สืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล
9 ส.ค.61 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 ได้เวียนหนังสือนำส่งขอให้เข้าชื่อกันถอดถอนกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.ต.) ในศาลฎีการายหนึ่ง โดยมีเอกสารแนบประกอบด้วยใบเข้าชื่อขอให้ถอดถอน ก.ต. 1 แผ่น, แผนผังขั้นตอนการถอดถอน ก.ต. 1 แผ่น และซองใส่ใบเข้าชื่อกลับ 1 ซอง
โดยหนังสือดังกล่าวได้อ้างถึง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 มาตรา 42 บัญญัติว่า ก.ต.ผู้ใดมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ก.ต.ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ข้อบังคับ คุณธรรมและจริยธรรม หรือกระทำการอันมีมูลเป็นความผิดทางวินัย ถูกกล่าวหา หรือกรณีเป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย ข้าราชการตุลาการไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนข้าราชการตุลาการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษาเข้าชื่อกันขอให้ถอดถอน ก.ต.ออกจากตำแหน่งได้ ซึ่งการดำเนินกิจการที่จัดให้มีการเข้าชื่อและลงมติเพื่อถอดถอน ก.ต.นั้น ระเบียบ ก.ต.ว่าด้วยการเข้าชื่อและการลงมติเพื่อถอดถอน ก.ต. พ.ศ.2544 ข้อ 4 (3) กำหนดให้ต้องมีรายชื่อผู้แทนของผู้เข้าชื่อจำนวน 3 คน ในคำร้องขอให้มีการลงมติเพื่อถอดถอน ก.ต.
โดยหนังสือเวียนดังกล่าวใบปะหน้ามีข้อความดังนี้ “เรียนท่านผู้พิพากษาผู้รักสถาบันศาลยุติธรรมทุกท่าน กระผมเริ่มดำเนินการเพื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอน ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิในศาลฎีกา โดยจะส่งหนังสือชี้แจงถึงพฤติกรรมอันเป็นเหตุแห่งการถอดถอนให้ทุกท่านได้ทราบเป็นรายบุคคลตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พร้อมหนังสือเข้าชื่อถอดถอนให้แก่ท่านด้วย (เอกสารดังกล่าวนี้ ท่านน่าจะเห็นจากการส่งต่อทางไลน์กันแล้ว) เมื่อท่านได้รับหนังสือแล้ว หากท่านเห็นด้วยกับกระผมว่า พฤติกรรมของบุคคลตามที่ระบุในหนังสือไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิอีกต่อไป กระผมขอความกรุณาท่านลงนามในหนังสือเข้าชื่อ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการพร้อมรับรองสำเนา ใส่ซองที่จัดส่งไปให้ แล้วส่งกลับมาให้กระผมตามที่อยู่ที่พิมพ์ไว้แล้วหน้าซอง เพื่อกระผมจะได้รวบรวมรายชื่อพร้อมคำร้องต่อเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป อนึ่ง สำหรับท่านที่ประสงค์จะเป็นผู้ประสานงานในศาลใด ขอให้พิมพ์เอกสารจากไฟล์ PDF ที่ท่านได้รับจากทางไลน์ เพื่อดำเนินการแล้วจัดส่งมาให้ผมโดยตรงที่ ตู้ ปณ.สี่แยกเฉลิมไทย เลขที่ 31 จังหวัดชลบุรี 20002 ผู้ใดประสงค์จะรับเป็นผู้ประสานงาน โปรดติดต่อผมที่หมายเลข xxx” พร้อมลงชื่อ นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 วันที่ 8 ส.ค. 2561
หนังสือดังกล่าวมีใจความสรุปว่า นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2, นายพงษ์ศักดิ์ ตระกูลศิลป์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ และ น.ส.มณี สุขผล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนของผู้เข้าชื่อมีความประสงค์ที่จะยื่นคำร้องขอให้มีการลงมติเพื่อถอดถอนนายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ก.ต.ในศาลฎีกา ออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุที่เกิดในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ก.ต.คนดังกล่าว ...........ไม่สมควรดำรงตำแหน่ง ก.ต. อันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 198, ขัดต่อประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ หมวด 5 ว่าด้วยจริยธรรมเกี่ยวกับการดำรงตนและครอบครัว ข้อ 35 ที่กำหนดให้ผู้พิพากษาต้องเคารพเเละปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อยู่ในกรอบศีลธรรม สุภาพ สำรวมกริยามารยาท มีอัธยาศัยยึดถือจริยธรรมและประเพณีอันดีของตุลาการ ทั้งพึงวางตนเป็นที่เชื่อถือศรัทธา......
ซึ่งตามพฤติการณ์ดังกล่าว หากยังคงให้ดำรงตำแหน่ง ก.ต. ต่อไป ...อาจใช้ตำแหน่งดังกล่าวก้าวก่ายการปฏิบัติหน้าที่ แทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล ทำให้เกิดความหวาดเกรงในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาว่าจะถูกกลั่นแกล้งดำเนินการทางวินัยไม่ชอบ จึงเรียนมาเพื่อขอให้ท่านเข้าชื่อกันถอดถอน ก.ต.บุคคลดังกล่าวส่งมาภายในวันที่ 27 ส.ค.นี้ จะได้รวบรวมรายชื่อเสนอเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อจัดให้มีการลงมติถอดถอนนายชำนาญออกจาก ก.ต.ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานขั้นตอนการการถอดถอน ก.ต.ตามระเบียบ ก.ต.ว่าด้วยการเข้าชื่อและการลงมติเพื่อถอดถอน ก.ต.พ.ศ.2544 กำหนดไว้ว่า เมื่อมีเหตุแห่งการณ์ถอดถอน ก.ต. เช่น มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ก.ต. และส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย ข้อบังคับ กระทำผิดวินัยฯ ผู้พิพากษา 1 ใน 5 ต้องเข้าชื่อยื่นคำร้องถอดถอน โดยมีผู้แทนเข้าชื่อ 3 คน ส่งไปยังเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเลขาธิการสำนักงานศาลฯ จะต้องจัดให้มีการลงมติภายใน 30 วัน โดยจะต้องมีการปิดประกาศคำร้องและรายชื่อผู้เข้าถอดถอน ณ ที่ทำการของสำนักงานศาลยุติธรรมและศาลยุติธรรมทั่วประเทศ จากนั้นเลขาธิการการสำนักงานศาลฯ จะส่งคำร้องให้ผู้ถูกร้องภายใน 7 วัน เพื่อทำคำชี้แจงกลับมาภายใน 7วัน
โดยระหว่างนั้น ก.ต.ผู้ถูกร้องในระหว่างกระบวนการถอดถอนจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ซึ่งระหว่างดำเนินการจะให้มีการปิดประกาศคำชี้แจงของผู้ถูกร้อง ณ ที่ทำการของสำนักงานศาลยุติธรรมและศาลยุติธรรมทั่วประเทศด้วย จากนั้นจึงให้ผู้พิพากษาที่มีอำนาจถอดถอนทั่วประเทศทำการลงมติ หากมีมติให้ถอดถอนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้พิพากษาทั้งหมด ผู้ถูกร้องจะต้องพ้นตำแหน่งนับแต่วันนับคะแนนเสร็จ และมตินี้ถือเป็นที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้ผู้พิพากษาที่ประจำในศาลภาค 2 เข้าชื่อแล้วประมาณ 300 กว่าคน ซึ่งหนังสือดังกล่าวนั้นมีการส่งเวียนไปยังศาลต่างๆ ทั่วประเทศ จึงยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมลงชื่อเพื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอนประมาณเท่าไหร่ มีการตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องได้ชื่อผู้พิพากษาประมาณ 1,100 คน ซึ่งตามกฎหมายแล้วหากมีผู้พิพากษาเข้าชื่อตั้งแต่ 911 คน ก็จะเข้าเกณฑ์ 1 ใน 5 ตามกฎหมาย เนื่องจากผู้พิพากษาทั่วประเทศในขณะมีจำนวน 4,555 คน โดยการรวบรวมรายชื่อจะเสร็จสิ้นในวันที่ 27 ส.ค.นี้ และอาจจะยื่นต่อเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมในวันที่ 28 ส.ค.นี้ทันที
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |