เมื่อช่วงค่ำ 3 ส.ค.61 - ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา สิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมือง “ แรมโบ้อีสาน” นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยหรือ อพปช. และอดีตแกนนำ นปช.อีสาน ได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงขันโตก วันสตรีไทย ประจำปี 2561 หรือวันแม่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา โดยได้นำพวงมาลัยดอกดาวเรือง ช่อดอกไม้ดาวเรือง จุดธูป เทียน และแผ่นทองคำเปลว พร้อมนั่งคุกเข่ายกมือพนมกราบไหว้อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีก่อนก้มกราบ 3 ครั้ง ตั้งจิตอธิฐานด้วยท่าทางสีหน้าสงบนิ่ง
จากนั้นไปพบปะพี่น้องประชาชนกลุ่มสตรีแห่งชาติที่มีแม่บ้านมาจากทั้ง 32 อำเภอมาร่วมตัวกัน รวมทั้งไปร่วมกิจกรรมโครงการมหกรรมโคราชลดทั้งเมือง จัดโดยหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาที่มีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้านฯเปิดงานคึกคัก
นายสุภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมากราบคุณย่าโมตนเอาฤกษ์และเอาเป็นวันดีวันสตรีแห่งชาติมีสตรีทั้ง 32 อำเภอมารวมตัวกันที่หน้าคุณย่าโม ตนเลยถือเอาฤกษ์งามยามดีมาถอนคำสาบานกับคุณย่าโม และตนยังขอบอกกับคุณย่าโมว่าลูกขอกลับมาทำงานพัฒนาสร้างความเจริญให้กับเมืองโคราช เพื่อให้เกิดความกินดีอยู่ดีกับพี่น้อง และสิ่งใดที่ลูกทำอะไรไว้ มิดี มิงาม ลูกขอกราอภัยคุณย่าโม แล้วจากนี้เป็นต้นไปลูกจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้กับประชาชน และเรียกความรักความศรัทธา ความดีงาม ความสมัครสมานสามัคคี ความปรองดองให้เกิดขึ้นในผืนแผ่นดินไทย โดยไม่แตกร้าวอีกต่อไป
นายสุภรณ์ กล่าวว่าจะร่วมมือร่วมแรงกับทุกฝ่ายทุกภาคส่วนในประเทศไทยในแนวทางการหาทางออกให้กับประเทศชาติให้บ้านเมืองกลับสู่ความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต ส่วนจุดยืนที่จะสังกัดพรรคไหนหรือพรรคที่น่าจะเป็นรัฐบาลแน่นอนนั้น ตนยืนยันว่า เป็นพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่จะเป็นพรรคอะไรรอดูกัน ส่วนจะเป็นพรรคพลังประชารัฐกลุ่มสามมิตรหรือไม่ก็จะได้ติดตามกัน แต่สำคัญที่สุดพรรคไหนที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลตนจะสังกัดพรรคนั้นแน่นอน
อดีตแกนนำนปช. กล่าวว่าตนพูดเสมอว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาสู่กติกาทางการเมือง และก็เป็นคนโคราชด้วยกัน ตนก็พร้อมที่จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ถ้าเข้ามาสู่ตามระบอบกติกาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญคือเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้นพล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นคนโคราช ลูกหลานย่าโมคนหนึ่งเหมือนกัน ในฐานะคนโคราชรักกันก็ต้องช่วยกันอย่างไรก็ตามตอนนี้ตนยังไม่แน่ใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าสู่การเมืองตามระบอบประชาธิปไตยแน่นอนหรือไม่อย่างไร
ส่วนกับกลุ่ม นปช. และการก้าวข้ามนั้น ตนคิดว่ากับ นปช.ไม่ได้มีปัญหา เพราะได้ออกจาก นปช.มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะมีปฏิวัติยึดอำนาจนายณัฐวุฒิ นายจตุพร และนางธิดา ทุกคนก็รู้ ดังนั้นเราไม่ต้องไปพูดถึงกัน ไม่ต้องไปพูดใส่ ไม่ต้องไปโจมตีกัน ไม่ต้องไปมีวาทะหรือวิวาทะกัน ฉะนั้นขอให้หยุด ตนก็ไม่ได้ไปพาดพิงอะไร นปช. และ นปช.อย่ามาพาดพิงอะไรตน ต่างคนต่างตั้งหน้าทำเพื่อประเทศชาติดีกว่า
เขา กล่าวด้วยว่าการกลับมาครั้งนี้ของตนนั้น อยากจะกลับมา เพราะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.ครบุรี-อ.เสิงสาง เรียกร้องว่า ยังไม่เห็นส.ส.คนไหนในพื้นที่เขตเลือกตั้งตนคือ อ.ครบุรี-อ.เสิงสาง ที่สามารถช่วยเหลือดูแลประชาชนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่สิ่งที่ตนมองมากกว่านั้นคือ มองภาพของเมืองโคราช เมืองเศรษฐกิจ เมืองส่งเสริมการลงทุน การท่องเที่ยว ทุกด้าน ทั้งทางหลวงมอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ วงแหวนรอบนอก เมืองเทคโนโลยี่ และทุกๆด้าน
"ผมได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนนักการเมือง อดีต ส.ส. เรารวมกันเป็นกลุ่มพลังโคราช ไม่ว่าจะเป็น อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. ทุกพรรคการเมือง อย่าง นายจำลอง ครุฑขุนทุด , นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ , พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ , นายอัสนี เชิดชัย “ บุตรชาย”เจ๊เกียว” นางสุจินดา เชิดชัย , นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ และอีกหลายคน แม้แต่นายบุญถึง ผลพาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีได้มานั่งคุยกัน เราวันนี้การเมืองเรื่องขัดแย้ง เรื่องทะเลาะกัน เราโคราชด้วยกัน เราต้องหยุดกความขัดแย้งทั้งหลายทั้งปวง แล้วมาจับมือกันทั้งอดีตนักการเมือง นักการเมืองรุ่นเก่ารุ่นใหม่ ทำอย่างไรจะให้เมืองโคราชเกิดความเจริญรุ่งเรือง" นายสุภรณ์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |