ก
กรมแพทย์แผนไทย ค้นพบยา N040 ยารักษาโรคมะเร็งปากมดลูก หลังทำวิจัยตั้งแต่ปี 57 ได้ผลลัพธ์วิจัยในคนเมื่อปลายปี 60 พบผู้ป่วยมีการตอบสนองดีขึ้น ยังไม่พบผลข้างเคียง เผยส่วนผสมสมุนไพร 10ชนิด เป็นของล้านนา ผลิตเป็นแคปซูล กินตามน้ำหนักผู้ป่วย เตรียมทดลองรักษามะเร็งตับต่อ ส่วนผลวิจัยยาสมุนไพรหมอแสง คาดรู้ผลเดือนมี.ค.นี้
22 ม.ค.61 - ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ดร.ภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล เภสัชกรชำนาญการพิเศษ สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมฯ ได้มีการวิจัยยารักษามะเร็งปากมดลูก หรือยา N040 ซึ่งพบว่าผู้ป่วยมีการตอบสนองต่อยาดังกล่าวได้ดี ถึงร้อยละ 50 และมีร้อยละ 30 ที่ก้อนมะเร็งหายไป โดยในการทำวิจัยในระยะแรกจากการเก็บตัวอย่างใน 1 ปี จากผู้ป่วย 32 คน ไม่พบผลข้างเคียงจากการใช้ยา โดยมี 16 คน ตอบสนองต่อการรักษาที่ดีตามระยะเวลาของโรคปกติ มี 4 คน ที่ก้อนหายไป แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดขึ้นจากยาหรือไม่ เพราะยังไม่ทีกลุ่มควบคุมชัดเจน ส่วนอีก 12 คน มีการตอบสนองตามลำดับขั้น แต่โดยรวมยาดังกล่าวมีความปลอดภัย และผู้ป่วยมีผลตอบสนองดี
ดร.ภญ.มณฑกา กล่าวว่า ส่วนการทำวิจัยในระยะ 2 วิจัยทางคลินิก ซึ่งจะมีกลุ่มควบคุมเพื่อทำให้เห็นผลที่ชัดเจนขึ้น และสามารถมั่นใจว่าการหายของก้อนเนื้อมาจากยา โดยจะเริ่มใช้ในผู้ป่วยที่ไม่มีตัวเลือกการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน หรือจะเป็นการดูแลเฉพาะอาการ โดยการวิจัยเรื่องยามะเร็งต้องผ่านการจัดทำแนวทางการรักษาโรคมะเร็งหรือโปรโตคอล ให้กับคณะกรรมการจริยธรรมในคนก่อน ซึ่ง ผู้ป่วยต้องมีความปลอดภัย และอาสาสมัครต้องยินยอมพร้อมใจ โดยยาดังกล่าวเริ่มวิจัยตั้งแต่ปี 2557 และผลเพิ่งออกมาช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมาว่าผู้ป่วยมีผลการตอบสนองต่อยาดี
เภสัชกรชำนาญการพิเศษ สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทย กล่าวต่อว่า ยา N040 มีส่วนผสมประมาณ 10 ชนิด ได้แก่ เถามวกขาว หญ้าขัด ตับเต่าใหญ่ ถั่วพู ราชพฤษ์ หนามโค้ง กางหลวง ตับเต่า สานเงิน และค้องเขาเขียว ผลิตมาในรูปแบบแคปซูล โดยจะให้บริโภคตามน้ำหนักตัว และรับประทานภายใต้การดูแลของแพทย์ด้วยผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตามในการรับประทานยารักษามะเร็งปากมดลูก ผู้ป่วยก็จะต้องได้รับการรักษาที่จำเป็นตามมาตรฐาน ส่วนผลข้างเคียงของ ยาN040 ในทดลองในเฟส 1 ยังไม่พบผลข้างเคียงที่อันตราย มีเพียงอาการเวียนศีรษะเล็กน้อย และคาดว่าจะเริ่มเฟส 2 ได้ภายใน 1 ปี และขณะนี้ได้มีการจดอนุสิทธิบัตรของกองทุนภูมิปัญญา ในสังกัดของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งให้ทุนทำวิจัยที่มีการทำวิจัยมาตั้งแต่ปี 2536 โดยเป็นตำรับของล้านนา ทั้งนี้ในการพัฒนาสูตรยาก็เกิดจากการนำยาดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับยามาตรฐานแล้ว และพบว่ายา N040 มีศักยภาพในการรักษามะเร็งปากมดลูกได้
นอกจากนี้ทางกรมฯยังจะมีการรับอาสาสมัครผู้ป่วยมะเร็งตับจำนวน 81 คน เพื่อมาเข้าร่วมโครงการพัฒนายารักษามะเร็งตับหรือสมุนไพรในตำรับเบญจอำมฤตย์ ซึ่งที่ผ่านมามีการเก็บข้อมูลในผู้ป่วยกว่า 300 คนพบว่ามีความปลอดภัยสูง ยังไม่พบรายงานผลข้างเคียง จะมีเพียงท้องเสีย ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมโครงการ 12 คนแล้วผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า สำหรับยามะเร็งของนายแสงชัย แหเลิศตระกูล เบื้องต้นจากการเก็บตัวอย่างใน 1,062 คน ได้ผลมาทั้งสิ้น 566 คนแล้ว พบเป็นคนไข้ใหม่ร้อยละ 70 คนไข้เก่าร้อยละ 30 ซึ่งผู้ป่วยรู้สึกว่ามีผลตอบสนองที่ดีขึ้นคือ นอนหลับมีแรง และสามารถรับประทานอาหารได้ร้อยละ 80 ส่วนการลดขนาดของก้อนเนื้อยังไม่มีผลมายืนยันมากนัก ในจำนวนนี้เกือบครึ่งผ่านการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันและหลายรายอาการอาจดีขึ้นหรือคงที่ ซึ่งตรงนี้ต้องติดตามผลต่อไป อย่างไรก็ตามเบื้องต้นไม่พบสารปนเปื้อน จะพบเพียงเชื้อที่ทำให้ท้องเสีย ซึ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อนมีโอกาสพบได้ในยาสมุนไพร โดยผลการทดสอบจากการเก็บในกลุ่มตัวอย่างในภาพรวมทั้งหมดน่าจะทราบผลภาพรวมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2561.