เห็นภาพนี้แล้ว ผมมีความรู้สึกแปลก ๆ
การมีช่องผ่านพิเศษสำหรับ “คนถือหนังสือเดินทางจีน” (Chinese Passport) ที่สนามบินของไทยเราเป็นเรื่องใหม่
ผมยังไม่เห็นสนามบินในต่างประเทศไหนที่มีช่องสำหรับคนถือหนังสือเดินทางสำหรับคนจากประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการเฉพาะ
มีช่องพิเศษก็แต่คนถือหนังสือเดินทางของประเทศนั้นกับของคนต่างประเทศ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
หรือหากจะให้ความสำคัญกับคนประเทศใดก็จะเป็นการเปิดช่องให้เฉพาะกลุ่มประเทศ เช่น EU, ASEAN หรือ APEC เป็นต้น
แต่การเปิดช่องให้กับประเทศใดประเทศหนึ่ง ผมยังไม่เคยเห็น และเข้าใจว่าการจะทำอย่างนั้นอาจทำให้เกิดคำถามเรื่อง “เลือกปฏิบัติ” ได้
แต่ที่สนามบินของเรามีป้ายสำหรับเฉพาะคนจากประเทศจีนเป็นการเฉพาะแล้ว
เหตุผลทางการเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่มาตรการใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากที่คนในรัฐบาลแสดงความเป็นห่วงว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนลดน้อยลงหลายแสนคนตั้งแต่เกิดกรณีเรือล่มที่ภูเก็ต มีผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวจีน 47 คน เป็นข่าวคราวใหญ่โตไปทั่วโลก
อ่านข่าวเห็นบอกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมกันแล้วก็ตกลงว่าจะมีมาตรการหลายอย่างเพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทยอีก
หนึ่งในมาตรการที่ว่านี้เข้าใจว่าคือการ “อำนวยความสะดวก” ให้กับนักท่องเที่ยวจีนด้วยการเปิดช่องที่ตรวจคนเข้าเมืองให้เห็นเป็นประจักษ์
วิธีแก้ปัญหาอย่างนี้น่าสงสัยว่าเป็นการแก้ปัญหาตรงจุดหรือไม่อย่างไร
สิ่งที่คนจีนวิจารณ์หลังกรณีเรือฟีนิกส์ล่มที่ภูเก็ตคือมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ไม่เข้มงวดพอ และหากติดตามการแสดงความเห็นของคนจีนในโซเชียลมีเดียของเขา ส่วนใหญ่จะแสดงความไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่
ผลการสอบสวนเพื่อหาคนรับผิดชอบยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ และมีคนเป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นอีกกรณีหนึ่งของ “คลื่นกระทบฝั่ง” หรือไม่
ประเด็นของปัญหาคือ การที่ฝ่ายไทยจะต้องแสดงให้เห็นชัดเจนว่าจะสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างจริงจัง และหาคนผิดมาลงโทษได้หรือไม่
อีกทั้งยังจะต้องให้ความมั่นใจว่า ต่อแต่นี้ไปหน่วยงานทางการที่รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจะต้องเอาจริงเอาจังกับการทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ความจริงไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้นที่มีสิทธิ์จะคาดหวังเช่นนี้จากทางการไทย
นักท่องเที่ยวทั่วโลกก็ติดตามข่าวเรื่องนี้ และก็คงจะมีความกังวลเหมือนนักท่องเที่ยวจีน
ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องจึงควรจะเป็นการเดินหน้าหาข้อเท็จจริงและดำเนินการอย่างเร่งรีบและจริงจังเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าคนผิดจะต้องถูกลงโทษ และต่อไปนี้ใครไม่ทำตามกฎกติกาว่าด้วยมาตรฐานความปลอดภัยจะต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาดชัดเจน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุม “เที่ยวทั่วไทย ปลอดภัยทุกที่” มีรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ได้เชิญคุณหลี่ ชุนหลิน ที่ปรึกษาและกงสุลใหญ่สถานทูตจีนประจำประเทศไทย มาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น
ข้อมูลที่ทางการนำเสนอในการประชุมวันนั้นน่าสนใจ เพราะเรายังไม่เคยได้รับทราบสถิติเช่นนี้จากฝ่ายไทย เช่น
นักท่องเที่ยวจีน 40% จมน้ำเสียชีวิตในประเทศไทย
ประเทศไทยเป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีนต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี
ปี 2560 คนจีนออกไปเที่ยวต่างประเทศ 60 ล้านคน และ 1 ใน 6 นั้นมาไทย
นักท่องเที่ยวจีนเป็น 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย
ขณะเดียวกัน สถิติอุบัติเหตุของนักท่องเที่ยวจีนในไทยก็สูงที่สุด
ปี 2560 มีผู้เสียชีวิต 98 คน จากอุบัติเหตุ ในจำนวนนี้จมน้ำตาย 65 คน
ปีนั้นมีชาวจีนจมน้ำจากสถิติทั่วโลก 156 คน หมายความว่า คน 40% จมน้ำเสียชีวิตในไทย
ที่ปรึกษาสถานทูตจีนบอกที่ประชุมด้วยว่า หากไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน จะไม่เป็นเพียงการรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น แต่หากจะเป็นการยกระดับคุณภาพของการท่องเที่ยว และมีส่วนช่วยรักษาภาพลักษณ์ของไทยและรัฐบาลไทย ซึ่งช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับจีนให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องด้วย
อ่านรายละเอียดอย่างนี้แล้ว ท่านรู้สึกเหมือนผมไหมว่าเจ้าหน้าที่จีนกำลัง “เล็กเชอร์” รัฐบาลไทยว่าควรจะแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างไรจึงจะ “รักษาภาพลักษณ์” ของไทยได้
เรื่องอย่างนี้ต้องให้นักการทูตจากข้างนอกมา “สอน” เราหรือ?
มองจากแง่ของเขา เมื่อเกิดเหตุเสียชีวิตกันจำนวนมากอย่างนี้กับคนของเขา เป็นหน้าที่ของสถานทูตที่จะต้องแสดงจุดยืนอย่างเปิดเผยเพื่อให้ประชาชนของเขาเห็นว่า รัฐบาลจีนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้บอกกล่าวกับฝ่ายไทยอย่างเปิดเผย
เพราะเขาก็กลัวประชาชนของเขาจะต่อว่าเขา
รัฐบาลไทยต้องกลัวมากกว่านั้น นั่นคือจะต้องกลัวทั้งต่างชาติจะเห็นเราไร้ประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ต้องหวั่นว่าคนไทยจะมองว่ารัฐบาลทำไมยังไม่สามารถให้ความมั่นใจกับต่างชาติหลังจากพบปะพูดจากับเขาหลังเกิดอุบัติเหตุหรือ?
พรุ่งนี้มาว่ากันว่าฝ่ายจีนได้เสนอมาตรการให้ฝ่ายไทยอย่างไรบ้าง และการที่เราเปิดช่องให้ Chinese Passports เป็นการเฉพาะนั้นเป็นการแก้ปัญหาถูกจุดหรือไม่
หรือจะสร้างปัญหาด้านอื่นๆ อย่างไร?.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |