ยอดผู้สังเวยชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ที่เกาะลอมบอกของอินโดนีเซียเมื่อค่ำวันอาทิตย์ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 98 คนแล้วในวันจันทร์ ทางการอินโดนีเซียส่งหน่วยกู้ภัยออกค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง และอพยพนักท่องเที่ยวมากกว่า 2,000 คน

สภาพมัสยิดในเมืองเปเมนัง อำเภอลอมบอกเหนือ ที่พังถล่ม / AFP

    แผ่นดินไหวเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2561 มีศูนย์กลางค่อนข้างตื้น โดยสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐปรับลดระดับความรุนแรงลงจากขนาด 7.0 เหลือ 6.9 ขณะเดียวกัน ภาพของความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้มีความชัดเจนขึ้นด้วยในวันจันทร์ โดยหน่วยกู้ภัยยังพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากอาคารบ้านเรือน, มัสยิด และโรงเรียนหลายแห่งที่พังถล่ม

    ซูโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย ระบุจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงค่ำของวันจันทร์ว่า เพิ่มเป็น 98 รายแล้ว และหวั่นเกรงด้วยว่าจำนวนยังจะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ เนื่องจากอาจยังมีคนติดอยู่ใต้ซากอาคารมัสยิดในหมู่บ้านลาดิง-ลาดิงที่พังถล่ม ภาพที่เขาโพสต์ลงทวิตเตอร์เผยให้เห็นว่าอาคารคอนกรีตหลังนี้พังถล่มซ้อนกันเป็นชั้นๆ

    "เราคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะยังคงเพิ่มขึ้น" นูโกรโฮกล่าว "ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวอินโดนีเซีย"

พื้นคอนกรีตแตกร้าวและบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ที่เมืองเปเมนัง อำเภอลอมบอกเหนือ / AFP

    การค้นหาและกู้ภัยประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องจักรหนัก ถนนหนทางชำรุดยังเป็นอุปสรรคต่อการเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่เทือกเขาทางเหนือและตะวันออกของเกาะ ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด นัชมุล อักห์ยาร์ นายอำเภอลอมบอกเหนือ ประเมินว่า มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ถึง 80%

    นูโกรโฮกล่าวด้วยว่า อาจต้องมีประชาชนไร้ที่อยู่กว่า 20,000 คน และในพื้นที่ขณะนี้กำลังต้องการอาหาร, ยา และบุคลากรทางการแพทย์อย่างยิ่ง

ภาพโดยตำรวจน้ำอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นักท่องเที่ยวนับพันคนรออพยพออกจากหมู่เกาะกิลี

    ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ได้สั่งการให้เพิ่มเที่ยวบินไปยังพื้นที่ประสบภัยและกระตุ้นเจ้าหน้าที่เร่งอพยพผู้บาดเจ็บ

    เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนหน้า เกาะท่องเที่ยวแห่งนี้เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ที่คร่าชีวิตคน 17 ราย และทำให้นักท่องเที่ยวตกค้างอยู่ในภูเขาไฟหลายร้อยคน

    หน่วยค้นหาและกู้ภัยได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 2,000-2,700 คนออกจากหมู่เกาะกิลี ซึ่งประกอบด้วยเกาะเล็กๆ 3 เกาะที่อยู่นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของลอมบอกไม่กี่กิโลเมตร เดิมนั้นเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียกล่าวกันว่ามีนักท่องเที่ยวตกค้างบนเกาะเหล่านี้ 1,200 คน แต่นูโกรโฮได้ปรับจำนวนเป็นยอดล่าสุด และเขายังได้เผยแพร่วิดีโอภาพที่นักท่องเที่ยวนับพันคนออกันอยู่บนหาดทรายขาว เพื่อรอขึ้นเรืออพยพออกจากเกาะนี้

    มูฮัมหมัด เฟาซัล ผู้ว่าการสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดนูซาเต็งการาตะวันตก กล่าวกับเอเอฟพีว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถอพยพคนทั้งหมดออกมาพร้อมกันในคราวเดียว เพราะไม่มีเรือมากพอ แต่เรือของกองทัพเรือ 2 ลำกำลังเดินทางมาเสริมแล้ว

    หลังแผ่นดินไหวเมื่อค่ำวันอาทิตย์ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกกว่า 100 ครั้ง รวมถึงครั้งที่มีความรุนแรงขนาด 5.3 เพิ่มความตื่นตระหนกแก่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวหลายพันคนที่พากันออกมาค้างแรมกลางแจ้ง หลายพื้นที่ไฟฟ้าดับ ล่วงถึงวันจันทร์บางพื้นที่ก็ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้

    ผู้คนหลายร้อยคนที่บาดเจ็บต้องรับการรักษาด้านนอกอาคารโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหายทั้งที่เมืองมาตารัม เมืองเอกของเกาะนี้ และในพื้นที่ที่ประสบภัยแห่งอื่นๆ คนไข้ที่นอนเตียงถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่ภายในกระโจมที่แปรสภาพเป็นโรงพยาบาลสนาม

ผู้บาดเจ็บได้รับการรักษาภายในกระโจมที่ดัดแปลงเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว

    เค. ชานมูกัม รัฐมนตรีมหาดไทยของสิงคโปร์ ซึ่งมาประชุมด้านความมั่นคงที่เกาะลอมบอกขณะเกิดเหตุ บรรยายไว้ในเฟซบุ๊กของเขาว่าห้องพักของเขาบนชั้น 10 ของโรงแรมสั่นไหวอย่างรุนแรง ผนังแตกร้าว อาคารสั่นไหวจนยืนไม่อยู่

    ที่เกาะบาหลี มีรายงานว่าอาคารผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติได้รับความเสียหายด้วย แต่ไม่กระทบต่อรันเวย์และสนามบินสามารถเปิดบริการตามปกติ เช่นเดียวกับสนามบินบนเกาะลอมบอก.