“หมออุดม” ลั่น ทุกมหา’ลัย ต้องปรับตัว หากฝืน เปิดคณะ/สาขาที่ไม่ตอบโจทย์ประเทศ รัฐบาลจะไม่จัดสรรงบประมาณสนับสนุนต้องทำให้ และต้องทำให้มรภ.เป็นมหา’ลัย ผลิตครูมีคุณภาพอันดับหนึ่งของประเทศให้ได้ภายในปีนี้
นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวถึงการพัฒนาคุณภาพของมหาวิทยาลัยต่อจากนี้ไปจะต้องปรับตัว การผลิตบัณฑิตต้องให้ความหลากหลายและการเรียนให้ทันตามโลกยุคปัจจุบัน ไม่เน้นวิชาการ เพราะหากมหาวิทยาลัยไม่ปรับตัวก็มีโอกาสที่จะถูกปิดมากขึ้น เช่น มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาที่ได้ปิดตัวไปแล้วกว่า 500 แห่ง เป็นต้น อีกทั้งขณะนี้ประเทศไทยกำลังขาดแคลนผู้เรียนในสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ดังนั้นมหาวิทยาลัยควรมุ่งส่งเสริมให้รับนักศึกษาในสาขาดังกล่าวให้มากขึ้นตามไปด้วย เพราะรัฐบาลได้กำหนดนโยบายออกมาแล้วว่า ต่อจากนี้มหาวิทยาลัยจะต้องผลิตกำลังคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ ซึ่งหากมหาวิทยาลัยยังเปิดคณะหรือสาขาที่ไม่ตอบโจทย์ประเทศ รัฐบาลจะไม่จัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้ ซึ่งจะเริ่มในปีงบประมาณ 2562 นี้ทันที ดังนั้นมหาวิทยาลัยทุกแห่งจะต้องเร่งสร้างจุดเน้นของตัวเองและพัฒนาให้ตอบโจทย์ประเทศให้ได้
นพ.อุดม กล่าวต่อว่าตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) เนื่องจากพระองค์ทรงมองว่า มรภ.จะช่วยพัฒนาประเทศได้ เพราะตั้งอยู่ในท้องถิ่นและมีความพร้อมในการเข้าไปช่วยเหลือหลายด้าน แต่เนื่องจากพระองค์อาจจะมองเห็นว่าปัจจุบัน มรภ.อาจจะมีการออกนอกลู่นอกทาง ไม่ได้ทำหน้าที่ตามปรัชญาของการก่อตั้งแต่แรก ดังนั้นตนจึงเตรียมที่จะไปมอบนโยบายให้แก่ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) ในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ มรภ.ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ให้มีคุณภาพ และจะทำให้ มรภ.เป็นมหาวิทยาลัยที่ผลิตครูอย่างมีคุณภาพเป็นอันดับหนึ่งของประเทศให้ได้ภายในปีนี้ เนื่องจากในอดีตภารกิจหลักของ มรภ. คือ วิทยาลัยครูเฉพาะทาง และยังเป็นหน่วยการศึกษาที่บริการงานวิชาการให้แก่ท้องถิ่นจึงอยากให้กลับไปทำสิ่งเหล่านี้อย่างเข้มข้นให้มากขึ้น ไม่ใช่ มรภ.มุ่งแต่จะเปิดคณะที่หลากหลายมากเกินไป.