ศาลนัดสืบพยานคดี'แรมโบ้อีสาน'นำนปช.ล้อมทุบ'มาร์ค'ปี52


เพิ่มเพื่อน    

6 ส.ค.61- ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจความพร้อมคู่ความ คดีดำหมายเลขดำ อ.3260/2560 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ฐานร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215 ประกอบมาตรา 83, 85
 
คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2552 เวลากลางวัน จำเลยซึ่งเป็นแกนนำ นปช. ปราศรัยปลุกปั่นชักชวนผ่านเครื่องขยายเสียง ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยจำเลยเป็นหัวหน้ามีหน้าที่สั่งการกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี อ้างว่าเป็นรัฐบาลที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนจากบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลไปกระทรวงมหาดไทย ให้ใช้รถยนต์ปิดล้อมประตูทางเข้าออกทุกด้านเพื่อล้อมจับตัวนายอภิสิทธิ์ ขัดขวางไม่ให้นายอภิสิทธิ์ใช้สถานที่ดังกล่าวประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมกันนี้พวกของจำเลยร่วมกันบุกรุกเข้าไปในกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความปลอดภัยนายอภิสิทธิ์และผู้ติดตามจนได้รับบาดเจ็บหลายคน พวกของจำเลยบางคนได้ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้ เหตุเกิดที่แขวงราชบพิธ เขตพระนคร, แขวงดุสิต เขตดุสิต กทม.เกี่ยวพันกัน
 
วันนี้อัยการโจทก์และทนายความจำเลยเดินทางมาศาล ส่วนนายสุภรณ์ไม่ได้เดินทางมาศาล
 
เมื่อถึงเวลานัด นายศุชัยวุธ ชาวสวนกล้วย ทนายความจำเลยยื่นคำร้องระบุว่า ขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายเป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่ เพราะศาลแขวงดุสิตเคยพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปแล้วฯ กรณีพนักงานสอบสวน สน.ดุสิตได้ลงบันทึกประจำวันในสำนวน เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2552 ว่า จำเลยได้ร่วมกับพวกที่เป็นแกนนำชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2552 - 14 เม.ย.2555 ซึ่งอัยการโจทก์จะฟ้องจำเลยเรื่องร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ ในเหตุการณ์ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2552 อีกไม่ได้ ซึ่งเป็นประเด็นข้อกฎหมาย นอกจากนี้ จำเลยยังได้ยื่นขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 ด้วย จึงขอให้ยกเลิกหรือเลื่อนนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยไปก่อน
 
ขณะที่พนักงานอัยการโจทก์แถลงต่อศาลว่า ขณะนี้อัยการอยู่ระหว่างพิจารณาหนังสือขอความเป็นธรรมดังกล่าว แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ
 
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ศาลจะวินิจฉัยว่าเป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่ ภายหลังจากการสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่มีเหตุให้เลื่อนการนัดสืบพยานดังกล่าว ให้สืบพยานโจทก์นัดแรก ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.ซึ่งเป็นไปตามกำหนดเดิม และกำชับให้คู่ความทั้งสองฝ่ายนำพยานบุคคลมาเบิกความต่อศาลให้เรียบร้อย หากไม่นำพยานมาเบิกความในวันนัด จะถือว่าไม่ติดใจสืบพยานรายดังกล่าว ซึ่งศาลจะวินิจฉัยตามที่เห็นสมควร     
 
สำหรับคดีในส่วนของผู้ชุมนุมที่ร่วมกันบุกรุกกระทรวงมหาดไทยในเหตุการณ์ดังกล่าวที่มีนายสุภรณ์เป็นแกนนำ ประกอบด้วยคดีอาญาของศาลอาญา หมายเลขดำที่ อ.598/2557 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชัยวัฒน์ ทองมูล และนายอรุณ ฉายาจันทร์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสองฐานร่วมกันมั่วสุมฯ คนละ 6 เดือน, ร่วมกันบุกรุก คนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 3 ปี 6 เดือน ทางนำสืบจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 2 ปี 4 เดือน  และคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1467/2559 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประดิษฐ์ แซ่ฮิว เป็นจำเลย ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกจำเลยฐานมั่วสุมฯ 6 เดือน, บุกรุก 2 ปี และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน 4 ปี การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป รวมจำคุก 6 ปี 6 เดือน ทางนำสืบจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 4 ปี 4 เดือน ให้นำโทษจำคุก 3 เดือนที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาของศาลแขวงดุสิตบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ รวมจำคุก 4 ปี 7 เดือน
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"