รัฐบาลบังกลาเทศยอมรับเมื่อวันจันทร์ว่า แผนการส่งผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจากลับคืนเมียนมาจะไม่สามารถเริ่มต้นได้ตามกำหนดการวันอังคารนี้ เนื่องจากยังต้องมีการเตรียมความพร้อมอีกมาก

ผู้ลี้ภัยโรฮีนจารอรับแจกจ่ายอาหารที่ค่ายผู้ลี้ภัยทันคาลีในบังกลาเทศ ภาพ AFP

    เดิมนั้น รัฐบาลบังกลาเทศและรัฐบาลเมียนมาได้ทำความตกลงกันว่าจะเริ่มกระบวนการส่งกลับผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาในวันอังคารที่ 23 มกราคม 2561 ภายใต้กรอบเวลาการดำเนินการ 2 ปี แต่เมื่อวันจันทร์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานคำประกาศของ   โมฮัมหมัด อาบุล คาลัม ข้าหลวงด้านการบรรเทาทุกข์และส่งกลับผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศ ว่าบังกลาเทศยังเตรียมการไม่พร้อมสำหรับการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับเมียนมาในวันพรุ่งนี้ ยังต้องมีการเตรียมพร้อมอีกมาก
    สถานการณ์รุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมาสืบเนื่องจากปฏิบัติการปราบปรามกองกำลังติดอาวุธโรฮีนจาที่โจมตีที่มั่นของตำรวจตระเวนชายแดนเมียนมาเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทำให้ชาวโรฮีนจา ซึ่งเมียนมาเรียกว่าเบงกาลี อพยพข้ามชายแดนเข้าสู่บังกลาเทศแล้วราว 655,000 คน เกือบทั้งหมดอาศัยอยู่ในค่ายลี้ภัยสภาพซอมซ่อแออัดไม่ถูกสุขลักษณะ
    ผู้อพยพเหล่านี้บอกเล่าสภาพการณ์ภายในถิ่นฐานของพวกเขาว่า กองกำลังความมั่นคงเมียนมาฆ่า ข่มขืน และวางเพลิงหมู่บ้านของโรฮีนจาราบคาบ องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และรัฐบาลสหรัฐกล่าวประณามพฤติกรรมของกองกำลังความมั่นคงเมียนมาว่าเปรียบได้กับการล้างเผ่าพันธุ์โรฮีนจา
    แรงกดดันและเสียงประณามจากทั่วโลกทำให้รัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี ยินยอมทำความตกลงกับรัฐบาลบังกลาเทศในเดือนนี้ ที่จะรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจากลับคืนเมียนมา
    กลุ่มสิทธิและยูเอ็นกล่าวว่า การส่งตัวกลับต้องกระทำผ่านความสมัครใจ และรัฐบาลบังกลาเทศได้ให้ความมั่นใจกับประชาคมระหว่างประเทศว่า มีแต่โรฮีนจาที่เต็มใจกลับบ้านเกิดที่รัฐยะไข่เท่านั้นที่จะถูกส่งตัวคืนกลับเมียนมา
    แต่อาบุล คาลัม ยอมรับว่า บังกลาเทศยังต้องสร้างศูนย์พักชั่วคราวสำหรับการส่งผ่านหลายแห่ง และยังต้องเตรียมกระบวนการที่เคร่งครัดสำหรับการอนุมัติรายชื่อของผู้ที่มีสิทธิและสมัครใจจะกลับเมียนมาด้วย หากสิ่งเหล่านี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ บังกลาเทศก็ไม่สามารถส่งพวกเขากลับเมียนมาอย่างปุบปับ
    เขาไม่ได้บอกว่ากำหนดการใหม่จะเริ่มได้เมื่อใด แต่ได้กำหนดสถานที่ 2 แห่งใกล้ชายแดนที่อาจใช้สร้างศูนย์ส่งผ่านแล้ว.