วิบากกรรมคนใช้รถตู้


เพิ่มเพื่อน    

        หลังจากที่รัฐบาลได้เข้ามาจัดระเบียบรถตู้โดยสารที่ให้บริการระเกะระกะทั่วทุกแห่งหนของพื้นที่กรุงเทพฯ โดยการจับยัดเข้าไปไว้ที่สถานีขนส่งทั้งสายใต้ หมอชิต และเอกมัย เพื่อความมีระเบียบเรียบร้อย และการควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการ  

        ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนั้น ในหลักการแล้วถือว่าเหมาะสมและสมควรอย่างยิ่ง แต่ในด้านการใช้บริการของผู้โดยสาร โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้บริการเดินทางไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ แล้ว  ก็ค่อนข้างลำบาก และเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย เนื่องจากว่าการจัดยัดเยียดรถตู้โดยสารเข้าไปไว้ที่สถานีขนส่งต่างๆ ที่เดิมก็มีความแออัดอย่างกับปลากระป๋องอยู่แล้ว ยิ่งแออัดเข้าไปอีกเป็นทวีคูณ เหมือนกับรถไฟของอินเดียอย่างไรอย่างงั้นเลย

        และเพื่อลดความแออัดและให้เป็นสัดเป็นส่วน ทางบริษัทขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ได้ปรับปรุงพื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนที่อยู่ด้านหน้าของสถานีขนส่งหมอชิต เป็นสถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจักร) หรือสถานีรถตู้แห่งใหม่ และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2561 เป็นวันแรกที่เปิดให้บริการ 100%

        งานนี้ บขส.ในฐานะเจ้าหน้าที่กำกับดูแล ได้ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า ภาพรวมการให้บริการเรียบร้อยดี อาคาร A ให้บริการรถตู้โดยสารภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 29 สาย 670 คัน, อาคาร B ภาคกลาง 41 สาย 1,244 คัน, อาคาร C ภาคตะวันออก 50 สาย 976 คัน, อาคาร D ภาคใต้ 29 สาย 604 คัน มีชานชาลาจอดรถตู้ 144 ช่อง ให้บริการเพียงพอ เพราะมีรถตู้ 2,000 กว่าคัน 4,000 กว่าเที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ 20,000 คนต่อวัน ส่วนรถตู้ที่ยังไม่ถึงคิวให้บริการ จอดรอได้ในพื้นที่ก่อสร้างระยะ 2 ซึ่งจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการไม่เกิน 4 เดือน จอดรถตู้ได้ 200 กว่าคัน

        และยังกล่าวอีกว่า การย้ายรถตู้มาใช้สถานีรถตู้แห่งใหม่นี้จะสะดวกสบายมากขึ้น เพราะอยู่ริมถนนกำแพงเพชร 2 ควบคุมผู้ใช้บริการการเข้า-ออกสถานีได้ ภายในอาคารมีแอร์ ไม่ต้องเจอปัญหาฝุ่น เสียง และอากาศร้อน เหมือนที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 อีกทั้งระบบขายตั๋วมีระเบียบมากขึ้น  ใช้ระบบขายตั๋วรวมสำหรับผู้ประกอบการในแต่ละอาคาร อาคารละ 12 ช่อง ซึ่งข้อมูลจะถูกส่งมาที่ บขส.ด้วย ทำให้รู้ข้อมูลปริมาณผู้โดยสารและจำนวนเที่ยววิ่งที่ใช้บริการแต่ละวัน คาดว่าไม่เกิน 2 เดือน ระบบการขายตั๋วรวม และขายตั๋วออนไลน์ จะสามารถให้บริการเต็มรูปแบบได้

        นั่นคือคำกล่าวของฝ่ายบริหาร แต่ในความเป็นจริงวันแรกที่เปิดให้บริการก็โกลาหลกันไปหมด เพราะตั้งแต่ปัญหาการจราจรติดขัดทั้งถนนกำแพงเพชร โดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เพราะต่อวันนั้นผู้โดยสารที่มาใช้บริการถึง 18,000-19,000 คน แถมในส่วนของพื้นที่ที่ให้ผู้โดยสารนั่งรอก็ไม่เพียงพอล้นออกมานอกอาคาร ช่องขายตั๋วไม่เสร็จ ขรุขระสับสนไปหมด และที่ยิ่งทำให้ผู้โดยสารงงๆ จนทำอะไรไม่ถูกคือป้ายประชาสัมพันธ์โครงการไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี

        อย่างไรตาม จะเห็นว่าการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่พยายามเข้ามาจัดระเบียบรถตู้โดยสารนั้นยิ่งสร้างวิบากกรรมให้กับผู้ใช้บริการ เริ่มจากการเดินทางเพื่อเข้าไปยังสถานีนั้นค่อนข้างลำบาก เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว ถนนกำแพงเพชร 2 นั้นมีปัญหาในเรื่องของการจราจรไม่ใช่แค่แออัดเท่านั้น แต่ถนนทั้งถนนกลายเป็นลานจอดรถกันเลยเชียวแหละ รถโดยสารที่ใช้บริการยังมีไม่มาก การเดินทางของผู้โดยสารส่วนหนึ่งก็คือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเท่านั้นที่จะสะดวก รวดเร็ว แต่อันตรายมากๆ

        ดังนั้น การย้ายรถตู้เข้าไปไว้ที่สถานีขนส่งนั้น ผู้เขียนไม่ค้าน เพราะเหมาะสมแล้ว แต่ก่อนที่จะย้ายหรือจะทำอะไรควรที่จะวางโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อมก่อนจะดีกว่าไหม  ประชาชนจะได้เพิ่มคุณภาพและความปลอดภัยในชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ไม่ใช่เหมือนในปัจจุบันที่ต้องเสี่ยงกับอุบัติเหตุตลอดเวลา กว่าจะเข้าไปใช้บริการ เหมือนกับทุกวันนี้เป็นวิบากกรรมที่ประชาชนอย่างเราๆ ท่านๆ ต้องยอมรับ ห้ามบ่น ห้ามมีเสียง

        แต่หากให้ดีบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายลองไปใช้บริการดูบ้าง แต่ต้องไปแบบไม่มีบอดี้การ์ดนะ แล้วจะได้รับรู้ถึงวิบากกรรมของชาวบ้านที่อดทนต่อสิ่งที่ต้องใช้บริการกันทุกๆ วันเป็นอย่างไร.

บุญช่วย  ค้ายาดี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"