เผยสถานการณ์ยาเสพติดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมผู้เกี่ยวข้อง 7.6 หมื่นคน ยึดยาบ้าเกือบ 70 ล้านเม็ด ไอซ์ 2.3 ตัน เฮโรอีน 30 กก. กัญชาแห้ง ฝิ่น กระท่อมอีก 25 ตัน รวมมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมนี้ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติด พบยังคงมีเส้นทางลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังพบการกระจายตัวอยู่ในชุมชนเมือง ซึ่งหลังจากรัฐบาล โดยฝ่ายความมั่นคงร่วมเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดทั่วประเทศในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา (มิ.ย.-ก.ค.61) มีผลการจับกุมผู้เกี่ยวข้องกว่า 76,000 คน ยึดยาบ้าได้เกือบ 70 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 2,300 กก. เฮโรอีน 30 กก. รวมทั้งกัญชาแห้ง ฝิ่น และพืชกระท่อม กว่า 25,000 กก. มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท โดยการจับกุมสามารถยึดยาบ้าได้ครั้งละกว่า 5 ล้านเม็ด
พล.ท.คงชีพกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้สั่งการฝ่ายความมั่นคง ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร โดยเฉพาะตำรวจ ร่วมกับหน่วยงาน ป.ป.ส. ต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น และให้ความสำคัญในการขยายผลจากการสอบสวนจับกุม เชื่อมโยงข้อมูลเชิงลึกร่วมกันให้ถึงเส้นทางและเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อติดตามจับกุมขยายผลนำไปสู่การดำเนินคดีและยึดทรัพย์ตัวการใหญ่ให้ได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ขอให้ฝ่ายความมั่นคงในทุกจังหวัดต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน โดยลงพื้นที่ปฏิบัติการกวาดล้างแหล่งพักยาและเครือข่ายกระจายยาเสพติดเข้าชุมชนอย่างจริงจัง ควบคู่กับการสร้างความร่วมมือกับชุมชน ร่วมกันทำหน้าที่เครือข่ายเฝ้าระวังในทุกพื้นที่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมในลักษณะ “ปรบมือร่วมกัน” ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรยังกล่าวย้ำว่า หากชุมชนใดรับรู้ได้ว่ายังมีแหล่งผลิต การเสพและการขายยาเสพติดในพื้นที่โดยถือเป็นเรื่องปกติ จะเป็นตัวประเมินถึงขีดความสามารถของกลไกฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ที่จะต้องทำงานหนักร่วมกันให้มากขึ้น
วันเดียวกัน นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผู้บังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร่วมกันแถลงผลตรวจยึดและจับกุมยาเสพติดประเภทยาอี กัญชา และนำมันกัญชง ที่ส่งมาทางพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา รวม 40 คดี มูลค่าของกลางกว่า 23 ล้านบาท
นายชัยยุทธระบุว่า ของกลางยาอีกว่า 30,000 เม็ด ถูกซุกซ่อนมาในกล่องของขวัญจากประเทศเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ จำนวน 11 คดี รวมมูลค่ากว่า 22 ล้านบาท จากนั้นได้มีการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในประเทศและตรวจยึดของกลางอีก 11 คดี รวมของกลางกว่า 30,000 เม็ด ส่วนใหญ่เป็นการสั่งเข้ามาเสพของกลุ่มไฮโซและนักเรียนนอก เนื่องจากมีราคาแพง ส่วนกัญชาถูกซุกซ่อนมาในของใช้และของเล่นต่างๆ รวม 16 คดี น้ำหนักรวมกว่า 8 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 8 แสนบาท โดยกัญชาที่พบเป็นกัญชาคุณภาพสูง ปลูกด้วยสารเคมีในสหรัฐ จึงมีราคาแพง และมีการขยายผลจับกุมผู้รับในไทยอีก 13 คดี นอกจากนี้ยังมีน้ำมันกัญชง ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 5 อีก 63 ขวด รวมกว่า 4 กิโลกรัม รวมมูลค่าของกลางกว่า 80,000 บาท
นายชัยยุทธยังฝากเตือนว่า น้ำมันกัญชง ซึ่งคนไทยบางส่วนเชื่อว่าเป็นอาหารเสริม และมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณ ยังถือเป็นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายในไทย จึงไม่ควรสั่งหรือนำเข้ามา สำหรับแนวโน้มการลักลอบนำยาเสพติดผ่านด่านและพิธีศุลกากรเข้ามาในประเทศ พบว่าภาพรวมมีแนวโน้มสูงขึ้น เฉพาะช่วง 1 ตุลาคม 60-31 กรกฎาคม 61 มียาเสพติด เช่น ยาบ้า ยาอี รวมกว่า 100,000 เม็ด กัญชา ยาไอซ์ รวมกว่า 2,000 กิโลกรัม มูลค่ารวมเกือบ 1,000 ล้านบาท.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |