9 ส.ค. 61 - รายงานข่าวจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม-3 กรกฎาคม 2561 พบมีผู้ป่วยสะสม จำนวน 3,701 ราย คิดเป็นอัตราป่วยสะสม 65.13 รายต่อประชากรแสนคน เมื่อเทียบกับอัตราป่วยโรคไข้เลือดออกของประเทศ พบกทม.อยู่ในลำดับที่ 30 ซึ่งปัจจุบันพบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 รายในเขตหนองจอก ดินแดงและบางกะปิ จึงให้ทุกหน่วยงานบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ขณะเดียวกัน สำนักอนามัยจะเร่งรณรงค์ในการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ประกอบด้วย 1.การควบคุมโรค โดยจัดทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ลงดำเนินการสวบสวนการระบาดเมื่อพบผู้ป่วย รวมถึงสำรวจ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทั้งในบ้านและบริเวณรอบบ้าน และพ่นสารเคมีกำจัดยุงตัวเต็มวันในรัศมี 100 เมตร รอบบ้านผู้ป่วย ภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในวันที่ 3,7,14,21,28 นับจากวันแรกที่เข้าควบคุมโรค 2.การเฝ้าระวังไข้เลือดออก สำนักอนามัยได้ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด ตรวจจับการระบาดของโรคในพื้นที่และแจ้งเตือน มีการสำรวจ ทำลายแหล่งเพาะพันธ์ุในพื้นที่เสี่ยงทุกสัปดาห์ ได้แก่ ย่านชุมชน โรคเรียน ศาสนสถาน สถานพยาบาลและสวนสาธารณะ โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขดำเนินการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนสถานการณ์ และ 3.การขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ดำเนินการตามหลัก “3 เก็บ 5 ป.” คือ เก็บบ้านให้เรียบร้อย เก็บขยะ กำจัดพาชนะที่อาจมีน้ำขัง เก็บน้ำ กำจัดแหล่งน้ำไม่ใช้ประโยชน์
ด้าน นพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตรายแรกจากไข้เลือดออกในเขตหนองจอก ส่วนรายที่ 2 พบในพื้นที่เขตดินแดงและรายที่ 3 พบในเขตบางกะปิ โดยผู้ป่วยเสียชีวิตไล่เลี่ยกันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุโรคไข้เลือดออกระบาดมากในช่วงนี้เพราะมีฝนตกชุก เกิดน้ำขังตามพาชนะต่างๆ ทำให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ขณะที่ประชาชนอาจจะชะล่าใจในการป้องกันโรคไข้เลือดออก ฉะนั้น จึงแนะนำให้ประชาชนป้องกันอย่าให้ยุงกัด โดยการสวมใส่เสื้อผ้าอย่างมิดชิด ทาครีมหรือพ่นสเปรย์ไล่ยุง จุดยากันยุง ฉีดสเปรย์ฆ่ายุง กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายตามหลัก 3 เก็บ ทั้งนี้ หากมีอาการสำคัญเสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออก คือ ไข้สูงลอย หน้าแดง ปวดศรีษา ปวดเมื่อกล้ามเนื้อ เกิน 3 วัน รวมถึงมีอาการเหนื่อยหน้ามือ ใจสั่น เลือดกำเดาออกให้รีบแพทย์ทันที
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |