เกิดปรากฎการณ์น้ำสีมรกตในขุนน้ำนางนอนหลังขุดและพร่องน้ำออกจากถ้ำทรายทองและถ้ำหลวงเพื่อช่วย13หมูป่าจนกลายเป็นอันซีนถ้ำหลวงนักท่องเที่ยวแห่ชมไม่ขาดสาย เตรียมปิดชั่วคราวฟื้นฟูพื้นที่

เกิดปรากฎการณ์น้ำในขุนน้ำนางนอน ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากถ้ำหลวงประมาณ 2 กิโลเมตรเป็นสีเขียวมรกต   สำหรับปรากฎการณ์  น้ำในขุนน้ำนางนอนเป็นสีเขียวมรกตเกิดขึ้นภายหลังที่เจ้าหน้าที่ได้นำรถแบคโฮทำการขุดในขุนน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากถ้ำทรายทองเพื่อพร่องน้ำในถ้ำหลวงเปิดทางโค้ชและนักเตะเยาวชนทีม 13 หมูป่าอะคาเดมี่ออกจากถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง -ขุนน้ำนางนอน ระหว่างวันที่23 มิถุนายนถึง 11 กรกฎาคม และพบว่าหลังช่วยหมูป่าทั้ง 13 คนออกมาได้ทำให้น้ำในขุนน้ำนางนอนที่เคยมีสีปกติกลับเป็นสีเขียวมรกต และทำให้ภาพปรากฏไปตามสื่อโชเชียวต่างๆจน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดเชียงราย ทำให้มีชาวเชียงรายและข้างเคียงตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างพากันมาชมไม่ขาดสายวันละนับพันคน

ซึ่งนายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) กล่าวว่าช่วงที่มีการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาดามีเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการภายในขุนน้ำนางนอนด้วย ทำให้ในปัจจุบันจำเป็นต้องมีการฟื้นฟูเพื่อให้กลับสู่สภาพธรรมชาติดังเดิมกระนั้นเนื่องจากในปัจจุบันเป็นฤดูฝนทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ต้องปิดการเปิดให้เข้าชมชั่วคราวก่อนและจะอนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูสภาพเพื่อเตรียมการฟื้นฟูและวางผังเท่านั้น 

จากนั้นจึงค่อยทำการฟื้นฟูโดยเริ่มต้นด้วยการปูผืนหญ้าใหม่ก่อนเพราะเดิมบริเวณพื้นดินที่พบเห็นทั่วไปดังกล่าวนั้นเคยเป็นสนามหญ้าที่มีอาคารของเจ้าหน้าที่อยู่รายรอบ 3 หลัง และจากนี้ไปจะยังไม่อนุญาตให้เข้าชมอีกประการหนึ่งคือระดับน้ำภายในขุนน้ำที่ลึกมาก โดยเดิมน้ำที่ไหลออกมาสู่ลำธารจะลึกประมาณ 50-70 เซ็นติเมตรเท่านั้น แต่หลังจากมีการขุดเจาะเพื่อผันน้ำออกไปและรองรับน้ำจากถ้ำหลวงได้ทำให้บางจุดลึกกวา 3-4 เมตรทำให้อาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่เข้าไปเยือนได้ ทำให้ต้องมีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ให้มีความปลอดภัยก่อนซึ่งจะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้