นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น งบประมาณ 6 แสนบาทต่อโรงเรียน วงเงิน 279 ล้านบาท ปี 2560 ของเขตพื้นที่การศึกษาในภาคอีสาน ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และ พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. ได้มารายงานผลการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว  มีข้อสรุปความผิดชัดเจน โดยมีโรงเรียนยืนยันความต้องการครุภัณฑ์ทั่วประเทศ จำนวน 717 โรง แต่เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกลับพบ สพฐ.จัดสรรงบดังกล่าวในโรงเรียน 458 โรง และในจำนวนนี้เกินกว่าครึ่งไม่ได้เกิดจากการร้องขอครุภัณฑ์ และการจัดซื้อดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560  อีกทั้งครุภัณฑ์ที่จัดซื้อก็ไม่ได้เป็นไปตามความต้องการของโรงเรียน แล้วยังพบคนขายรู้ข้อมูลก่อนคนซื้อ มีการล็อคสเปกด้วย ขณะเดียวกันมีบริษัทเอกชนร้องเรียนเรื่องนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ สพฐ.กลับเพิกเฉยไม่ตรวจสอบ นอกจากนี้การจัดสรรงบประมาณปี 2560 ของโครงการดังกล่าวล่าช้า แม้ว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติขยายเวลาให้จัดสรรงบฯ ให้แล้วเสร็จ แต่พบ สพฐ.กลับคิดเปลี่ยนแปลงงบฯ ไปทำอย่างอื่นแล้วก็ไม่ทำ 
    “ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปสำนวน ชี้มูลความผิดว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง คาดว่า 1-2 วันจะสามารถสรุปรายชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ เท่าที่ทราบผู้เกี่ยวข้องจากส่วนกลางประมาณ 4-5 ราย และเป็นระดับเก๋าในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทั้งนี้ หลังจากสรุปชี้มูลความผิดแล้ว ผมจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้องทันที มีโทษวินัยร้ายแรงและไม่ร้ายแรง  ส่วนใครเป็นคนเซ็นต์ ใครเป็นคนสั่งการต้องดูตามหลักฐาน สาวให้ถึงแน่นอน  ใครเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าทางใดทางหนึ่งเราต้องตรวจสอบ ไม่ต้องกลัวมวยล้ม ทุกอย่างผมดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น”รมว.ศธ. กล่าว