คนเรานี่........
    ไม่รู้ "ที่เกิด-ที่ตาย" ก็จริง
    แต่เลือกที่เกิดและเลือกที่ตายได้ ถ้ารู้วิธี!
    คือตราบใดที่ยังไม่เป็นพระอรหันต์ มนุษย์-สัตว์ ตายแล้ว ล้วนต้องเกิด เพราะยังมีเชื้อทำให้เกิด คือกรรม
    ส่วนจะเกิดเป็นอะไรนั้น มี ๔ รูปแบบให้เลือก
    ๑.เกิดในครรภ์ คือคลอดออกมาเป็นตัวเลย เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย หมา มนุษย์
    ๒.เกิดในไข่ คือถือกำเนิดเป็นฟองไข่ก่อน แล้วฟักออกมาเป็นตัว เช่น จิ้งจก เป็ด ไก่ เหี้ย งู จระเข้
    ๓.เกิดในเถ้าไคล คือจำพวกเชื้อราตามซากพืช ซากสัตว์ และพวกหนอน เชื้อโรค เชื้อไวรัส
    ๔.โอปปาติกะ พวกเทวดา เจ้าทุ่ง เจ้าท่า เจ้าป่า เจ้าเขา คือ ผุดขึ้นมาก็โตเป็นผู้ใหญ่เลย
    เนี่ย...ทุกคน ตายแล้วจะต้องไปเกิดแบบใด-แบบหนึ่ง ใน ๔ แบบนี้
    สมมุติอยากเกิดเป็นคน..........
    จะเอารวย สวย หมวย ขาว สาว อึ๋ม สูงศักดิ์นักหนาขนาดไหน 
    หรือจะเอาเป็นหนุ่มหล่อ ประเภทคุณชาย-นายแบบ รวยทั้งแท่ง ได้ทั้งนั้น
    ถ้าสนใจ ก็หลังไมค์ จะบอกวิธีให้ ไม่ยาก!
    บางคนอาจสงสัย วันนี้ ผมองค์ลงหรือไง พูดจาไม่ค่อยรู้ความ?
    องค์ไม่ได้ลง แต่โรคไม่แน่ เพราะหมู่นี้ มีแต่อาการ หน้ามืด ตาลาย เวียนหัว สวิงสวาย คล้ายจะเป็นลม ชอบพิกล
    คนใกล้ "วัยทอง" ก็เงี้ย!
    เหตุที่ยกเรื่องเกิด-เรื่องตายมาคุย เนื่องจากเมื่อวาน (๙ ส.ค.๖๑) อ่านข่าว
    นายทักษิณ ประกาศผ่านแฟนคลับจากเมืองไทยที่ไปเบิร์ธเดย์ย้อนหลังให้เขาที่ฮ่องกง สาระหลักมีว่า 
    เขาไม่ยอมแพ้
    หลังจากที่ตอนไหนจะกระอักเลือด ก็หลบไปนุ่งขาว-ห่มขาว นั่งหน้าพระ แล้วประกาศ
    เลิกแล้ว..ละแล้ว..ไม่เอาแล้ว..ไม่ยุ่งแล้ว!
    แต่พอการเมืองเรื่องเลือกตั้งเริ่มเท่านั้น จาก "ผ้าขาวหน้าพระ" เปลี่ยนเป็น "ผ้าขาวห่อศพ" ทันที
    คำว่าแพ้ จะมีได้กับผมได้ เพียง ๒ กรณี เท่านั้น คือ
    ๑.เพราะตาย
    ๒.เพราะยอมไปเอง
    นี่แหละ "ธาตุแท้" ทักษิณ อ่านข้อความเต็มๆ จากเฟซบุ๊ก Peace News แฟนคลับของเขาซักหน่อยปะไร 
    ความจริง ผมรังเกียจที่จะนำเรื่องราวข่าวสารจากนายคนนี้มาเอ่ย
    แต่ที่ต้องเอ่ยครั้งนี้ เพราะจำเป็น 
    เนื่องจาก "สิ่งที่พูด-ที่ทำ" นี้ จะเป็นหลักฐานให้อ้างอิงถึงทางกฎหมายได้ในอนาคต 
    ต้องยกมาแสดงไว้เป็นหลักฐาน หาดูได้ทั่วไป เห็นสื่อทุกแขนงเผยแพร่ว่อน ด้วยข้อความดังนี้
    "มีรายงานว่า กลุ่มแฟนคลับภาคอีสานได้เดินทางมาพบ ดร.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 
    โดยได้ร่วมรับประทานอาหารจีนที่โรงแรมมาโคโปโล ฮ่องกง โดยแฟนคลับได้นำเค้กมาอวยพรวันเกิด ดร.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์
    นอกจากนี้ ดร.ทักษิณ ยังได้แจกหมวกแก๊ปสีขาว-แดง พร้อมลายเซ็น 
    และช่วงหนึ่ง ดร.ทักษิณ ได้กล่าวว่า อยากบอกทุกคนว่า ขอให้ทุกคนแข็งแรง
    “อยากบอกทุกคนว่า ถ้าเราไม่ยอมแพ้ คำว่าแพ้มีได้ ๒ กรณี คือ 
    ๑.แพ้เพราะตาย กับ 
    2.แพ้เพราะยอมไปเอง 
    ถ้าเรายังสู้อยู่ เราก็จะไม่แพ้ นั่นก็คือ มีแต่แบทเทิล ไม่มีวอร์ วอร์มันจะเอนด์ ต่อเมื่อทุกอย่างมันจบ 
    แต่สู้กันกี่ยกๆ นี่คือแบทเทิล ซึ่งวอร์ยังไม่จบ เรายังต้องทำต่อไป”
    ดร.ทักษิณ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือวอร์เพื่อประชาธิปไตย ตนอายุ ๖๙ ปีแล้ว สิ่งที่อยากเห็นคือ อยากเห็นประเทศไทยกลับมารุ่งเรืองใหม่ 
    และที่สำคัญ คืออยากเห็นศักดิ์ศรีกลับมาสู่คนไทยทุกคน เพราะวันนี้ เราถูกลดด้อยศักดิ์ศรีลงไปเยอะ
    “เราเคยอยู่กับระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนมีศักดิ์ศรี มีสิทธิเสรีภาพเท่ากัน 
    แต่วันนี้ เราถูกปกครองโดยใครก็ไม่รู้ ที่อยู่ๆ ก็ถือปืนมาปกครองกดขี่พวกเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเรารับไม่ได้ 
    ถึงวันเลือกตั้งเมื่อไหร่ จะเป็นวันที่ประชาชนตัดสินว่าตนพูดจริงหรือเปล่า 
    ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจ เพราะเรายังจะต้องประกอบอาชีพกันต่อไป ไลฟ์มัสต์โกออน”
    สรุป..........
    อ่านกันแล้ว แต่ละคนคงเข้าใจเจตนาทักษิณกันไปคนละอย่างสองอย่าง
    สำหรับผม เข้าใจเจตนาทักษิณว่า
    นี่คือ คำประกาศ "ลาตาย" ของทักษิณ!
    เพราะวอร์เพื่อประชาธิปไตยแบ่งกันกินของระบอบทักษิณ มันเอนด์แล้ว 
    แบทเทิลในวอร์ด้วยความมืดบอดของนายนั้น น่าจะเป็นเสียงแว่ว พุทโธ่..พุทโธ่ หน้าโลงติดแอร์มากกว่า
    ฉะนั้น ด้วยรักและห่วงใย 
    ผมจึงนำวิธีตายที่เลือกแบบเกิดได้มาอภินันทนาการ เพื่อ "เตรียมตัวตาย" ไงล่ะ
    แต่สำหรับคนมีการกระทำต่อสังคมชาติบ้านเมืองดังประจักษ์ขั้นอนันตริยกรรม
    ผมยังหนักใจแทนนะ......
    แค่จะถือกำเนิดในไข่ เช่น ไข่เป็ด ไข่ไก่ ไข่เหี้ย ก่อนฟักเป็นตัว ก็ยังจะสูงไป
    เกรงว่า ต้องไปเป็นสัตว์นรก หรือเปรต อสุรกาย ก่อนด้วยซ้ำ
    ก่อนที่เศษกรรมส่วนบุญอันพอมี จะส่งผลให้ได้ขึ้นชั้นไปเป็น "สัตว์เดรัจฉาน"!
    เอาล่ะ นั่นส่วนกรรม
    ทีนี้มาส่วนกฎหมาย ที่อาจเป็นหลักฐานอ้างอิงไปถึง "พรรคเพื่อไทย"
    เมื่อวานเหมือนกัน เหมือนผีห่าซาตานดลใจ 
    ตอนไหนก็ไม่พูด มาพูดตอนทักษิณประกาศ "ยอมตาย-ไม่ยอมแพ้" ในสงครามเลือกตั้งที่จะถึงนี่แหละ
    "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ".........
    ให้สัมภาษณ์ "เว็บไซต์ประชาไท" ถึงความเป็นทักษิณกับความเป็นพรรคเพื่อไทย 
    เชื่อมโยง-สอดคล้องกับ "ปฏิญญาเราไม่ยอมแพ้" ของทักษิณ ที่ฮ่องกง 
    โดยนายณัฐวุฒิ มือขวาในแบทเทิลเผาบ้าน-เผาเมืองปี ๕๓ บอกกับประชาไท ส่วนหนึ่งว่า
    "จะบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีทักษิณ ผมก็มองไม่ออกเหมือนกันว่า คุณจะเดินไปยังไงในสนามเลือกตั้ง 
    แต่ถ้าบอกว่า ยี่ห้อทักษิณ นโยบายทักษิณ ประชาชนเชื่อใจและเชื่อมั่น 
    ในขณะที่จะไปบอกว่า พรรคเพื่อไทย มีทักษิณอย่างเดียว ไม่มีประชาธิปไตยก็ไม่ได้อีก 
    เพราะฉะนั้น มันอยู่ที่การจะเป็นสถาบันการเมืองของพรรคเพื่อไทย จะจัดวางสิ่งที่มีคุณค่าเหล่านี้อย่างไร 
    ซึ่งส่วนตัวผม ผมคาดหวังว่า จะเห็นในรอบของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงว่า จะจัดวางสถานะบทบาทกันอย่างไร
    จะบอกว่า เพื่อไทยไม่ใช่ทักษิณ ผมไม่เห็นด้วยนะ 
    คุณจะปฏิเสธสิ่งที่คุณเกิด คุณเติบโตมาได้อย่างไร เพราะถ้าไม่ใช่ไทยรักไทย ไม่ใช่นโยบายที่มีนายกฯ ทักษิณเป็นผู้นำ ผู้บริหาร 
    พรรคไทยรักไทย อาจจะเหลือแต่ชื่อ ตั้งแต่รัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ 
    ผมจึงไม่เห็นว่า พรรคเพื่อไทยต้องปฏิเสธการดำรงอยู่ของนายกฯ ทักษิณ 
    แต่ขณะเดียวกัน เพื่อการไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมือง จะจัดวางสถานะนี้อย่างไร
    ถ้ามีใครในพรรคเพื่อไทยเสนอจะก้าวข้ามทักษิณ ผมเห็นต่างครับ.........."
    นี่แหละ คือเหตุผลที่ผมต้องเอ่ยถึง "ปฏิญญาฮ่องกง" รบต่อของทักษิณ ในสงครามเลือกตั้ง
    และนำคำสัมภาษณ์นายณัฐวุฒิถึงพรรคเพื่อไทยว่าในการเลือกตั้งจะขาดทักษิณไม่ได้มาบันทึกร่วมไว้
    เพราะมาตรา ๒๘ ใน พ.ร.บ.พรรคการเมือง.......
    ห้ามพรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
    และมาตรา ๒๙ บอก..........
    ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
    ที่อยากจะบอก คือ......
    พวกคุณมีสิทธิ์ที่จะแอคชั่นกันตอนนี้ แต่สิ่งที่แอคชั่นนั้นมีผลผูกพันถึงพรรคเพื่อไทยจากการกระทำในวันหน้า
    จะเข้าตำรา.....
    "หมาตายเพราะเสียงเห่า"!.