ช่วงวันหยุดสำคัญ “วันแม่แห่งชาติ” วันที่ 12 สิงหาคม ที่กำลังจะมาถึงนี้ จังหวัดระยองถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่สามารถพาคุณแม่และสมาชิกในครอบครัวไปพักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกันได้ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย ระยะทางไม่ไกลกรุงเทพฯ มีกิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวงดงาม อาทิ ท้องทะเล หมู่เกาะ ป่าเขา พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ชิมผลไม้ ลิ้มรสอาหารทะเลที่สดๆ อร่อย
นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดระยองและจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ในวันที่ 12สิงหาคมซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ และมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จังหวัดระยองมีการจัด "งานมหัศจรรย์ไม้เมืองหนาวครั้งที่ 7" ตั้งแต่วันที่ 9-15 สิงหาคม 2561 ที่สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมืองฯ จังหวัดระยอง โดยมีไฮไลต์สำคัญคือดอกทิวลิปและดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ที่งดงามเบ่งบานและมีสีสันตระการตา พร้อมกับมีกิจกรรมอื่นๆ ภายในงานที่ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวเพลิดเพลินและมีความสนุกสนานตลอดทั้งวัน มีค่าเข้าชมเพียง 40 บาทต่อท่าน และรายได้ทั้งหมดบริจาคให้กับศูนย์บริการสาธารณสุขตำบลมาบตาพุด โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ซึ่งถือว่าผู้มาร่วมงานได้รับทั้งความสุขและร่วมสร้างบุญกุศลไปพร้อมๆ กัน และพิเศษสุด หากลูกๆ พาคุณแม่เที่ยวชมงานรับรูปถ่ายคู่แม่ลูกฟรี!
สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แห่งนี้ ก่อสร้างเมื่อปี 2527-2528 บนเนื้อที่ 60 ไร่ จากนั้นได้น้อมเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2528 ซึ่งในช่วงต่อมาก็ได้มีการพัฒนาสถานที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ และปลูกต้นไม้เพิ่มเติม เพื่อเทิดพระเกียรติในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 50 พรรษา
ภายในสวนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ “สวนสมุนไพร” ที่รวบรวมพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 260 ชนิด ประมาณ 20,0000 ต้น แบ่งประเภทของสมุนไพรตามสรรพคุณในการรักษาโรคเอาไว้ถึง 20 กลุ่ม ภายใน “อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา” เป็นสถานที่แสดงนิทรรศการผ่านสื่อหลายรูปแบบ ที่ให้ความรู้ ดูสนุก ชวนติดตาม กระตุ้นให้เกิดความสนใจค้นหาความรู้ โดยแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องการเดินทางของลูกยาง, ห้องเจ้าฟ้านักอนุรักษ์, ห้องพลังงานที่ยั่งยืนของไทย, บ้านหมอยา, กินตามธาตุ และโลกของพืชสมุนไพร
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานระยอง กล่าวต่อว่า ในจังหวัดระยองยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เดินทางไปต่อเนื่องได้ ทั้งในพื้นที่อำเภอเมือง และในบริเวณใกล้เคียง เริ่มที่ “อนุสาวรีย์สุนทรภู่” อำเภอเมือง สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสุนทรภู่ กวีเอกในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผู้สร้างสรรค์บทประพันธ์อันทรงคุณค่ามากมาย และกล่าวกันว่าเมืองระยองนั้นคือบ้านเกิดของบิดาของศิลปินเอกสุนทรภู่นั่นเอง
ถัดมา คือ “พระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ” อำเภอเมือง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพสักการะของชาวระยองตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน พระเจดีย์กลางน้ำอยู่ติดลำน้ำระยอง ส่วนอีกด้านเป็นส่วนที่ติดกับป่าชายเลน เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศของป่าชายเลน ภายใต้ชื่อ “ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลน พระเจดีย์กลางน้ำ” มีลักษณะเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 200 เมตร
“ถนนยมจินดา” อำเภอเมือง เป็นย่านชุมชนเก่าแก่ ที่ยังคงมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไว้อย่างเหนียวแน่น ไฮไลต์ท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ นั่งจิบกาแฟกับบรรยากาศเก่าๆ ชิมเมนูอาหารคาวหวานหาทานยาก ชมร้านค้าเก่าแก่ริมถนนยมจินดา และสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานแบบชิโน-โปรตุกีส อาคารบ้านเรือนเก่าแก่สวยงาม
จากนั้นอาจจะเปลี่ยนบรรยากาศไปที่ “หาดแหลมแม่พิมพ์” อำเภอเมือง เป็นชายหาดที่เติมเต็มความร่มรื่นด้วยทิวต้นหูกลางสลับกับต้นสนความยาว 4 กิโลเมตร สามารถแวะจอดรถตามจุดต่างๆ ได้สะดวก บริเวณใกล้ ๆ กันเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ที่พัก รีสอร์ต และร้านขายของฝาก จากนั้นเดินทางต่อเนื่องไปที่หาดบ้านเพ ชายหาดที่ติดกับแหลมแม่พิมพ์ เพื่อซื้อของฝากและอาหารทะเลได้อีกด้วย
หากมีเวลาไม่ควรพลาด “เกาะเสม็ด” อำเภอเมือง เพชรเม็ดงามแห่งอ่าวไทย และเกาะสำคัญที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปพักผ่อนเสมอ ด้วยระยะห่างจากชายฝั่งบ้านเพียง 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเรือโดยสาร 30 นาทีโดยประมาณ อีกทั้งยังมีเรือข้ามไปยังเกาะตลอด 24 ชม. โดยเรือออกจากท่าทุกครึ่งชั่วโมง มีกิจกรรมให้เลือกมากมาย เช่น เล่นน้ำทะเล ทำกิจกรรมทางน้ำ หรือชมวิวสวย ๆ ในมุมสูงดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกทะเล พร้อมมีที่พัก ร้านอาหารบริการให้เลือกอย่างจุใจ
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานระยอง กล่าวต่อว่า หากมีเวลาแนะนำให้ไปที่อำเภอแกลง มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ “พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง” สถานที่รวบรวมของเก่าของสะสม ของเล่น ข้าวของเครื่องใช้โบราณและรถเก่าของครูกัง จัดแสดงไว้ภายในบ้านที่มีการปรับปรุงใหม่ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บของเก่าขนาดใหญ่
ต่อมาคือ “สะพานรักษ์แสม” อำเภอแกลง โดดเด่นด้วยสะพานแขวนพื้นไม้ความยาวประมาณ 100 เมตร พร้อมด้วยจุดชมทัศนียภาพและระบบนิเวศ และเดินบนสะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปยังป่าชายเลน มองเห็นปูแสม และความงดงาม เงียบสงบ และสมบูรณ์ของธรรมชาติ
ปิดท้ายด้วยการเยือนวิถีชุมชนปากน้ำประแส ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง ด้วยการนั่ง "รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง" ไปเที่ยวชมบ้านเรือนและวิถีชีวิตของชาวชุมชน ชม "อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส" พร้อมสักการะ "ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์" และดูต้นตะเคียนเก่าแก่กว่า 500 ปี ที่ "วัดตะเคียนงาม" หรือไปถ่ายภาพและเดินสะพานไม้ผ่านทุ่งโปรงทอง ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของภาคตะวันออกในช่วงเช้าตรู่ หรือยามเย็น
ยังมีจุดพักผ่อนหย่อนใจที่ "ชายหาดแหลมสน" หาดอันเงียบสงบที่ปัจจุบันทางเทศบาลตำบลปากน้ำประแสได้ทำการปรับภูมิทัศน์โดยรอบเสียใหม่ให้ดูงามตา สะอาดสะอ้านยิ่งขึ้น รองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาพักผ่อน ส่วนเวลาค่ำก็ล่องเรือชมหิ่งห้อยไปตามปากน้ำประแส สัมผัสธรรมชาติสองฝั่งน้ำที่เรียงรายด้วยต้นโกงกาง และคนที่สนใจอยากสัมผัสบรรยากาศวิถีชุมชนแบบใกล้ชิด ยังสามารถใช้บริการโฮมสเตย์ของชาวชุมชนได้ด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานระยอง รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดระยองและจังหวัดจันทบุรี โทร. 0-3865-5420-1, 0-3866-4585.
สรณะ รายงาน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |