กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

                สงสัยจะกลัว "ลุงตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เหงา!!!! ลูกน้องพล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 (ผบก.ส.1) เลยจัดทำเอกสารเกี่ยวกับข้อปฏิบัติของช่างภาพสื่อมวลชน แจกจ่ายสื่อมวลชนประจำทำเนียรัฐบาล เนื้อหาบางส่วนระบุถึงมารยาทในการถ่ายภาพ และข้อควรปฎิบัติในการบันทึกภาพแจกจ่ายสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล อาทิ ในการถ่ายภาพควรอยู่ห่างจากนายกรัฐมนตรี 5 เมตรเป็นอย่างน้อย หรือต้องไม่ถ่ายภาพตรงหน้า ขณะที่นายกรัฐมนตรีอยู่ในห้องรับรอง หรือต้องอยู่ในลักษณะเคารพต่อนายกรัฐมนตรีและแสดงความเคารพทั้งก่อนและหลังถ่ายภาพ จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงข้อความต่างๆ เกินไปหรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะขาประจำฝั่งตรงข้าม "ลุงตู่" ในโลกโซเชียลวิจารณ์ท่านผู้นำ แบบกัดกันแสบๆคันๆ ตลอดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ๐

                เอกสารร้อนๆของตำรวจ ส.1 เล่นเอา พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล(ผบช.ส.) เจ้านายใหญ่ต้นสังกัด นั่งไม่ติดต้องสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เช่นเดียวกับพล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รองผบช.ส. ที่เดินทางไปติดตามคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับลูกพี่ บิ๊กปู-พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ยังตั้งข้อสงสัย "ปกติแล้วอำนาจหน้าที่ในการดูแลปฏิบัติร่วมกับสื่อมวลชนในภารกิจของนายกรัฐมนตรี เป็นอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ไม่ใช่ กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ดังนั้นการปรากฏเอกสารที่อ้างว่าเป็นข้อบังคับข้อปฏิบัติ จาก บก.ส.1 ก็เป็นเรื่องไม่ปกติ" ...หรือแบบนี้เห็นที่อาจต้องถึงมือ "ลูกพี่ศรี" ตรวจสอบเสียแล้ว ๐

                น่าจะเริ่มนับ 1 เข้าสู่ห้วงเวลาการแต่งตั้งนายพลตำรวจ วาระประจำปี 2561 กันแล้ว หลังจากมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส เผยแพร่ในรายกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา แม้เนื้อหารายละเอียดประกาศหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเหมือนเดิม คือ "ถ่างบันไดนายพัน ร่นบันไดนายพล" ด้วยสูตร "7-6-4-5-5-2-1-1-1-1" รองสว.ขึ้น สว.7 ปี สว.ขึ้นรองผกก.6 ปี รองผกก.ขึ้น ผกก.4 ปี ผกก.ขึ้น รองผบก.5 ปี รองผบก.ขึ้น ผบก.5 ปี ผบก.ขึ้น รองผบช. 2 ปี รองผบช.ขึ้น ผบช. 1 ปี ผบช.ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. 1 ปี ผู้ช่วยผบ.ตร.ขึ้นจเรตำรวจแห่งชาติและรองผบ.ตร.1ปี และจเรตำรวจแห่งชาติและรองผบ.ตร. ขึ้น ผบ.ตร. 1 ปี แต่สิ่งที่เหล่า "สีกากี" รับรู้นั่นคือฤดู"วิ่งเต้น" เริ่มแล้ว แม้ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี จะยังไม่มีหนังสือเวียนให้แต่ละกองบัญชาการทำบัญชีผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาก็ตาม ๐

                เก้าอี้ "ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล" หรือ "ผบช.น." ดูจะถูกโฟกัสมากเป็นพิเศษ ใคร???จะมานั่ง "น.1" แทน บิ๊กหยม-พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. คุมพื้นที่เมืองหลวง เพราะแคนดิเดตที่เกจิฟันธงเอาไว้เรียงกันเป็นหน้ากระดาน โดยเฉพาะช่วงนี้กระแส บิ๊กบัว-พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) เพื่อนร่วมรุ่น นรต.36 ของ ผบ.แป๊ะ ถูกปล่อยออกมาแรงแซงโค้ง แต่ถ้าไปถามตำรวจ ยิ่งระดับ "ผกก."โรงพักนครบาล ส่วนใหญ่เชื่อว่าเจ้านายคนใหม่ไม่น่าจะใช่ "บิ๊กบัว" ล้วนมองไปที่ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.) คนดัง มีน้ำหนักมากกว่าเพื่อน ด้วยเหตุผลหน้างานเหมาะสมกับสไตล์ "บิ๊กโจ๊ก" ที่ชอบบู้ ชอบลุย ถ้าจะไปนั่ง "ผบช.สตม." สลับกับ "บิ๊กบัว" ดูจะไม่เข้าเท่าไหร่ ยิ่งสมัยนั่งเก้าอี้ "ผู้การฯ191" ก็สร้างชื่อไว้เยอะ รวมทั้งยังจัดทีมงานลูกน้องมาเตรียมพร้อมหลายคน ถ้าลูกพี่ไม่มานั่งคุมทัพก็ดูกระไรอยู่ ๐             

                นัดหมายส่ง "โผทหาร"ให้ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม วันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมาต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะ ผบ.เหล่าทัพ ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศหลายคน โดย "บิ๊กเจี้ยบ" พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก  บอกว่า "บิ๊กป้อม" ให้ส่งพร้อมกันสัปดาห์หน้า แล้วค่อยนัดประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล ตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ตามขั้นตอน  ขณะนี้ยัง "นิ่ง" เพราะ โผในใจ "บิ๊กป้อม" ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาว่าจะจัดวาง "น้องรัก-น้องเลิฟ" ของตัวเองไว้ที่ใดบ้าง โดยเฉพาะ "บิ๊กอ้อม" พล.อ.วีรชัย อินทุโสภน ผช.ผบ.ทบ. ที่มีข่าวไปลุ้นเก้าอี้ ผบ.ทสส. แต่ผบ.เหล่าทัพก็ ประสานมือการันตีให้ "บิ๊กกบ" พล.อ.พรพิพัฒน์  เบญญศรี เสนาธิการทหาร ขึ้นเป็น ผบ.ทสส.ไปแล้ว จะเหลือก็แค่ตำแหน่ง รองผบ.สส. ในโควต้าที่ ทบ.ส่ง แต่ถ้าจะอยู่ ทบ. ก็เหลือแค่เก้าอี้ประธานคณะที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. (อัตราพลเอกพิเศษ) ที่ปล่อยว่างรออยู่๐

                ส่วน  "บิ๊กเจี้ยบ" พล.อ.เฉลิมชัย ถือเป็นช่วง 2 เดือนสุดท้ายที่จะอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ด้วยความที่ชอบปล่อยมุขเรียกเสียงฮาให้กับคนรอบข้างเสมอ ทำให้การประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกวาระพิเศษ ที่มีผู้บังคับหน่วยระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไปทั่วประเทศเดินทางมาประชุมที่หอประชุมกิตติขจร กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา  "บิ๊กเจี้ยบ" ติดตลกแซวตัวเอง ที่กำลังจะลงจากตำแหน่ง โดยระบุว่า ที่วันนี้ 5 เสือทบ. ทั้ง ผช.ผบ.ทบ. และเสนาธิการทหารบก ไม่มาร่วมประชุมวันนี้ ไม่ใช่เพราะตัวเองกำลังจะหมดอำนาจ ทำให้ไม่มีใครสนใจ  แต่เป็นเพราะเสนาธิการทหารบก ติดภารกิจงานของ กอ.รมน. ส่วน ผช.ผบ.ทบ. 2 คน ได้ส่งไปปฏิบัติภารกิจแทน  พร้อมกับเล่าถึงชีวิตรับราชการตลอด 38 ปีที่ปกครองบังคับบัญชาในฐานะ ผบ.หน่วยมาตลอด พร้อมให้ "บิ๊กต้อ" พล.อ.สสิน ทองภักดี รองผบ.ทบ. และ "บิ๊กอ้วน" พล.อ. โกญจนาท ศุกระเศรณี ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ถ่ายทอดแนวคิด ประสบการณ์ให้ผู้ใต้บังคับบัญชารับฟังก่อนเกษียณด้วย๐

                กลายเป็น "ซุปเปอร์สตาร์" ของกองทัพบกไปเสียแล้ว สำหรับ "หมอภาคย์" พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันทหารเสนารักษ์ที่ 3 กองทัพภาคที่ 2 ที่ไปไหนก็แจก "ยิ้มเห็นฟัน" ตามสไตล์หมอ ที่เข้าถึงผู้คนในสังคมทุกเพศ ทุกวัย แถมเป็นตัวแทนความเป็นทหารที่แข็งแกร่ง ชอบออกกำลังกาย  ตามนโยบาย  สมาร์ทแมน- สมาร์ทอาร์มี่ และในการทดสอบร่างกายประจำปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้บังคับกองพันที่ ผ่านการทดสอบ 100 % เป๊ะ เพิ่มมากขึ้นจาก 32 นายในครั้งที่แล้ว ครั้งนี้มีถึง 50 นาย ทำให้ "บิ๊กเจี้ยบ" ยิ้มแก้มปริ   แม้ต้องอัดฉีดตามสัญญาคนละ 1 หมื่นบาท  แต่ก็อยากให้นโยบายนี้มีการสานต่อเพราะการออกกำลังกายมีประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกับ ผู้ใต้บังคับบัญชาในหน่วยได้ด้วย  "บิ๊กเจี้ยบ" เลยย้ำในหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ว่า อยากให้ผบ.หน่วย ออกกำลังร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือ ใช้ประเภทกีฬาที่เล่นเป็นทีมมาผสมผสาน  ไม่อยากให้ซื้อแค่เครื่องออกกำลังกายไปเล่นอยู่บ้านใครบ้านมัน  เพราะจะได้ประโยชน์แต่ กาย แต่ ไม่ได้ใจ ๐

                ทหารนอกแถวมีทุกเหล่าทัพ.. แต่ก็อยู่ที่ว่าผู้บังคับบัญชาจะจัดการอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเสื่อมเสียให้กองทัพ ล่าสุดกรณีการเข้าจับกุมประชาชนที่รับซื้อน้ำมันอากาศยานจากข้าราชการกองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี ที่ลักลอบนำน้ำมันอากาศยานออกไปจำหน่ายนั้น   พล.อ.ต. พงษ์ศักดิ์  เสมาชัย  โฆษกกองทัพอากาศ  ชี้แจงว่า กองบิน 21 พบว่าน้ำมันอากาศยานที่ถูกลักลอบนำออกไปได้ถูกนำไปพักและจำหน่ายที่บ้านพักของบุคคลพลเรือน จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี ในการวางแผนเข้าจับกุมและขยายผล ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพและซัดทอดว่ามีข้าราชการสังกัดกองบิน 21 มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำน้ำมันอากาศยานออกไปจำหน่าย"เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารอากาศกองบิน 21"ได้วางแผนเข้าจับกุมข้าราชการทหารอากาศที่ร่วมขบวนการทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาลงโทษทางวินัยทหาร และดำเนินคดีตามกฎหมาย ...เป็นเรื่องที่สังคมติดตามดู๐


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"