อธิบดีศาลภาค 2 นำล่ารายชื่อผู้พิพากษาทั่วประเทศยื่นถอดถอน “ชำนาญ” พ้น ก.ต. เหตุแสดงพฤติการณ์ไม่เหมาะสมต่อผู้พิพากษาที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในห้องพิจารณาคดีต่อหน้าคู่ความ ระบุหมิ่นศาล-ขัดจริยธรรม หวั่นหากยังดำรงตำแหน่งอาจก้าวก่ายแทรกแซงการพิพากษาคดี "สืบพงษ์" ยันดำเนินตามกฎหมาย
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 ได้เวียนหนังสือนำส่งขอให้เข้าชื่อกันถอดถอนกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.ต.) ในศาลฎีการายหนึ่ง โดยมีเอกสารแนบประกอบด้วยใบเข้าชื่อขอให้ถอดถอน ก.ต. 1 แผ่น, แผนผังขั้นตอนการถอดถอน ก.ต. 1 แผ่น และซองใส่ใบเข้าชื่อกลับ 1 ซอง
โดยหนังสือดังกล่าวได้อ้างถึง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 มาตรา 42 บัญญัติว่า ก.ต.ผู้ใดมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ก.ต. ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ข้อบังคับ คุณธรรมและจริยธรรม หรือกระทำการอันมีมูลเป็นความผิดทางวินัย ถูกกล่าวหา หรือกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย ข้าราชการตุลาการไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนข้าราชการตุลาการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษา เข้าชื่อกันขอให้ถอดถอน ก.ต.ออกจากตำแหน่งได้
โดยหนังสือเวียนดังกล่าว ใบปะหน้ามีข้อความดังนี้ “เรียนท่านผู้พิพากษาผู้รักสถาบันศาลยุติธรรมทุกท่าน กระผมเริ่มดำเนินการเพื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอน ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิในศาลฎีกา โดยจะส่งหนังสือชี้แจงถึงพฤติกรรมอันเป็นเหตุแห่งการถอดถอนให้ทุกท่านได้ทราบเป็นรายบุคคลตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พร้อมหนังสือเข้าชื่อถอดถอนให้แก่ท่านด้วย (เอกสารดังกล่าวนี้ ท่านน่าจะเห็นจากการส่งต่อทางไลน์กันแล้ว) เมื่อท่านได้รับหนังสือแล้ว หากท่านเห็นด้วยกับกระผมว่า พฤติกรรมของบุคคลตามที่ระบุในหนังสือไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิอีกต่อไป กระผมขอความกรุณาท่านลงนามในหนังสือเข้าชื่อ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการพร้อมรับรองสำเนา ใส่ซองที่จัดส่งไปให้ แล้วส่งกลับมาให้กระผมตามที่อยู่ที่พิมพ์ไว้แล้วหน้าซอง เพื่อกระผมจะได้รวบรวมรายชื่อพร้อมคำร้องต่อเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป
อนึ่ง สำหรับท่านที่ประสงค์จะเป็นผู้ประสานงานในศาลใด ขอให้พิมพ์เอกสารจากไฟล์ PDF ที่ท่านได้รับจากทางไลน์ เพื่อดำเนินการแล้วจัดส่งมาให้ผมโดยตรงที่ ตู้ ปณ.สี่แยกเฉลิมไทย เลขที่ 31 จังหวัดชลบุรี 20002 ผู้ใดประสงค์จะรับเป็นผู้ประสานงาน โปรดติดต่อผมที่หมายเลข xxx” พร้อมลงชื่อนายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวมีใจความสรุปว่า นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2, นายพงษ์ศักดิ์ ตระกูลศิลป์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ และ น.ส.มณี สุขผล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนของผู้เข้าชื่อมีความประสงค์ที่จะยื่นคำร้องขอให้มีการลงมติเพื่อถอดถอนนายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ก.ต.ในศาลฎีกา ออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุที่เกิดในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ก.ต.คนดังกล่าว ได้แสดงพฤติการณ์ไม่เหมาะสมต่อผู้พิพากษาที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในห้องพิจารณาคดีต่อหน้าคู่ความ ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่ไม่สมควรดำรงตำแหน่ง ก.ต. อันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 198, ขัดต่อประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ หมวด 5 ว่าด้วยจริยธรรมเกี่ยวกับการดำรงตนและครอบครัว ข้อ 35 ที่กำหนดให้ผู้พิพากษาต้องเคารพเเละปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อยู่ในกรอบศีลธรรม สุภาพ สำรวมกิริยามารยาท มีอัธยาศัยยึดถือจริยธรรมและประเพณีอันดีของตุลาการ ทั้งพึงวางตนเป็นที่เชื่อถือศรัทธา และข้อ 37 ที่กำหนดให้ผู้พิพากษาจักต้องไม่ก้าวก่ายหรือแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาอื่น ซึ่งมีมูลอันเป็นความผิดทางวินัย ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
"ซึ่งตามพฤติการณ์ดังกล่าว นายชำนาญไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ก.ต. หากยังคงให้ดำรงตำแหน่ง ก.ต. ต่อไปอาจใช้ตำแหน่งดังกล่าวก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ แทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล ทำให้เกิดความหวาดเกรงในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาว่าจะถูกกลั่นแกล้งดำเนินการทางวินัยไม่ชอบ จึงเรียนมาเพื่อขอให้ท่านเข้าชื่อกันถอดถอน ก.ต.บุคคลดังกล่าวส่งมาภายในวันที่ 27 ส.ค.นี้ จะได้รวบรวมรายชื่อเสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อจัดให้มีการลงมติถอดถอนนายชำนาญออกจาก ก.ต.ต่อไป"
สำหรับ ป.อาญา มาตรา 198 ระบุว่า ผู้ใดดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต่อมา วันที่ 9 ส.ค. นายสืบพงษ์ได้ส่งเอกสารถึงผู้พิพากษาเพิ่มเติม โดยระบุว่า สำหรับท่านที่ได้เข้าชื่อร่วมถอดถอนแล้วนั้น เมื่อเอกสารมาถึงกระผมแล้ว ขอให้คำมั่นสัญญากับทุกท่านว่าจะรักษาความลับ รายชื่อของผู้ที่เข้าชื่อนั้นจะมีการเปิดเผยเมื่อเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมนำคำร้องมาปิดประกาศที่สำนักงานศาลยุติธรรมและที่หน้าศาลต่างๆ ทั่วประเทศเท่านั้น
"กระผมขอเรียนท่านผู้พิพากษาทุกท่านว่า การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นการดำเนินการภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย มิประสงค์จะให้เกิดความแตกแยกในศาลยุติธรรม แต่เพราะต้องการป้องปรามมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในภายหน้า และกระผมเคารพในการตัดสินใจของทุกท่าน" นายสืบพงษ์ระบุ
มีรายงานว่า กรณีพฤติการณ์ผู้พิพากษาคนดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มผู้พิพากษาศาลชั้นต้นเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ผู้พิพากษาที่ประจำในศาลภาค 2 เข้าชื่อแล้วประมาณกว่า 300 คน หนังสือดังกล่าวมีการส่งเวียนไปยังศาลต่างๆ ทั่วประเทศ ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องได้ชื่อผู้พิพากษาประมาณ 1,100 คน ในวันนี้คาดว่าจะมีการลงรายชื่อได้ไม่น้อยกว่า 500 ชื่อ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตามองว่าหากมีการลงรายมือชื่อครบจำนวน 1 ใน 5 หรือ 911 แล้ว ขั้นตอนการลงชื่อว่าจะถอดถอนหรือไม่ จะต้องใช้มติเกินกึ่งหนึ่งของผู้พิพากษาทั้งหมดจำนวน 4,555 คน ผลจะออกมาอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีกรณีที่จะมีการเข้าชื่อยื่นถอดถอน ก.ต.มาก่อน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |