต.อ.นพดลกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"