น้ำโขงลดแล้ว แต่ชาวบ้านนครพนมยังส่อเผชิญวิกฤตแม่น้ำสงคราม หลังชลประทานยังไม่เดินเครื่องผลักดันน้ำ 

6ส.ค.61-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  โครงการชลประทานนครพนม ได้รายงานระดับน้ำในแม่น้ำโขง ของสถานีตรวจวัดชุมชนหนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม  เวลา 09.00 น. ว่าระดับน้ำอยู่ที่  12.34 เมตร  ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 66 ซม. ลดจากวานนี้ถึง 13 ซม. ถือเป็นแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี หากน้ำโขงลดปริมาณลง จะทำให้ลำน้ำสาขาระบายน้ำลงแม่น้ำโขงได้สะดวกขึ้น ปัญหาน้ำท่วมขังก็จะเบาบางลง

วันเดียวกันเมื่อเวลา 06.00 น. จุดวัดแม่น้ำสงคราม ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม  วัดได้ 13.85 เมตร  ซึ่งระดับวิกฤตอยู่ที่ 12.50 เมตร ปริมาณสูงกว่าระดับวิกฤตถึง 1.35 เมตร ถือว่าสูงกว่าปี 60 ซึ่งเป็นอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ ที่สูงเกินระดับวิกฤต 1.31 เมตร ขณะเดียวกันชลประทานนครพนม ได้ดำเนินการติดตั้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 2 จุด. จุดละ 4 เครื่อง คือประตูน้ำอูน อ.ศรีสงคราม และประตูน้ำห้วยบังกอ ต.ท่าค้อ อ.เมืองฯ ปัจจุบันยังไม่ได้เดินเครื่อง เนื่องจากรอการติดตั้งระบบไฟฟ้า และจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตั้งไฟฟ้าในวันนี้

ด้าน อ.บ้านแพง มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและถนน บ้านนาเลียง  ต.นางัว ทางเข้าวัดถ้ำคิ้วซึ่งเป็นวัดของหลวงลุงกันหา พระเกจิอาจารย์สายธรรมยุตชื่อดัง  ขณะที่บ้านดอนแพงหมู่ 7 เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง น้ำยังท่วมขังบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำโขง

บริเวณท่าเทียบเรือการท่องเที่ยว ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม แม้น้ำจะลดปริมาณลงแล้ว แต่ยังเป็นอุปสรรคในการขนส่งสินค้าของกรรมกร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นท่าด่านที่ใช้เรือโดยสารข้ามฟากไทย-ลาว มีเจ้าหน้าที่ทั้ง ตำรวจ,ทหาร,ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.),ศุลกากร,ปศุสัตว์ ฯลฯ ทำงานร่วมกัน ปรากฏว่ามีการสร้างสะพานเหล็กสำหรับให้รถจักรยานปั่นเลาะริมแม่น้ำโขง เมื่อน้ำโขงเพิ่มปริมาณ ทำให้โป๊ะที่ใช้สำหรับขึ้น-ลงเรือโดยสาร เข้าฝั่งไม่ได้เพราะติดสะพานเหล็กดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแก้ปัญหาด้วยการตัดเสาหลังคาออก เพื่อให้ผู้โดยสารเรือเดินขึ้นเรือโดยสารได้ แต่ระดับพื้นสูงเพียง 110 ซม.เท่านั้น ผู้โดยสารจะต้องเดินก้มศีรษะลอดใต้สะพาน ยิ่งกรรมกรที่รับจ้างแบกสิ่งของต้องย่อตัวลงจนสุด เพื่อนำสิ่งของไปส่งถึงเรือที่จอดรออยู่ การแบกหามจึงเป็นไปอย่างทุลักทุเล.