ท้าแม้วกลับมาสู้คดี ซัดอย่าปลุกสมุนตายแทน/ยะใสชี้ใบเสร็จมัดบงการพรรค!


เพิ่มเพื่อน    

 

 เบิร์ธเดย์ 73 ปี "บิ๊กป้อม" ขอให้ประเทศชาติสำเร็จ ประชาชนอยู่ดีกินดี รักใคร่ปรองดอง โต้ "แม้ว" ให้พรรคการเมืองสู้ในทาง ปชต. แล้วให้ประชาชนตัดสิน ปชป.กวักมือเรียก น.ช.ทักษิณกลับมาสู้คดี  "ประสาร" ตอกเจ็บ แม่ทัพหนีคุกไปเสวยสุขต่างประเทศ  ปล่อยไพรพลสู้ศึกล้มตายติดคุกยังเหลือความชอบธรรมอีกหรือ "สุริยะใส" ชี้เท่ากับสารภาพทักษิณมีอำนาจเหนือ พท. ขณะที่ลูกสมุนแก้ต่างเป็นสงครามเลือกตั้งให้พท.ชนะก่อน "สุริยะ" ปวดใจหลานธนากรจับโยงเผด็จการ แนะไปดูโพลหนุน "ประยุทธ์" เป็นนายกฯ

    เมื่อวันศุกร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า ในเรื่องการเป็นประชาธิปไตยซึ่งเป็นเป้าหมายของเรานั้น การเลือกตั้งก็เป็นกระบวนการหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ แม้จะไม่ใช่คำตอบทั้งหมดอย่างที่ประชาชนให้ความคิดเห็นมากับการตอบแบบสอบถามที่ตนออกไป 10 ข้อ แต่ทั้งนี้เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมาถึงเป็นไปด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม เราก็จำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันสร้างการมีส่วนร่วมให้กับประชาชนทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะพรรคการเมือง นักการเมือง ที่มีความคิดเห็นที่เห็นว่าประเทศไทยควรต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว
    "วันนี้เห็นหลายคน หลายฝ่าย ย้ายกันไปย้ายกันมา ก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ถ้าทุกคนคิดว่าไอ้การย้ายมานี่จะทำให้เกิดความร่วมมือกันมากขึ้นในการทำงาน ซึ่งผมคิดว่าในวันหน้ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาก็คงต้องทำตามกติกา กฎระเบียบ กฎหมายมากมาย เราคงทำอย่างเดิมไม่ได้อีกต่อไป ในกรณีที่ทำให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน เราทำไม่ได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องปลูกฝังคุณธรรม ประกอบกับให้ความรู้ ความเข้าใจ ที่ลึกซึ้งและถ่องแท้อย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งที่ทำได้วันนี้เลย ก็คือทุกคนต้องเตรียมการ การรักษาสิทธิ์ของตนด้วยการออกมาใช้สิทธิ์ แล้วก็ต้องมีความรู้ว่าใช้อย่างไร จะเกิดผลอย่างไร ช่วยกันรักษากฎหมาย ไม่ยอมให้ใครละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และไม่เพิกเฉยต่อพฤติกรรมการซื้อสิทธิ์ขายเสียง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    เช้าวันเดียวกัน ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดมูลนิธิฯ เพื่อให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 73 ปี โดยได้ให้เฉพาะปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพ 5 เสือเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายทหารระดับสูง รวม 40 นาย เข้าอวยพรเป็นการส่วนตัว ที่ชั้น 2 มูลนิธิฯ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เข้าร่วมอวยพร จากนั้นได้ร่วมรับประทานอาหารเช้า ก่อนจะประชุมร่วมกับ คณะกรรมการปรับย้ายทหารชั้นนายพล รวม 7 นาย 
    พล.อ.ประวิตรได้กล่าวขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมอวยพร ว่า ขอบคุณทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกันมาตลอดหนึ่งปีอย่างเต็มที่ ทำให้งานความมั่นคงประสบความสำเร็จด้วยดี แม้ทหาร ตำรวจจะเป็นเป้าใหญ่ แต่ก็ขอให้อดทนทำงานต่อไปอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตำรวจเป็นเป้าใหญ่ก็ต้องอดทน
     จากนั้นได้เปิดให้สื่อมวลชนสายทหารเข้าร่วมอวยพร พร้อมกล่าวว่า ขอบคุณที่มาอวยพร หนักนิดเบาหน่อยก็ไม่อยากจะคิดอะไรมาก สิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็ต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้า ซึ่งทุกวันนี้ก็เดินไปข้างหน้าอยู่แล้ว ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างดียิ่ง 
กวักมือเรียกแม้วมาขึ้นศาล
    "ผมไม่คิดอะไรที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ต้องการให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ตอนนี้รถไฟรางคู่ต่างๆ รถไฟฟ้าก่อสร้างจำนวนมากรัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อประชาชนโดยแท้จริง ส่วนปัญหาเรื่องสุขภาพก็อย่างที่เห็นอยู่ ผมติดเชื้อเข้ากระแสโลหิต วันนี้หมอให้ยาวันนี้วันสุดท้ายแล้ว เชื้อมันแรง" รองนายกฯ ประวิตรกล่าว และว่า อยากขอพรให้ประเทศชาติมีความสำเร็จ ประชาชนอยู่ดีกินดี รักใคร่ปรองดองกันร่วมกัน อยู่ภายใต้กฎระเบียบ รัฐธรรมนูญเดียวกัน" พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่า สำหรับการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ประจำปี 2561 ได้ประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมส่งนายกฯ พิจารณา
    "ก็จะให้ทำอย่างไร ก็พรรคการเมืองมีหลายพรรค ก็ต้องสู้กันไป เราสู้ในทางประชาธิปไตย ให้ประชาชนดูว่าใครสมควรที่จะเป็น ก็ว่ากันไป" พล.อ.ประวิตรกล่าวเมื่อถามว่า คสช.จะทำอย่างไรกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ประกาศสู้ไม่ยอมแพ้
    ด้านนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การต่อสู้ทางการเมืองถือว่าเป็นการต่อสู้ที่เปิดเผย ขอแสดงความยินดีที่นายทักษิณกล้าพูดและกล้าทำ และขอให้ทำการเมืองอย่างเปิดเผย อย่าซ่อนใต้ผ้าหรือซ่อนใต้พรม ใช้วิธีการพลิกแพลง ที่สำคัญคือขอให้นายทักษิณกลับมาต่อสู้ร่วมกับมวลสมาชิกในประเทศไทย จะเป็นการดีกับทุกฝ่าย สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือกติกา และอย่ากล่าวหา หรือใส่ร้ายหรือพูดฝ่ายเดียวให้ร้ายอำนาจนิติบัญญัติหรืออำนาจตุลาการทั้งหลายให้เสียหาย ควรใช้สิทธิ์ทางศาลต่อผู้ที่ทำร้ายใส่ร้ายหรือกระทำการผิดกฎหมายทั้งปวง ดีกว่าพูดฝ่ายเดียวให้ร้ายคนอื่น หรือองค์กรอื่น
    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า เหมือนกองทัพเวลาจะออกศึก แม่ทัพนายกองก็ต้องพูดปลุกใจลูกทัพ ให้ต่อสู้ไปข้างหน้า การที่นายทักษิณพูด เป็นการพูดในจังหวะที่พรรคเพื่อไทยถูกดูด เขาก็ต้องหยุดความคิดนั้น และต้องทำให้สมาชิกของเขาต้องหยุดฟัง เหมือนกับเป็นการปรามลูกพรรคตัวเองมาก 
    นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า ก็สนับสนุนให้นายทักษิณสู้ แต่ก่อนจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ควรศึกษาคำว่าประชาธิปไตยให้ถ่องแท้ เพราะถ้ายังศรัทธาระบบเผด็จการรัฐสภานั้น ไม่ใช่แนวทางของนักสู้ การต่อสู้ในระบบประชาธิปไตย หมายถึงการต่อสู้ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และการสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทุกอย่างต้องยอมรับผลของคำตัดสิน ไม่ใช่ใช้ความถูกใจก็สนับสนุนให้ต่อสู้ตามระบบประชาธิปไตย โดยเฉพาะอยากให้กลับมาเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมก่อนจะดีกว่า
    นายประสาร มฤคพิทักษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวว่า ขอตั้งคำถามกลับไปถึงผู้พูดว่า "แม่ทัพที่หนีตาย หนีคุกไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศ ปล่อยให้ไพร่พลสกลไกรสู้ศึกในสนามรบอย่างเดียวดาย มีทั้งบาดเจ็บ ล้มตาย ถูกจับ ถูกคุมขัง บ้านแตกสาแหรกขาด พินาศปี้ป่นไปกี่ชีวิตแล้ว ยังเหลือความชอบธรรมอะไรที่จะมาพูดเช่นนี้ สำหรับคนที่ปฏิเสธคำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรม และยังหนีหมายศาลอีก 4-5 คดี กลายเป็นสัมภเวสีหนีอาญาแผ่นดิน กลับมาสู้หน้าคนไทยต้อนรับการเผชิญสืบจากกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างสง่าผ่าเผยมิดีกว่าหรือ มีนักโทษคนไหนในโลกที่ขอพิพากษาตนเองว่าตนไม่ผิด คำถามก็คือจะต้องเอาคนอื่นไปตายแทนอีกกี่ชีวิต สงครามจึงจะจบ อันที่จริงคนพูดไม่ได้แพ้สงครามหรอก เขาแพ้ภัยตนเองต่างหาก และเขาจะต้องทรมานกับภัยที่สร้างขึ้นด้วยตนเองไปจนสิ้นอายุขัย
ทักษิณมีอำนาจเหนือ พท.
    นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม โพสต์ข้อความ "สงครามของทักษิณ...สงครามของใคร เพื่อใคร?" ในเพจเฟซบุ๊กระบุว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึง ถ้ายังเป็นยุทธศาสตร์เดิม คือการแก้แค้น ไม่ใช่แก้ไข หมายความว่านายทักษิณก็ต้องทุ่มเททรัพยากรทุกอย่างผ่านพรรคเพื่อไทยเพื่อให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า การแสดงตนเป็นผู้มีอำนาจในพรรคการเมืองของคุณทักษิณขัดต่อบทบัญญัติของ พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28-29 หรือไม่ ที่ห้ามคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคยุ่งเกี่ยวกับกิจการของพรรค ประกอบกับที่แกนนำ นปช.บางคนยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยขาดนายทักษิณไม่ได้ เท่ากับเป็นการสารภาพชัดเจนหรือไม่ว่านายทักษิณยังเป็นผู้มีอำนาจเหนือพรรคเพื่อไทย 
    "ถ้าถอดรหัสคำพูดของคุณทักษิณ ก็ตอกย้ำชัดเจนอยู่แล้วว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงก็จะยังอยู่ในวังวนของเกมชิงอำนาจและผลประโยชน์ ประชาธิปไตยที่คุณทักษิณพูดหมายถึงอะไร เพราะในช่วงที่คุณทักษิณเรื่องอำนาจ ก็เต็มไปด้วยปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน การฆ่าตัดตอน การละเมิดสิทธิชน และความแตกแยกในสังคม เป็นต้น สงครามที่คุณทักษิณพูดจึงน่าจะเป็นสงครามเพื่อผลประโยชน์ที่แลกมาด้วยชีวิตและความแตกแยกของผู้คนในสังคม ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะคุณทักษิณรู้ดีว่าถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นวาระเพื่อการปฏิรูปประเทศ ช่วยกันหาทางออกให้ประเทศ นั้นคุณทักษิณก็เกรงว่าตัวเองจะถูกลืมหรือถูกเขี่ยออกจากสมการทางการเมือง การประกาศครั้งนี้ก็เพื่อให้ตัวเองยังมีความสำคัญและอยู่ในสมการ อำนาจและผลประโยชน์ หรือให้ประเด็นเอาหรือไม่เอาทักษิณเป็นวาระในการเลือกตั้ง ซึ่งสมการการเมืองแบบนี้ ไม่ได้ทำให้บ้านเมืองดีขึ้นมี แต่จะจมปลักอยู่กับความขัดแย้งแตกแยกไม่มีที่สิ้นสุด" นายสุริยะใสระบุ 
    นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า เมื่อมีคนไปหานายทักษิณแล้วถามว่าจะสู้หรือไม่ ท่านเลยต้องบอกว่ายังสู้อยู่ แต่สู้ในที่นี้คงหมายความว่าให้มีการเลือกตั้ง แล้วมาตัดสินกันเหมือนกับสงคราม หากพรรคเพื่อไทยชนะแล้วจะได้เข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำ คนที่เดินทางไปหาคนเสื้อแดง อดีต ส.ส.เพื่อไทย ต่างเป็นสมาชิกพรรค เป็นประชาชนธรรมดา ไม่มีกรรมการบริหารพรรค วันนี้เพื่อไทยยังไม่มีการประชุมดำเนินกิจกรรมอะไรที่จะบอกว่านายทักษิณชี้นำ แล้วจะเอาผิด คงไม่ใช่ ที่บอกว่าจะสู้รบ เมื่อพูดต่อหน้ากองเชียร์ เลยต้องคึกคักหน่อย เหมือนเราเชียร์บอล เชียร์ทีมแมนฯ ยูฯ เหมือนกัน เลยต้องคึกคักกันเป็นธรรมดา ที่ท่านพูดเปรียบ คงเป็นสงครามการเลือกตั้ง ที่จะต้องสู้ให้ชนะก่อนแล้วมาแก้ปัญหาต่างๆ ในเมื่อกองเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ยังคึกคักได้ อีกฝ่ายก็ต้องคึกคักบ้าง
     เมื่อถามว่า การประกาศพร้อมสู้สร้างความฮึกเหิมให้อดีต ส.ส.ของพรรคหรือไม่ นพ.เชิดชัยกล่าวว่า ส.ส.ก็มีความหลากหลาย บางคนฝ่อง่าย ถูกขู่หน่อยก็ไปแล้ว แต่บางคนยังอดทน เข้มแข็งจริงจัง การพูดเป็นในเชิงจิตวิทยาทำให้ฮึกเหิม โพลหลายสำนักระบุแม้คนจะนิยมชมชอบ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้าเลือกตั้งคนยังเลือกพรรคเพื่อไทยอยู่ดี เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์มั่นใจมีคนสนับสนุนมาก ก็ควรประกาศวันเลือกตั้งให้ชัดเจนไปเลย
"สุริยะ"ยกโพลหนุน"บิ๊กตู่"
     ถามถึงกระแสข่าวชื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเป็นผู้ถือธงนำพรรคเพื่อไทย นพ.เชิดชัยกล่าวว่า จะถูกเสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 บัญชีรายชื่อนายกฯ หรือไม่นั้น คงแล้วแต่สมาชิกพรรค บทบาทท่านตอนนี้ส่วนใหญ่ออกกำลังตีกอล์ฟ เพื่อไทยระยะหลังอาจเป็นประเพณีปฏิบัติไปแล้วที่คนเป็นหัวหน้าพรรค อาจไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ ก็ได้ 
    ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร ให้สัมภาษณ์ทางสปริงนิวส์ ถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลานชายหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่านายธนาธรเกิดมาพ่อแม่ทำบุญไว้เยอะ ปกติตอนคนเราเป็นเด็กอายุวัยเรียน ทุกคนต้องการเห็นภาพโลกสมบูรณ์แบบ เกิดมาพอดีทางบ้านมีฐานะดีอยู่แล้ว ทั้งนี้สรุปว่านายธนาธรเป็นคนดี
    ถามว่าคนดีอย่างนายธนาธรจะไปรวมกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งได้หรือไม่ นายสุริยะตอบว่า ตอนนี้นายธนาธรชี้ให้เห็นว่าประชาชนต้องเลือกระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย ให้เลือกข้างเรา ขอชี้แจงว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ใช่การเลือกข้าง แต่เป็นพรรคพลังประชารัฐหาทางออกให้ประเทศ จะเลือกก้าวพ้นการเมืองสองขั้วที่ทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจการเมืองมาตลอดสิบปีนี้ การเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ใช่เป็นการเลือกระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ
    "ผมปวดใจมากที่หลานผมเอง ไปโยงผมว่าเป็นนักการเมือง แต่ปรากฏว่าไปสนับสนุนเผด็จการ ตัวผมจะไปสนับสนุนเผด็จการได้ยังไง ในเมื่อตัวผมเองต้องหลุดจากตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม ต่อเนื่องเป็นตำแหน่งรองนายกฯ ด้วย หลังจากหลุดตำแหน่งยังไม่พอ ทางด้านของคณะปฏิวัติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบมาตรวจสอบในโครงการต่างๆ ที่ผมทำ” นายสุริยะ กล่าว
    ส่วนกรณีร่วมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกสมัย นายสุริยะกล่าวว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ ที่ปฏิวัติเกิดจากการเมืองสองขั้ว มันมีการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม แล้วทุกฝ่ายไม่ยอมก็เลยออกไปบนท้องถนน เพราะฉะนั้นตนคิดว่าท่านนายกฯ ประยุทธ์มาทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ถ้าท่านออกมาช้ากว่านี้สัก 3 เดือน ตนคิดว่าเราคงไม่มีวันนี้ ตนจึงเห็นว่าท่านเนี่ยทำประโยชน์
    "ถามว่าความคิดของผมต่างจากประชาชนหรือเปล่า ไปดูโพลอยากให้ใครเป็นนายกฯ ทำมากี่ครั้งก็ปรากฏว่าอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็น" นายสุริยะ กล่าวถึงการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"