พวกเราคงได้รับรู้เรื่องที่ครูจะต้องเดือดร้อน เพราะต้องใช้หนี้แทนลูกศิษย์ที่ตัวเองเป็นผู้ค้ำประกันให้ลูกศิษย์ได้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ความเดือดร้อนครั้งนี้สาหัสนัก ต้องหาเงินมาจ่ายหนี้แทนลูกศิษย์ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีภาระที่จะต้องดูแล และที่ร้ายไปกว่านั้น เจ้าหนี้เขาก็จะมายึดทรัพย์ขายทอดตลาดเพื่อนำเอาเงินมาใช้หนี้ และคงจะขายราคาที่ต่ำกว่าราคาที่แท้จริงของราคาทรัพย์สินที่จะนำเอามาขาย จนครูต้องออกมาแถลงให้สังคมได้รู้ จึงเกิดอาการตื่นตัวด้วยการวิพากษ์วิจารณ์การติดตามทวงหนี้ของเจ้าหนี้ กลไกในการให้นักเรียน นิสิตนักศึกษากู้ยืมที่ต้องมีคนค้ำ และการปล่อยให้หนี้เหล่านี้ค้างเป็นเวลาหลายๆ ปี จนคนที่กู้นั้นมีงานมีการทำ มีบ้าน มีรถ มีชีวิตที่สุขสบายเหมือนคนที่ไม่มีหนี้สินที่จะต้องรับผิดชอบ ทำไมปล่อยไว้เนิ่นนานขนาดนั้น เวลานานขนาดนี้ หากคิดดอกเบี้ยเติมเข้าไปอีก ภาระของคนค้ำประกันที่กำลังถูกทวงหนี้ก็จะสูงขึ้นไปอีก โครงการนี้เป็นโครงการเพื่อการศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามปรัชญาที่ว่าการศึกษาสร้างคน และคนสร้างชาติ ดังนั้นโครงการแบบนี้จะต้องมีหลักคิดที่แตกต่างจากการกู้เงินเพื่อการอื่นๆ
เราน่าจะมาพิจารณาการให้กู้เงินในโครงการนี้กันสักหน่อย เพื่อให้มีการนึกเรื่องโครงการดีๆให้เดินถูกทาง เพราะถ้าหากไม่มีการแก้ไข คนกู้ก็จะลอยนวลและไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีสำนึกกตัญญู ไม่รู้สึกอะไรกับการทำให้ครูที่มีบุญคุณได้รับความเดือดร้อน ต่อไปจะมีครูคนไหนกล้าที่จะค้ำประกันให้ลูกศิษย์ เพราะความเมตตาที่มีให้กับเด็กนั้นทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน ต่อไปนี้เด็กรุ่นหลังอาจจะไม่ได้กู้เงินเพื่อการศึกษาอีกต่อไป เพราะหาคนค้ำไม่ได้ และที่สำคัญชีวิตของครูที่ค้ำประกันจะเป็นอย่างไร นี่หรือคือผลตอบแทนที่ครูผู้มีใจเมตตาได้รับ เด็กๆที่กู้เงินไปก็ยังไม่ตาย มีตัวตน มีงานทำ ก็น่าจะตามคนที่กู้ให้เต็มที่ก่อนดีไหม จะบอกว่าตามแล้วแต่ตามไม่เจอ ก็ต้องถามว่าตามแบบไหน ตามอย่างไรใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หรือเปล่า ห้างร้านต่างๆ แค่บอกเบอร์โทรศัพท์หรือเลขบัตรประจำตัวหลักข้อมูลของเราก็ขึ้นเต็มจอ เดินทางกระเป๋าหาย ไปแจ้งฝ่าย lost and found เขาก็ยังหาเจอ ถ้าหากใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยความพยายามอย่างไม่กลัวความยากลำบากต้องหาเจอ เพราะคนพวกนี้คงกู้เงินซื้อบ้าน กู้เงินซื้อรถ ซื้อประกันชีวิต ซื้อประกันภัย เป็นสมาชิกบัตรเครดิต และอื่นๆ อีกมากมาย ลองหาผู้เชี่ยวชาญด้วยการสืบค้นข้อมูลทางสารสนเทศมาช่วยย่อมหาได้ แต่มันยากหน่อยนะ ยากกว่าการตามหาคนค้ำประกันมากเลยทีเดียว ดังนั้นเจ้าหนี้บางรายจึงชอบไล่บี้เอากับคนค้ำมากกว่าคนกู้ เพราะคนค้ำตามหาง่ายกว่า สืบทรัพย์ที่มีก็ง่ายกว่า ถ้าหากมองเจตนาดีและความเมตตาของครู เจ้าหนี้น่าจะใช้ความพยายามตามหาผู้กู้ให้ได้ก่อนที่จะมาไล่เบี้ยเอากับผู้ค้ำที่เป็นครูผู้มีใจเมตตา
เด็กๆ ที่กู้นั้น ตอนกู้น่าจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ พ่อแม่ต้องเซ็นอนุญาตให้กู้หรือเปล่า คุยกับพวกเขาแล้วยัง เด็กๆ จบแล้วอาจจะได้งานทำตามเมืองต่างๆ ไม่ได้อยู่ที่ภูมิลำเนาเดิม แต่พ่อแม่น่าจะอยู่ที่เดิม เคยขอความร่วมมือจากพวกเขาให้ช่วยตามลูกๆ บ้างไหม หรือว่าตามแล้ว แต่พ่อแม่ทำเนียนไม่รู่ว่าลูกทำงานที่ไหน ยังไงก็น่าจะลองทางนี้ก่อนที่จะไปบี้เอากับครูผู้ค้ำประกันนะ และต่อไปน่าจะมีบันทึกแนบสัญญาได้ไหมว่าถ้าเด็กๆ เบี้ยวหนี้จะให้พ่อแม่รับผิดชอบอย่างไรบ้าง เด็กๆ อาจจะคิดไม่ได้ว่าอะไรผิดอะไรถูก แต่พ่อแม่โตแล้ว น่าจะแยกผิดแยกถูกได้ เพราะฉะนั้นเมื่อรู้และเห็นว่าลูกทำไม่ถูกต้องก็น่าจะอบรมสอนลูกและแนะนำลูกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่รับรู้ความเดือดร้อนของครูที่เมตตาลูกของตนเองแล้วก็ยังทำเฉย ไม่คิดจะสอนไม่คิดที่จะแนะนำอะไรลูกเลย หรือว่าพ่อแม่เห็นดีเห็นงามกับการกระทำที่อกตัญญูของลูกๆ สำหรับพ่อแม่ที่ได้แนะนำให้ลูกทำสิ่งที่ถูกต้อง ก็ขออนุโมทนา แต่พ่อแม่ที่รู้ว่าลูกทำไม่ถูกต้องแล้วยังเฉย ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าพ่อแม่รู้เห็นเป็นใจหรือแนะนำให้ลูกเบี้ยวหนี้ เพราะรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเจ้าหนี้ก็จะไปไล่บี้ทวงหนี้จากคนค้ำประกัน
นอกจากจะมีการวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหนี้แล้ว ก็ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์เด็กๆ ที่เบี้ยวหนี้ด้วย นอกจากจะเรียกได้ว่าเป็นคนอกตัญญูแล้ว ก็ถือว่าเป็นคนเห็นแก่ตัวที่คิดแต่ความสุขสบายของตนเองโดยไม่คิดถึงความเดือดร้อนของคนอื่น ทั้งๆ ที่คนอื่นที่ว่านี้คือครูผู้มีพระคุณ คนอย่างนี้ถ้าจะบอกว่ามีจิตใจเหี้ยม โหดร้าย ที่ไม่มีความรู้สึกสะทกสะท้านกับความเดือดร้อนของครูที่มีพระคุณ พวกเขาจะรู้ไหมว่าเขากำลังทำลายชาติ เพราะต่อไปเด็กที่ต้องการเรียนเพื่อนำความรู้ไปสร้างชาติ อาจจะไม่มีโอกาสที่จะได้เรียน เพราะไม่มีใครค้ำเงินกู้ หรือร้ายไปกว่านั้น โครงการอาจจะถูกยกเลิก เพราะเวลานี้มีคนสร้างวาทกรรมกล่าวหารัฐบาลที่คิดโครงการนี้ขึ้นมาว่าสร้างปัญหาให้ครู ทั้งๆ ที่โครงการเป็นโครงการที่ดีแต่เด็กที่กู้แล้วไม่ยอมใช้หนี้ ทำให้โครงการเสียหาย
ใครรู้จักคนพวกนี้ออกมาโพสต์ความสุขสบายให้คนอื่นได้รู้หน่อยเถอะ ให้สังคมได้รู้ว่าคนอกตัญญูพวกนี้เป็นใคร แต่ระวังหน่อยนะทำให้แยบยลอย่าให้ผิดกฎหมายโทษฐานประจานลูกหนี้ นายจ้างพิจารณาหน่อยนะ ถ้าท่านรับคนเบี้ยวหนี้ไว้ในบริษัทของท่าน แล้วท่านจะไว้ใจความซื่อสัตย์สุจริตของเขาได้อย่างไร ต่อไปจะรับใครทำงาน ถามสักนิดว่ากู้เงินเรียนหรือไม่ ใช้หนี้แล้วหรือยัง ถ้าเป็นงานแรกต้องให้ทำสัญญาหักเงินเดือนใช้หนี้ ช่วยกันนะ เพื่อไม่ให้คนค้ำประกันถูกไล่บี้ เพราะตามตัวง่ายกว่าคนกู้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |