11 หมูป่าสึกแล้ว พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ย้ำขอให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่อความสำเร็จในชีวิต โดยให้ถือศีล 5 ข้อเป็นสรณะ "โค้ชนพ" เผยถ้ายังอยากจะเล่นฟุตบอลอยู่ก็พร้อมที่จะรับให้กลับมาร่วมทีมเหมือนเดิม ยันทีมหมูป่า ทีนทอล์คอะคาเดมี ไม่ขอรับการสนับสนุนทุนทรัพย์
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2561 ที่วัดพระธาตุดอยเวา ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้จัดให้มีพิธีลาสิกขาและงานนิทรรศการขอบคุณคนทั้งโลก ให้กับสามเณรสมาชิกทีมหมูป่า ทีนทอล์คอะคาเดมี 11 รูป
โดยฝ่ายสงฆ์มีพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอแม่สายเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จากนั้นมีการไหว้พระ อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล ก่อนที่ร่วมกันสวดมาติกาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม ฮีโร่ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่าฯ ออกจากถ้ำหลวง โดยญาติพี่น้องของพระ สามเณรทีมหมูป่า ข้าราชการและประชาชน เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงมีครูบาอริยชาติ เกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาน อ.แม่สรวย มาร่วมด้วย
หลังเสร็จพิธี ตัวแทนสามเณร 11 รูปได้ถวายเครื่องสักการะประธานสงฆ์และกล่าวคำขอลาสิกขา ส่วนพระเอกพล วิสารโท ไม่ได้ลาสิกขาในครั้งนี้ด้วย โดยยังไม่มีกำหนดลาสิกขา จากนั้นพระสงฆ์โดยพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ได้ประกอบพิธีลาสิกขาให้สามเณรและให้ศีล 5 ตามด้วยการอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ โดยพระสงฆ์จำนวน 13 รูปถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนาบุญ
พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์เผยว่า การที่สามเณรทีมหมูป่าฯ ทั้ง 11 รูปได้บวชพร้อมกันนี้ ถือเป็นการทำบุญที่ดี และเมื่อต้องลาสิกขาออกไปแล้ว ก็ขอให้ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่อความสำเร็จในชีวิต โดยให้ถือศีล 5 ข้อเป็นสรณะ ส่วนพระวิสารโทภิกขุที่ยังบวชไปตลอดพรรษานี้นั้น ก็ขอให้ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรม เมื่อทุกฝ่ายได้พร้อมใจกันปฏิบัติดีเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้เจริญในทุกด้านต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ทางครูบาอริยชาติได้มัดข้อมือให้ทุกคนเพื่อความเป็นสิริมงคล ขณะที่พระครูประยุตเจติยานุการประกาศว่า ในช่วงที่มีการบวชนั้น น้องไตเติลไม่อยากจะสึกออกมาก่อน และยังอยากจะอยู่ที่วัดอีกอย่างน้อย 3 วัน แต่เนื่องจากความจำเป็นในวัยเรียน ที่ต้องไปเรียนหนังสือ จึงต้องกลับไปใช้ชีวิตทางโลกตามปกติต่อไป กระนั้นเมื่อลาสิกขาแล้วก็ยังสามารถไปวัดและพบปะพระวิสารโทภิกขุได้เมื่อมีโอกาสต่อไป
นายนพรัตน์ กันฑะวงศ์ หรือโค้ชนพ หัวหน้าโค้ชทีม หมูป่าอะคาเดมี เผยว่า ในส่วนของน้องๆ หมูป่าหลังจากลาสิกขาแล้ว อยากให้ไปโฟกัสในส่วนของการเรียนก่อน ในส่วนของการเล่นฟุตบอลให้เป็นเรื่องรอง เพราะว่าน้องๆ ขาดเรียนไปเกือบเดือน หลังจากนี้ถ้าหากยังอยากจะเล่นฟุตบอลอยู่ ก็พร้อมที่จะรับให้กลับมาร่วมทีมเหมือนเดิม
ไม่ขอรับการสนับสนุน
เขากล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ถ้ำหลวงทำให้เป็นที่รู้จักและมีหลายฝ่ายต้องการจะสนับสนุน ซึ่งทางทีมเองไม่ขอรับการสนับสนุนดังกล่าว หากต้องการให้การสนับสนุนหรือทุนทรัพย์ ให้ประสานได้กับทางผู้ปกครองของน้องๆ ได้โดยตรง ซึ่งทางทีมจะค่อยๆ พัฒนาทีมไปเช่นเดิม และจะยังคงมีการสอนทักษะฟุตบอลให้กับน้องๆ ในพื้นที่ที่สนใจ อยากจะร่วมทีมฟุตบอลกับเรา โดยวันนี้ในความเชื่อ การมาทำบุญกับเณรก่อนลาสิกขาถือว่าเป็นการได้บุญสูงสุด
ด้านนายประพันธ์ คำจ้อย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หลังจากนี้จะให้น้องทีมหมูป่าฯ กลับไปอยู่ครอบครัว และจะให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล และให้เข้ามาร่วมกิจกรรมทางพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการเยียวยาจิตใจให้มีสมาธิและสงบในการดำรงชีวิตต่อไป
ส่วนงานนิทรรศการขอบคุณคนทั้งโลกจะเริ่มขึ้นในเวลา 17.00 น. โดยมีนายสมบูรณ์ ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน มีการร่วมรับประทานอาหารกาดหมั้ว ครัวแลง การแสดงชุดต่างๆ บริเวณลานพระธาตุดอยเวา และจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายจำนวน 4,000 ภาพ โดยรอบองค์พระธาตุดอยเวา ให้ประชาชนและผู้ร่วมงานได้ชมเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การติดถ้ำหลวงของทีมหมูป่า ทีนทอล์คอะคาเดมี ทั้ง 13 คน โดยนิทรรศการนี้จะเปิดให้ประชาชนเข้ามาชมได้ตั้งแต่วันที่ 4-16 สิงหาคม 2561
ที่สมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดเสวนา “ถอดบทเรียนสุขภาพจากการลงพื้นที่ทำข่าวกรณีถ้ำหลวง”
พล.ต.นพ.วุฒิไชย อิศระ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กล่าวว่า ภาพแรกของเด็กทั้ง 13 คนที่เราเห็น ไม่มีการร้องไห้ตกใจเลย เพราะเด็กร้องไห้ 3-4 วันแรก แต่หลังจากนั้นพวกเขามีความหวัง และมีการวางแผนในการเอาตัวรอด ทั้งการวางแผนใช้ไฟฉาย กำหนดเวลาตื่นเวลานอน
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ข้อดีคือทั้ง 13 ชีวิตจำไม่ได้ว่าตอนนำตัวออกมามีการทำอย่างไรบ้าง ซึ่งการนำตัวเด็กออกมานั้น เด็กนอนหลับปกติ โดยใส่หน้ากาก ซึ่งก่อนจะนำตัวเด็กออกมา มีการให้ยากินและยาฉีด เพื่อให้หลับ และจำเหตุการณ์ขณะนั้นไม่ได้ และเราก็ไม่ควรที่จะไปรื้อฟื้นตรงนั้น ทั้งนี้ การนำเสนอข่าวของสื่อตอนแรกผิดทั้งหมด โดยเฉพาะการนำเสนอเรื่องที่ไม่ใช่สาระสำคัญ อาทิ เรื่องขนมที่เด็กซื้อก่อนเข้าถ้ำ ขณะที่สื่อต่างประเทศนำเสนอเพียงแค่เรื่องการเตรียมการช่วยเหลือเท่านั้น
อย่าตั้งคำถามกระเทือนจิตใจ
ด้าน นพ.สมัย ทองศิริถาวร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การนำเสนอข่าวถ้ำหลวงทำให้คนในสังคมรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอาการป่วยด้านจิตใจตามมา นอกจากทั้ง 13 ชีวิตแล้ว พ่อแม่ญาติพี่น้อง ประชาชนทั่วไป ผู้สื่อข่าว ต่างลุ้นเหตุการณ์ดังกล่าวไปตามๆ กัน ทำให้เกิดความกดดันและมีผลกระทบต่อจิตใจ จนอาจจะเป็นโรคลักษณะเดียวกับทหารที่ผ่านสงคราม เกิดความหวาดกลัวและมีอาการซึมเศร้าตามมา
ดังนั้น ทางทีมแพทย์จึงมีการให้ความรู้กับพ่อแม่ญาติพี่น้องว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอะไรหลังจากนี้ รวมทั้งเตรียมใจรับกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่พอสามารถช่วยเหลือได้ และไม่มีความสูญเสียในกลุ่ม 13 ชีวิต ก็ทำให้ไม่ส่งผลกระทบทางด้านจิตใจมากนัก แต่สิ่งที่ต้องระวังรอบใหม่คือตัวเด็ก ที่อาจจะถูกตั้งคำถามที่กระทบกระเทือนด้านจิตใจในอนาคตได้ ซึ่งจะต้องเกื้อหนุนให้คงความสัมพันธ์ในกลุ่มของเขาไว้ รักษาสมดุลเป็นกลุ่ม คือให้สัมภาษณ์ก็ไปเป็นกลุ่ม บวชก็บวชเป็นกลุ่ม และจะต้องดูแลเป็นกลุ่มเพื่อให้ฟื้นจากสภาพการเจ็บป่วยด้านจิตใจ และไม่ควรมีแรงกดดันให้เด็กต้องออกมาขอบคุณคนที่ช่วยเหลือ แต่ควรให้เด็กรู้สึกและออกมาขอบคุณด้วยตัวเอง
ขณะที่ นพ.โรม บัวทอง สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเข้าไปทำข่าวบริเวณถ้ำหลวง ทำให้นักข่าวเสี่ยงที่จะสัมผัสกับเชื่อโรคต่างๆ ทั้งในถ้ำ ในน้ำ ในพื้นที่ป่าละเมาะ นอกจากนั้นการที่คนมารวมตัวกันเยอะๆ ก็จะเสี่ยงให้เกิดโรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคหัด แต่ขณะนี้ผ่านมากว่า 21 วันแล้ว จึงไม่น่าจะมีใครป่วย แต่หากพบว่ามีกลุ่มไหนเสี่ยง ทีมแพทย์ก็จะเข้าไปตรวจทันที
อย่างไรก็ตาม หากการลงพื้นที่ทำข่าวแล้วรู้สึกไม่สบาย ควรจะแจ้งกับหมอว่าไปบริเวณไหนบ้าง สัมผัสอะไรบ้าง จะช่วยทำให้หมอวินิจฉัยได้เร็วขึ้น เพราะมีข้อมูลโรคเฉพาะพื้นที่อยู่แล้ว เพื่อให้สามารถรักษาได้ทันไม่ให้เกิดสภาวะแทรกซ้อน ทั้งนี้ บทเรียนของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้จากเหตุการณ์นี้คือ การควบคุมและป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติมของทั้ง 13 คน ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้ เราได้รับความชื่นชมว่าเป็นมาตรฐานสากล และถือว่าทำได้ดีมาก
ขอบคุณทหารช่วยหมูป่า
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกจนถึงระดับผู้บังคับกองพัน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลที่สร้างชื่อเสียงแก่กองทัพบกในกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกำลังพลกว่า 1,400 นาย ที่เข้าร่วมในภารกิจค้นหาและกู้ภัยที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ซึ่งตั้งใจปฏิบัติงานจนสำเร็จและเป็นที่ชื่นชมของประชาชน โดยให้ดำรงการปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคมต่อไป ส่วนในโอกาสที่กองทัพบกได้จัดทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้บังคับหน่วยระดับกองพัน
ผู้บัญชาการทหารบกได้ย้ำเจตนารมณ์ว่า ประสงค์ให้กำลังพลมีการออกกำลังกายที่หลากหลาย เพราะจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาศักยภาพของผู้บังคับหน่วย และขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนกำลังพลในบังคับบัญชาให้มีร่างกายที่แข็งแรง รักในการออกกำลังกาย อันจะส่งผลดีต่อการทำงานในภาพรวมต่อไป ผู้บัญชาการทหารบกได้เปิดโอกาสให้ พล.อ.สสิน ทองภักดี รองผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.โกญจนาท ศุกระเศรณี ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ซึ่งจะเกษียณอายุราชการปีนี้ ถ่ายทอดแนวคิดและประสบการณ์ตลอดการรับราชการให้ผู้บังคับหน่วยนำไปเป็นแนวทางในการทำงาน ทั้งในเรื่องการบริหารคน ความรับผิดชอบ ความมีวินัย พื้นฐานของฝ่ายอำนวยการ ที่จะต้องมีทั้งความรู้ ประสบการณ์ รวมทั้งการมุ่งมั่น ทุ่มเทปฏิบัติงานในภาระหน้าที่อย่างดีที่สุด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |