กรมชลฯ รายงาน “บิ๊กฉัตร” น้ำล้นสปิลเวย์เขื่อนแก่งกระจาน 4 ทุ่มคืนนี้ พร้อมติดตามสถานการณ์ 24 ชม.

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. กรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ตามข้อมูลระบบโทรมาตรวัดระดับน้ำ เวลา 06.00 น. ต่อ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ว่า มี่บริเวณบ้านสองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.64 ม. น้ำไหลผ่าน 102 ลบ.ม./วินาที (รับได้เต็มที่ไม่ล้นตลิ่งที่ 200 ลบ.ม./วินาที) ส่วนที่บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.43 ม. น้ำไหลผ่าน 65 ลบ.ม./วินาที (รับได้เต็มที่ไม่ล้นตลิ่งที่ 200 ลบ.ม./วินาที) และที่สะพานตลาดเทศบาล อ.เมือง จ.เพชรบุรี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.88 ม. น้ำไหลผ่าน 50 ลบ.ม./วินาที (รับได้เต็มที่ไม่ล้นตลิ่งที่ 200 ลบ.ม./วินาที)

ส่วนกรณีเขื่อนแก่งกระจานนั้น คาดว่าน้ำจะเริ่มล้น Spillway เขื่อนแก่งกระจานในวันที่ 5 ส.ค. เวลา 22.00 น. แต่การไหลของน้ำที่ล้น Spillway ไม่ทำให้เขื่อนเสียหายแม้แต่น้อย และปริมาณที่ไหลผ่าน Spillway ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น คล้ายกับการเอียงขันน้ำแต่น้อย เพื่อเทน้ำออกจากขัน ดังนั้น ต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งกว่าน้ำจะไหลผ่าน Spillway เต็มที่ นอกจากนี้ น้ำที่ล้น Spillway เขื่อนแก่งกระจาน ต้องใช้เวลา 24 ชม. ถึงเขื่อนเพชรบุรี โดยเขื่อนเพชรบุรี จะสามารถหน่วงน้ำส่วนนี้ ได้ช่วงเวลาหนึ่ง และน้ำที่เกินจากเขื่อนเพชรบุรี ต้องใช้เวลา 12 ชม. กว่าจะถึง อ.เมือง จ.เพชรบุรี

ด้านสถานการณ์พื้นที่ใต้เขื่อนแก่งกระจาน ไม่มีฝนตก และไม่มีฝนตกสะสม ซึ่งปริมาณน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีมีน้อยมาก สามารถรับน้ำได้อีก 150 ลบ.ม./วินาที หรือ 13 ล้าน ลบ.ม./วัน โดยกรมชลประทานมีการเตรียมการป้องกันน้ำท่วม อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยใช้บทเรียนจากปี 59 และ ปี 60 ดังนี้ ก่อนเข้าฤดูฝนทำการเสริมคันกั้นน้ำแม่น้ำเพชรบุรี ตรวจความแข็งแรง, ก่อนเกิดฝนตกหนัก ได้ย้ายเครื่องมือ/เครื่องสูบน้ำ/เครื่องผลักดันน้ำ ไปยังจุดเสี่ยง โดยเฉพาะจุดที่เคยเกิดน้ำท่วม, ทำการพร่องน้ำ โดยการเร่งระบายน้ำแม่น้ำเพชรบุรี โดยเครื่งผลักดันน้ำ และเครื่องสูบน้ำ จากทุกหน่วยงาน, ตรวจการขึ้นลงน้ำทะเล ประกอบการวางแผนการเร่งระบายน้ำ, ติดตามสถานการณ์ 24 ชม.

"ด้วยการทำงานที่เป็นระบบ มีการเตรียมการ ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การกำกับของ พล.อ.ฉัตรชัย  และ สทนช. ทำงานร่วมกับกรมชลประทาน และ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง จึงมั่นใจว่าสามารถบรรเทาความเดือดร้อนลงไปได้มาก เกิดผลกระทบน้อยที่สุด"รายงาน ระบุ