ผลงานแกะผลไม้โรงแรมบันยัน ทรี วิจิตรงดงาม

     เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 86 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2561 เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)  จัดงานประกวดแกะสลักผลไม้ ผสานงานใบตองและดอกไม้สด ครั้งที่ 20 ในหัวข้อ “สลักเสลาผลไม้ไทยวิถี เฉลิมพระบารมีสมเด็จพระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 9”  โดยมีผู้เข้าประกวดจากประเภทโรงแรม-บุคคลทั่วไป และประเภทสถาบันการศึกษารวมทั้งสิ้น 23 ทีม โดยท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขนุการในองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นประธานมอบถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้แก่ผู้ชนะเลิศการประกวดครั้งนี้ 

ทีม มรฏ.เชียงใหม่ มากฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ คว้ารางวัลถ้วยพระราชทานฯ 
 

     อารยา อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน  กล่าวว่า การจัดประกวดจะเห็นพัฒนาการฝีมือการแกะสลักมากขึ้น ไม่เฉพาะประชาชนทั่วไป แต่นักเรียนนักศึกษาคนรุ่นใหม่ก็มีฝีมือแกะสลัก รวมถึงการตกแต่งมีความคิดสร้างสรรค์สื่อเรื่องราววิถีไทย สมเด็จพระราชินีในรัชกาลที่ 9 ทรงสนับสนุนและส่งเสริมด้านศิลปหัตถกรรมมาตลอด ทำให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้ เด็กและเยาวชนเป็นกำลังสำคัญสืบสานงานฝีมือด้านการแกะสลักให้คงอยู่
    สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ส่วนประเภทสถาบันการศึกษา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อันดับที่ 2  มหาวิทยาลัยเกษมบัณทิต และอันดับที่ 3  โรงเรียนเซนต์โยเซฟแม่ระมาด จ.ตาก ประเภทโรงแรม-บุคคลทั่วไป รางวัลชนะเลิศโรงแรมบันยัน ทรี คว้าไปครอง อันดับที่ 2  Mahochi Thailand และที่ 3 โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ
    ศ. ดร.มณีรัตน์ สวัสดิวัฒน์ ณ อยุธยา ประธานกรรมการตัดสิน กล่าวว่า การประกวดแกะสลักผสานงานใบตองและดอกไม้สดครั้งนี้ไม่เพียงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แต่ช่วยอนุรักษ์การแกะสลักไทย ทีมที่ส่งประกวดส่วนใหญ่เป็นสถานการศึกษาระดับอุดมศึกษาและมัธยมศึกษา สะท้อนเยาวชนสนใจงานศิลปหัตถกรรมไทย ผลงานทุกชิ้นงดงาม ประณีต และสร้างสรรค์ 

    “ แกะสลักผลไม้เป็นดอกไม้ มีความพลิ้วไหวดูเป็นธรรมชาติ แกะสละเผือก ฝักทองเป็นรูปสัตว์หิมพานต์  วัด ราชรถ มีความบรรจง ดูใกล้ๆ จะเห็นว่า ลวดลายที่ปรากฎมีความยากมาก งานใบตองก็ถูกเย็บ พับ ขึ้นเป็นรูปทรงต่างๆ ละเอียดทุกกลีบ การตัดสินผู้ชนะเลิศยาก ทุกทีมล้วนมีฝีมือและชั้นเชิง แนวคิดที่ดี ”ประธานกรรมการฯ กล่าว
    ภายในงานจัดแสดงผลงานแกะสลักของทีมต่างๆ สะท้อนแนวคิดไทยนิยมชัดเจน ทั้งพัสตราภรณ์ไทย อาหารไทย วิถีชุมชน วัฒนธรรมไทย สถาปัตยกรรมไทย แต่ละผลงานมีความโดดเด่นแตกต่างกัน อีกความประทับใจส่งผ่านงานพับแบบกลีบใบตอง อย่างการบายศรีจับกลีบม้วนพับตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนใหญ่ประกอบเป็นรูปทรงของนกยูง พญานาค และสัตว์ต่างๆ ได้วิจิตรงดงาม ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพรรณ 
    นายวุฒิชัย ก้อนสังข์  ตัวแทนทีม มรฏ.เชียงใหม่ ที่รับรางวัลถ้วยพระราชทานฯ กล่าวว่า ผลงานสะท้อนวิถีไทย 4 ภาค จึงแกะสลักหลากหลาย ภาคกลางจำลองวัดมหาธาตุ จ.อยุธยา ใช้เผือกแกะ ลวดลายที่ยากเป็นลายกนก เศียรพระมีต้นไม้โอบล้อม สะท้อนวิถีพุทธของคนไทย ภาคเหนือทำโคมไฟในประเพณียี่เป็ง  ภาคอีสานหยิบประเพณีแห่เทียนพรรษา แกะสลักจากเผือกให้สีขาวผ่อง พญานาคที่คนนับถือแกะสลักจากฝักทองต้องใช้ความระมัดระวังในการแกะด้วย   ภาคใต้แกะเป็นปลาแหวกว่ายในท้องทะเล สายน้ำก็เปรียบดังน้ำพระทัยของพระราชินีใน ร.9 ที่มีต่อปวงชนชาวไทย ในซุ้มจึงหลากหลายไปด้วยผลไม้และผัก ทั้งฝักทอง เผือก แตงโม แคนตาลูป รางวัลครั้งนี้สร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ร่วมทำงานกว่า 30 คนด้วย 
                นายคมกริช ฉายศรี ตัวแทนจากโรงแรมบันยัน ทรี  บอกว่า ร่วมประกวดครั้งแรก รู้สึกภูมิใจมาก ตั้งใจถ่ายทอดความเป็นป่าหิมพานต์ที่อุดมสมบูรณ์ เปรียบเหมือนประเทศไทย และสะท้อนพระราชกรณียกิจของแม่แห่งแผ่นดิน อย่างการแกะสละกระเป๋าด้วยฝักทอง ยากทั้งลวดลาย การทำดอกไม้ การโค้งเว้า อีกทั้งดอกไม้ทุกดอกที่ประดับตกแต่งล้วนแต่แกะสลักมาจากผักและผลไม้  ผลไม้เล็กๆ นำมาแกะเป็นลวดลาย ทุกคนใช้เวลาหลังเลิกงาน เกือบ 1 เดือนจนได้ผลงานสมบูรณ์
    ส่วนน้องก๊อด นักเรียนชั้น ม.6 รร.เซนต์โยเซฟแม่ระมาด จ.ตาก บอกว่า การแกะสลักในช่วงแรกก็ยาก แต่พอทำเป็นรูปเป็นร่างได้ รู้สึกภูมิใจมาก อยากจะพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ อย่างช้างตนตั้งใจแกะสลักออกมาให้เหมือนจริง  ดีใจที่มีส่วนทำให้โรงเรียนได้รับรางวัลประกวดครั้งนี้ด้วย