เจอกับเรื่องดูด-ไม่ดูด...แลนด์สไลด์-ไม่แลนด์สไลด์ในช่วงนี้ เล่นเอาแทบเขียนอะไรไม่ออก คือมันค่อนข้างจะคลื่นเหียนวิงเวียน เมื่อยเนื้อ เมื่อยตัว ระดับยาประดงพระสังข์ทรงช้าง ยัง เอาไม่อยู่ อะไรประมาณนั้น ด้วยเหตุนี้...เปิดฉากสัปดาห์นี้ คงต้องขอฉีกกรอบ เปลี่ยนบรรยากาศ ขออนุญาตชวนไปฟัง-ไปดู สิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ เป็นเนื้อหา-สาระ แทนที่จะวนไป-วนมา กับเรื่องการบ๊วบไป-บ๊วบมา น่าจะ เข้าท่า กว่าเป็นไหนๆ...
---------------------------------------------------------
คือช่วงปลายสัปดาห์นี้...ระหว่างวันที่ 9-10 สิงหาคม โครงการกำลังใจ กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานกิจการในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ร่วมกับศูนย์วิชาการสารเสพติดภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้ง สสส. และ ปปส. เขาได้จัดรายการสัมมนาขึ้นมารายการหนึ่ง ชื่อว่า การเสพติด-ย้อนอดีตสู่อนาคต : ปัญหาและทางออก (Back to the Future of Addiction : Problems and Solutions) เปิดโอกาสให้ใครต่อใครเข้าไปร่วมฟัง ร่วมแสดงความคิดเห็น โดยไม่ต้องเสียเวลาปลดล็อก-ไม่ปลดล็อก ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย...
--------------------------------------------------------------
แม้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การเสพติด ที่ผู้คนในสำนักงานกิจการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอฯ เขาทุ่มเท ปิดทองหลังพระ มานานแล้ว ในการหาหนทางแก้ไข เยียวยา เพื่อบรรเทาเบาบางปัญหาการค้ายา เสพยา ที่ลุกลามไปจนกลายเป็นปัญหา นักโทษล้นคุก อันเนื่องมาจากการเสพยา ค้ายา นี่แหละเป็นหลัก แต่ด้วยการมองลึก มองไกล มองเข้าไปถึง เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ของปัญหา แบบ เข้าถึง-เข้าใจ-และพัฒนา ชนิดครบถ้วนกระบวนความนี่เอง ทำให้สามารถมองทะลุเข้าไปถึง การเสพติด ในลักษณะอื่นๆ ที่ไม่ได้เกิดจากยาเสพติด หรือสารเสพติด เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ก็ถือเป็น ปัญหา ที่ไม่น้อยไปกว่า ปัญหายาเสพติด อันเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความหนักอก หนักใจ ไม่ว่าต่อสังคมไทยหรือสังคมโลกก็ตามที...
-----------------------------------------------------------
เอาง่ายๆ ว่า...แค่เฉพาะพวก เสพติดมือถือ, เสพติดอินเทอร์เน็ต เท่านี้...ก็สามารถก่อให้ความปวดเศียร เวียนเกล้า ไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว สำหรับสังคมยุคใหม่ ที่ต้องกลายสภาพเป็น สังคมก้มหน้า ไม่คิดจะเงยหน้า เหลียวมองใครต่อใครเขามั่งเลย ใส่กันเละ ใส่กันแรง รัก ลุ่มหลง ละเมอ เพ้อหา ไปจนโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท กันชนิดวันละ 3 เวลาหลังอาหาร นั่นยังไม่นับรวมไปถึงพวกเสพติดวัตถุ เสพติดการบริโภค เสพติดลาภ-ยศ-ชื่อเสียง-เงินๆ-ทองๆ ไปจนถึงที่น่าอ้วกแตก อ้วกแตน เอามากๆ คือพวก เสพติดการเมือง อันส่งผลให้เกิดอาการดูดๆ-ดึงๆ กันจนตราบเท่าทุกวันนี้...ฯลฯลฯลฯ...
------------------------------------------------------------
บรรดาผู้คนบางส่วน หรือหลายต่อหลายส่วน ในสำนักกิจการในพระราชดำริพระเจ้าหลานเธอฯ ที่คลุกคลีตีโมง อยู่กับเรื่องราวทำนองนี้ เขาจึงเกิดบทสรุปของเขาขึ้นมาเองว่า เอาเข้าจริงๆ แล้ว...สิ่งที่ถือเป็น สิ่งเสพติด ที่ร้ายแรงที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน ก็คือสิ่งที่เรียกกันว่า ทุนนิยมแบบสุดโต่ง ทั้งหลาย ทั้งปวงนั่นแล ไม่ว่าจะแฝงรูป ก่อรูป ก่อร่าง มาลักษณะไหน อย่างไร ก็ตามที และเพื่อที่จะหาทางแก้ไข บรรเทา เบาบาง ให้ลึกลงไปถึง ต้นเหตุของปัญหา ไปถึง เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย แม้จะเป็นเพียงแค่กลไกส่วนหนึ่ง หรือส่วนเล็กๆ น้อยๆ ในกระทรวงยุติธรรม แต่เขาก็พยายามเผยแพร่ ชี้แนะ ชี้นำ ให้เห็นถึงต้นรากของปัญหาเหล่านี้ อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอมาโดยตลอด แบบชนิด ปิดทองหลังพระ โดยไม่จำเป็นต้องสนใจว่าจะล้นออกมาหน้าพระเมื่อไหร่ หรือตอนไหน...
----------------------------------------------------------
ความเคลื่อนไหวในด้านกิจกรรม อย่างเป็นกิจการ ของกลุ่มคนเหล่านี้...จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจเอามากๆ ชนิดที่บรรดาผู้รักบ้าน รักเมือง รักและห่วงใยสังคม อย่างจริงใจและบริสุทธิ์ใจ พึงต้องติดตามให้ความสนใจเอาไว้ให้มากๆนั่นแหละดี โดยเฉพาะในการสัมมนาคราวนี้ ถึงกับลงทุนไปเชื้อเชิญศาสตราจารย์นักจิตวิเคราะห์ชาวแคนาดา ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก คือศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ “บรู๊ซ อเล็กซานเดอร์” (Dr.Bruce K. Alexander) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสพติด เคยสร้างห้องทดลองเกี่ยวกับการเสพติดของหนูทดลอง ที่เรียกว่า Rat Park จนถือเป็นมาตรฐานในการแยกแยะภาวะการเสพติดในลักษณะต่างๆ และเคยเผยแพร่ผลงานการวิเคราะห์ วิจัย ออกมาเป็นหนังสือเรื่อง The Globalization of Addiction : A Study in Poverty of the Spirit หรือ โลกาภิวัตน์แห่งการเสพติด-ว่าด้วยการศึกษาถึงความยากจนทางจิตวิญญาณ มาเป็นผู้ร่วมบรรยาย อธิบาย ถึง ความยากจน ในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ค่อยได้มีใครคิดจะพูดถึงมากมายซักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเอามากๆ ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ และโลกที่ใครต่อใครต่างต้องกลายเป็น “ผู้เสพติด” อะไรต่อมิอะไรไม่ว่าในรูปไหน ลักษณะไหน นั่นก็คือ ความยากจนทางจิตวิญญาณ นั่นเอง...
-------------------------------------------------------------
นอกไปจากนั้น...ก็ยังมีอาจารย์ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ เจ้าเก่าและเจ้าเดิมของเรานี่เอง มี พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ฯลฯ ร่วมแจม ร่วมให้ความคิด ความเห็น อันอาจนำไปสู่ความ เข้าใจ-เข้าถึง-และพัฒนา ในเรื่องราวต่างๆ มากบ้าง-น้อยบ้าง ก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...ต้องถือว่าน่าจะเป็นประโยชน์ เป็นสาระ กว่าการพูดถึงการดูดๆ-ดึงๆ ในช่วงนี้ ไม่รู้กี่ร้อย กี่พันเท่า ใครที่เบื่อๆ กับการต่อท่อ ต่อสาย การดูดๆ-ดึงๆ ก็ลองไปเปลี่ยนบรรยากาศ ลองไปนั่งฟังการสัมมนาที่ว่านี้ เผลอๆ...อาจพอได้เกิด ความหวัง เกิด กำลังใจ ในการมองไปยังอนาคตเบื้องหน้าของสังคมไทย ได้แบบเน้นๆ เนื้อๆ...
------------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon (อีกครั้ง)... Sorrow looks back, worry looks round, faith looks up.- ความทุกข์มองไปข้างหลัง ความวิตกกังวลมองไปรอบๆ ความหวัง...มองสู่เบื้องบน...
-----------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |