ภาพจาก http://longtunman.com
เวบไซต์ http://longtunman.com เผยแพร่ บทความพิเศษเรื่อง "ประเทศที่จนสุดในโลก จนแค่ไหน?" เขียนโดยลงทุนแมนระบุว่า "ถ้าเรามีเงินใช้เพียงวันละ 22 บาท
ลองจินตนาการว่า เราจะสามารถเอาไปซื้ออะไรได้บ้าง
และคิดว่าชีวิตเราจะยากลำบากมากแค่ไหน
แต่ในโลกใบนี้ มีประเทศที่คนมีรายได้แบบนี้อยู่
และเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก
ประเทศนี้อยู่ที่ไหน ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ข้อมูลจากการจัดลำดับของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF เมื่อเดือนมิถุนายน 2561
ระบุว่า ประเทศที่มีรายได้ต่อหัวของประชากรต่ำที่สุดในโลกคือ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน
โดยมีรายได้ต่อหัวของประชากรเท่ากับ 8,118 บาทต่อคนต่อปี หรือวันละ 22 บาท..
เดิมทีนั้นเซาท์ซูดานเป็นส่วนหนึ่งของประเทศซูดาน โดยซูดานเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองอย่างมากทั้งสองครั้ง นับตั้งแต่ซูดานได้รับเอกราชจากอียิปต์และอังกฤษ
เหตุการณ์นั้นทำให้ประชาชนเสียชีวิตไปกว่า 2.5 ล้านคน ในช่วงระหว่างปี 2498-2548
ต่อมาเซาท์ซูดานได้ขอแยกประเทศออกมาจากซูดาน โดยได้รับเอกราชเมื่อปี 2554
และเข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 193 ขององค์การสหประชาชาติ
แม้เซาท์ซูดานจะแยกตัวออกมาจากซูดานแล้ว แต่ทั้ง 2 ประเทศยังคงมีข้อพิพาทกันอยู่
เรื่องของเรื่องคือว่า มีการประเมินกันว่า ปริมาณน้ำมันดิบในเซาท์ซูดานที่มีอยู่ประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลนั้น คิดเป็นกว่า 80% ของน้ำมันทั้งหมดในซูดานและเซาท์ซูดานรวมกัน
โดยเซาท์ซูดานมีรายได้หลักจากการส่งออกน้ำมันคิดเป็นกว่า 60% ของมูลค่าทั้งหมดของ GDP
อย่างไรก็ตาม ท่อส่งน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันกลับอยู่ทางเหนือหรือในส่วนของซูดาน ดังนั้น การกลั่นน้ำมันและการส่งออกน้ำมันดิบจากเซาท์ซูดานต้องพึ่งพาซูดานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำให้รัฐบาลซูดานจึงเรียกร้องรายได้กว่า 50% จากการส่งออกน้ำมันของเซาท์ซูดาน จึงนำมาซึ่งข้อพิพาทของทั้ง 2 ประเทศนี้ในช่วงที่ผ่านมา
รู้ไหมว่าในปี 2016 เซาท์ซูดานมีมูลค่าของ GDP เพียง 100,980 ล้านบาทเท่านั้นเอง
ประเทศซูดานที่อยู่ทางเหนือจะมีความมั่งคั่งมากกว่า โดยมี GDP มากกว่าเซาท์ซูดานถึง 21 เท่า และ รายได้ต่อหัวมากกว่า 6 เท่า
ถ้าเทียบกับประเทศไทยที่มีมูลค่าของ GDP ในปี 2016 เท่ากับ 13.4 ล้านล้านบาท แสดงว่าขนาดเศรษฐกิจของไทยใหญ่กว่าของเซาท์ซูดานประมาณ 133 เท่า
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองมาเทียบกับระดับมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตขึ้นของจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย (Gross Provincial Product : GPP) จะพบว่าในปี 2016
มี 5 จังหวัดที่มีขนาดมูลค่าขนาดเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกับขนาดเศรษฐกิจของเซาท์ซูดาน นั่นคือ นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุดรธานี จันทบุรี และอุบลราชธานี ที่มีขนาดเศรษฐกิจอยู่ในช่วง 104,000-113,000 ล้านบาท
หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เซาท์ซูดาน นั้นมีขนาดทางเศรษฐกิจทั้งประเทศเท่าๆ กับขนาดทางเศรษฐกิจของบางจังหวัดในประเทศไทยเท่านั้น ทั้งที่ประชากรของประเทศนี้มีมากถึง 12 ล้านคน
แต่เรื่องที่น่าเศร้ายังไม่พอแค่นี้
ความยากจนของประเทศ ส่งผลให้ประชากรจำนวนมากต้องดำรงชีวิตด้วยความยากลำบาก
มีการประเมินกันว่า ประชากรกว่า 5.3 ล้านคน หรือ 44% ของเซาท์ซูดานต้องเผชิญกับการขาดแคลนอาหาร
ประชากรประมาณ 8 ล้านคน หรือ 67% ของเซาท์ซูดานไม่รู้หนังสือหรือไม่สามารถอ่านออก เขียนได้
อัตราการตายของทารกอยู่ที่ 10 ต่อ 100
และเด็กกว่า 17% ไม่ได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ
ประชากรเกือบ 10 ล้านคน หรือกว่า 80% ของเซาท์ซูดานไม่มีห้องน้ำใช้
ประชากรอีกกว่า 4 ล้านคน หรือ 33% ของเซาท์ซูดาน ต้องเดินด้วยเท้ามากกว่าครึ่งชั่วโมงเพื่อไปหาแหล่งน้ำที่สะอาดเพื่อใช้ดื่ม
เมื่อรวมกับรายได้เฉลี่ยประชากรของเซาท์ซูดาน ต่อคนต่อวัน ที่ 22 บาท
ก็ทำให้เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ท้าทายผู้บริหารประเทศที่ต้องเร่งปฏิรูปสังคม เศรษฐกิจให้เจริญก้าวหน้า
อย่างน้อยก็เพื่อทำให้ประชาชนได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นบ้าง เมื่อเทียบกับมนุษย์ในประเทศอื่น บนโลกนี้.."
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://longtunman.com
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |