อืมม์ม์ม์...มาถึง ณ ขณะนี้ แม้ว่าพี่ใหญ่ บิ๊กป้อม ท่านไม่อยู่ หรือไม่คิดจะอยู่ แต่ก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่า มันจะพอช่วยให้อะไรต่อมิอะไรดีขึ้นมาซักกี่มาก-น้อย เผลอๆ อาจส่งผลให้ไอ้ที่กำลังเป๋ไป-เป๋มา ยิ่งแกว่งซ้าย-แกว่งขวาหนักขึ้นไปอีกหรือไม่ ก็มิอาจทราบได้ คือถ้า บริษัท ดันเกิดขาด กรรมการผู้จัดการ ไปซะคน ก็ยังไม่รู้ว่าประธานบริษัทจะมีขีดความสามารถในการเซ็นเช็ค แลกเช็ค ได้มาก-น้อยขนาดไหน...
---------------------------------------------------
อีกทั้งช่วง ขาลง ระหว่างนี้...มันออกจะไหลเร็ว ลงเร็ว เอามากๆ ใครจะไปคิดว่าแค่เมื่อช่วงกลางๆ ปีที่แล้ว คะแนนนิยม บิ๊กตู่ แม้จะไม่ถึงขั้นโด่ไม่รู้ล้ม แต่ก็ไม่ถึงกับหัวตก หางตก มากมายซักเท่าไหร่ แต่ผ่านมาแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ถึงกับออกอาการทั้งเหี่ยว ทั้งหด พอๆ กับไปแอบรับประทานก๊วยเตี๋ยวเวียดนามมาเมื่อไหร่ ตอนไหน ก็มิอาจทราบได้ ส่งผลให้บรรดา กองหลอน เมื่อมองไม่เห็น กองหนุน กันชัดๆ เลยได้จังหวะออกมาแลบลิ้น ปลิ้นตาหลอก ร่อแร่ๆ กันเป็นสายๆ แม้แต่ผู้ที่เงียบหายไปจากสารบบ จนนึกว่าเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ไปนานแล้ว อย่างเช่น เหลิม ดาวเทียม เป็นต้น ยังถึงกับออกมาเรียกแขก ว่ากำลังนั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิด ว่าจะ หาทางกลับมามีอำนาจ ในแบบไหน ช่วงไหน กันดี...
--------------------------------------------------------
ภายใต้สภาพเช่นนี้...และภายใต้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เลยคงไม่ต้องเสียเวลาคิดอีกต่อไปแล้ว ว่าจะวาง ยุทธศาสตร์ชาติ เอาไว้อีก 10 ปี หรือ 20 ปี ในอนาคตเบื้องหน้า คือเอาแค่ว่า...ตลอดช่วงประมาณ 1 ปีนับจากนี้ จะหาทางประคับประคองตัวเองไม่ให้บาดเจ็บ บอบช้ำ จนเกินไป ได้แบบไหน อย่างไร ทำยังไงถึงจะทำให้ เสือ ไม่กัด หรือไม่คาบเอาไปแ-ก อีกทั้งจะทำยังไงถึงจะใช้เวลาที่เหลือๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม ต่อชาติบ้านเมือง ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ว่าจะเป็นในระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาวก็ตามแต่...
--------------------------------------------------------
ส่วนการออกเดินสาย พบปะ เยี่ยมเยียน เจ๊าะๆ แจ๊ะๆ กับราษฎรในพื้นที่ต่างๆ นั้น ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวก นักการเมือง เขาว่าของเขากันเอาเอง...น่าจะเข้าท่ากว่า เพราะไม่ว่าใครจะรัก-ไม่รัก บิ๊กตู่ มันคงไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์โดยรวมดีเด่ขึ้นมามากมายซักเท่าไหร่ ยิ่งถ้าหากต้องแบก บิ๊กป้อม ขึ้นเอว ขึ้นคอ ต่อไปเรื่อยๆ ระดับ เลิฟ มี นั้นคงพอได้ แต่จะให้ถึงขั้น เลิฟ มี เลิฟ มาย ด๊อก ไปโดยตลอดนั้น น่าจะลำบากเอามากๆ ด้วยเหตุนี้...สู้หันไปสุมหัว นั่งเปิดประชุมโต๊ะเหลี่ยม โต๊ะกลม อะไรที่ยังคงค้างๆ คาๆ งัดเอา มาตราฉี่ฉิบฉี่ ออกมาไล่ทุบ ไล่บี้ ให้เกลี้ยง ให้ราบเลี่ยน เตียนโล่ง ให้สมกับการที่ยอมทอดตัวเป็น สะพาน เพื่อให้ใครต่อใครข้ามฝั่งฝันกันได้มั่ง...
----------------------------------------------------------
อย่างเรื่อง ปฏิรูปตำรวจ ที่ผ่านการศึกษา ค้นคว้า อภิปรายถกเถียง มาตั้งแต่ยุคพระเจ้าเหายังทรงนุ่งกางเกงหูรูด หมดคณะกรรมการไม่รู้กี่คณะต่อกี่คณะมาแล้ว แถมคณะล่าสุดยังเป็นคณะที่ไปลากเอาครูบา อาจารย์ ผู้มีพระคุณของตัวเองมาร่วมปวดหัวด้วยซะอีกต่างหาก เพื่อทดแทนบุญคุณครูบา อาจารย์ ทดแทนพระคุณประเทศชาติ หรือพระคุณแผ่นดินก็แล้วแต่ แค่งัดมาตราฉี่ฉิบฉี่ออกมา ฟันเปรี้ยง รวดเดียว ย่อมสามารถ คืนความสุข ให้กับใครต่อใครได้เป็นกองๆ ไม่ต้องเสียเวลารีวายเทป ย้อนไปฟังเพลง คสช.ให้ต้องเมื่อยหู เมื่อยหำ อีกต่อไป จะเอาแผนปฏิรูปฉบับพลตำรวจเอก วศิษฐ์ หรือฉบับ พระอาจารย์บุญสร้าง ก็มีให้เลือกอยู่เยอะแยะมากมาย...
--------------------------------------------------------
แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว...นอกจากจะไม่ถูกเสือคาบไปแ-กแล้ว ยังอาจส่งผลให้ เสือร้องไห้ ซะอีกล่วย เปิดโอกาสให้ราษฎรทั้งหลายสามารถเอาไปปรุงเป็นลาบ เป็นก้อย เป็นต้มยำ ต้มแซ่บ กลายเป็นลาภปากไปตราบนานเท่านาน ไม่ต้องมาเจอกับต้นธารกระบวนยุติธรรมที่สุดแสนจะแห้งแล้ง หิวโหย ส่งผลให้กลางน้ำ ปลายน้ำ ของระบบยุติธรรมทั้งระบบ ต้องพลอยบิดเบี้ยวตามไปด้วย เพียงเท่านี้...ไม่ว่าใครจะรัก-ไม่รัก แต่เธอคงต้องไว้ใจและศรัทธาขึ้นมามั่ง ไม่มากก็น้อย เพราะอย่างน้อยก็ไม่ถึงกับต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายสามโมงแก่ๆ ไม่ต้องรอว่า แผ่นดินจะดีในไม่ช้า ตามเวลาสวรรค์ ไม่ใช่เวลามนุษย์โลกอย่างเราๆ-ทั่นๆ ดังที่ ป๋าเปลว สีเงิน ท่านอุตส่าห์อธิบายขยายความเอาไว้วานนี้...
---------------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...มาถึงขั้นนี้แล้ว แทบไม่ต้องเสียเวลาสนใจว่าประชาธิปไตยมันจะออกไปทางไทยนิยม สากลนิยม วิเศษนิยมเอาเลยก็ยังได้ ใครจะขึ้นช้าง ลงม้า ขึ้นสวรรค์ ลงนรก ปล่อยให้ปวงชนและพวกนักการเมืองเขาว่าของเขาไปเองก็แล้วกัน ใครจะตั้งพรรคใหม่ ย้ายพรรคเก่า ใครจะเลือกตั้งทัน-ไม่ทัน ปล่อยให้เป็น เรื่องของมึง ว่ากันไปตามสภาพ ส่วน ตัวกู-ของกู นั้น ทำยังไงถึงจะไม่ให้โดนเสือกคาบไปแ-ก อันนี้นี่แหละ...น่าจะสำคัญกว่า อย่างน้อย...ในเมื่อกูได้สัญญาไว้กับมึงแบบเต็มปาก-เต็มคำ แถมแต่งเพลงเอาไว้ให้ด้วย ว่าจะต้อง คืนความสุขให้ประเทศไทย ให้ได้แบบเป็นกอบเป็นกำ เพื่อดำรง รักษา ความเป็น สายัณห์ สัญญา แบบรักน้อยหน่อยไม่ว่า แต่ขอให้รักนาน ไม่ใช่ สัญญา พรนารายณ์ ที่มีแต่ต้องจบลงในแบบ เจ้าเปลี่ยนไป...หัวใจเหมือนถูกปืน...แทบล้มทั้งยืน...สะอื้นอกตรม...จากไร่ไปหา...เงินตราชวดชม...วิมานพี่ล่ม ลืมสัญญาเมื่อสายัณห์” ตาดั๊บๆ...ตาด่าดับๆ ตาดั๊บๆ ตาด่าดับๆ ชนิดต้องปวดร้าวกันไปทั้งประเทศ...
-------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon... Conscience is a small inner voice that doesn’t speak your language.-เสียงของสติสัมปชัญญะนั้น เป็นเสียงกระซิบแผ่วอยู่ภายใน ซึ่งไม่เหมือนกับการแสดงออกในภาษาที่ท่านพูด...
-------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |