เจ้าท่าสั่งคุมเข้มเดินเรือคลองแสนแสบ ติดกล้องจับความเร็ว กำชับเรือติดเครื่องกรองเสียง คาดแล้วเสร็จทุกลำสิ้นปีนี้ ด้านลุงถั่วยอมรับผู้โดยสารทะลักใช้บริการเรือเพิ่ม4-5%เหตุหนีรถติด ส่งผลให้บริการไม่เพียงพอมีผู้โดยสารตกค้างวันละ 3 พันคน


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.) ลงพื้นที่บริเวณท่าเรือประตูน้ำ ติดตามตรวจสอบผลการควบคุมเรือโดยสารในคลองแสนแสบ ว่า หลังจากที่กรมเจ้าท่าออกมาตรการระยะเร่งด่วนควบคุมการเดินเรือในคลองแสนแสบ เรื่องมาตรฐานระดับเสียงไม่เกิน 100 เดซิเบล และความเร็วไม่เกิน 20 กม./ชม.นั้นพบว่าเรือแสนแสบได้ดำเนินการควบคุมระดับเสียงในห้องเครื่องโดยใช้อุปกรณ์กรองเสียงเครื่องยนต์ และติดตั้งฝาครอบไอดีแบบใหม่ทำให้ระดับเสียงที่ออกมาจากห้องเครื่องลดลง 15-20% อยู่ในระดับ 90 เดซิเบล


อย่างไรก็ตามกรมฯขอให้ปรับปรุงอุปกรณ์กรองเสียงให้เสียงลดลงเหลือ 85 เดซิเบล โดยให้เรือจัดทำระบบน้ำไหลผ่านท่อไอเสียมากขึ้นกว่าเดิม(น้ำไหลผ่านท่อพร้อมกับไอเสีย) ซึ่งจะช่วยให้ระดับเสียงที่ปลายท่อไอเสียลดลง 10-15% ส่วนการควบคุมความเร็วให้ล๊อครอบเครื่องยนต์ที่ 1800 rpm พร้อมติดตั้งเครื่องวัดรอบไว้ในเรือ ซึ่งจท.ได้ติดตั้งกล้องซีซีทีวี แบบตรวจจับความเร็ว 1 จุดบริเวณซอยนานาแล้ว และสัปดาห์หน้าจะติดตั้งเพิ่มอีก 4 จุด ซึ่งกล้องจะประมวลผลส่งไปที่ห้องควบคุมของจท.หากความเร็วไม่เกินที่กำหนดจะเป็นสัญลักษณ์หน้ายิ้มสีเขียว แต่หากเกินกำหนดจะเป็นสัญลักษณ์หน้าโกรธสีแดง ซึ่งข้อมูลจะเป็นเรียลไทม์สามารถแจ้งให้เรือแก้ไขได้ทันที


นายจุริตม์ กล่าวต่อว่า จท.จะติดตามและควบคุมมลภาวะทางเสียงและความเร็วอย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องยอมรับว่าการเดินทางโดยเรือจะช้าลงประมาณ 10 นาที แต่เพื่อทำให้มลภาวะลดลงและไม่เกิดผลกระทบต่อประชาชนทั้ง 2 ฝั่งคลอง นอกจากนี้จท.กำลังจัดทำโครงการเสนอกระทรวงพลังงานในการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานมาวิจัยและทำต้นแบบเรือไฟฟ้าลดมลพิษที่เหมาะสมกับคลองแสนแสบ ลดเสียงและลดคลื่น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.นี้ และจะนำมาทดลองวิ่งในคลองแสนแสบ และคลองอื่นๆในกรุงเทพฯด้วย

นายเชาวลิต เมธยะประภาส(ลุงถั่ว)  เจ้าของบริษัทครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ให้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบ กล่าวชี้แจงการดำเนินงานปรับปรุงระดับเสียงและความเร็วให้เป็นไปตามที่กรมเจ้าท่ากำหนดกล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดเครื่องกรองเสียงที่เรือเพื่อลดเสียงแล้วจำนวน 30 ลำจากทั้งหมด 60 ลำ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเวลานี้ตัวเลขผู้โดยสารในคลองแสนแสบเพิ่มขึ้น4-5% จากเดิมที่ใช้บริการวันละเกือบ 6 หมื่นคนเพิ่มอีกวันละประมาณ 5-6 พันคน


อย่างไรก็ตามซึ่งเป็นผลมาจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าในหลายเส้นทางทำให้ถนนถูกลดเลนส่งผลให้รถติดมาก คนจึงหันมาใช้บริการเดินทางโดยเรือเป็นทางเลือกแทน จนทำให้การบริการไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันมีผู้โดยสารตกค้างประมาณ 3 พันคน ประกอบกับการควบคุมความเร็วให้เป็นไปตามที่จท.กำหนดส่งผลให้ผู้โดยสารกดดันต่อว่าและร้องเรียน เนื่องจากไปทำงานไม่ทัน ดังนั้นจึงอยากให้ผู้โดยสารเข้าใจ เห็นใจ และขึ้นลงเรือด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย ส่วนกรณีจท.จะทำเรือไฟฟ้าเป็นต้นแบบนั้นหากสำเร็จและได้ผลบริษัทก็พร้อมจะลงทุนและพัฒนาเรือให้ทันสมัยและลดมลพิษ เพื่อให้บริการผู้โดยสารอย่างเต็มที่