อยากใช้บริการผ่านทางที่ไม่ต้องอ้อมไกล ก็ต้องจ่าย 10 บาท 

     อุเหม่! มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร???

     นับเป็นประสบการณ์ใหม่ที่มนุษย์ป้าตุหรัดตุเหร่ หนีปัญหารถติดบนถนนลาดพร้าว ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลัดเลาะเพื่อไปออกถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา แล้วปรากฏว่าไปเจอะเจอเข้ากับด่านเก็บสตางค์โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

     เห็นป้ายบอกว่า รถยนต์ 10 บาท ..โอ้โฮเฮะ! เคยแต่ได้ยินได้ฟังว่าแถวถนนลาดพร้าวต่อรัชดาภิเษก เขาเก็บกันคันละ 5 บาท แต่เข้าใจว่า ด่านดังว่านี้ไม่มีแล้ว และรถยนต์ก็สามารถผ่านเข้า-ออกทางลัดนั้นได้อย่างสบายกระเป๋า

     ไม่คิดว่าตัวเองหนีเสือมาปะจระเข้ตัวใหญ่เลยทีเดียว เพราะคนเก็บสตางค์หน้าตาดุมาก แค่อ้าปากถามว่า นี่ออกไปถนนเลียบด่วนได้หรือเปล่า และไปทางไหน พ่อคุณก็กระชากเสียงใส่ ราวกับว่า ..อีป้านี่มาจากไหน???

     อยากจะตอบว่า ใช่สิ ถ้าไม่หลงเข้าไปล่ะก็ แกไม่ได้แอ้มเงินชั้นหรอกนะ!! นี่มันประเทศไทยนะคะ คุณมีสิทธิ์อะไรมาเก็บค่าผ่านทาง

     จะบอกว่าเป็นสิทธิ์ของพื้นที่ส่วนบุคคล ...ห้ามผ่าน!! แล้วทำไมไม่เขียนป้ายโตๆ ไว้หน้าปากซอยหนอ ...ที่สำคัญเหนืออื่นใดเลย คุณกลับติดป้ายว่า ...ห้ามกลับรถในบริเวณหมู่บ้าน

     ห้ามผ่าน แล้วยังห้ามกลับรถ ...แล้วจะให้ทำอย่างไรล่ะ นอกจากยอมจ่ายค่าผ่านทางเสียดีๆ

     ที่น่าสังเกตคือ ทางดังว่านี้พอผ่านเข้าไป หาใช่เจอถนนเลียบด่วนแบบทันทีทันใดนะจ๊ะ แต่ต้องผ่านลานจอดรถของห้างเซ็นทรัลเลียบด่วนรามอินทราเจ้าค่ะ ถึงจะไปเจอทางออก

     ที่ตลกคือ กว่าจะเลี้ยวออกมาได้ คุณต้องเข้าไปในอาคารจอดรถก่อนนะคะ แล้วถึงทางออก

     นี่ถ้าห้างเซ็นทรัลเห็นช่องทางทำมาหากิน ลุกขึ้นมาเก็บค่าผ่านทางบ้างจะว่าอย่างไรนะเนี่ย เพราะห้างเซ็นทรัลก็เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลเหมือนกันนี่นา

     รวยแน่ๆ สำหรับคนที่เก็บค่าผ่านทางตรงนี้ ก็ได้แต่หวังว่า เขาจะมีความสุขที่ทำมาหาเงินได้จากทำเลทองนี้แบบง่ายๆ และหวังเสียเหลือเกินว่า เจ้าของที่ตรงนี้จะนำเงินไปพัฒนาสาธารณูปโภค และสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับลูกบ้านของหมู่บ้านแห่งนี้นะคะ

     อย่างไรก็ตาม สำนักเขตลาดพร้าวอยู่ใกล้ๆ แถวนั้นแท้ๆ เคยใส่ใจบ้างไหมว่า ทางลัดเยี่ยงนี้ควรหรือที่จะยังมีอยู่...หุหุ ..อ้อ..เขาเสียภาษีรายได้หรือเปล่าหนอ??? เพราะใบเสร็จไม่เห็นให้เราสักใบเลยนะ.

                                                                                                                                  "ป้าเอง"