‘ปชป.’คึกไม่หวั่นดูด ‘ชวน’นำทีมอวยพร‘มาร์ค’54ปี/‘นคร’โวสู้เดี่ยว


เพิ่มเพื่อน    

  ครบวันเกิด 54 ปี "มาร์ค" คึกคัก เผยอยากให้บ้านเมืองหลุดพ้นจากปัญหา ไม่หวั่นอดีต  ส.ส.ถูกดูด  ลั่นมีคนใหม่พร้อมลงแทน เตือนเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้า ปชต.ไม่ยั่งยืน "นคร มาชิน" พร้อมสู้อย่างโดดเดี่ยว  ยันไม่เคยเนรคุณ "กุนซือบิ๊กป้อม" ฟันธง พท.ไม่ชนะดั่งที่คุยโว แค่ 200 เสียง พลังประชารัฐและพวก 200 ปชป. 100 แกนนำ พท.ปฏิเสธ "ลูกชายเจ๊แดง" นั่งหัวหน้าพรรค "พิชัย" โวยหมายเรียกรอบ 11 จ้องปิดปาก ผบ.ทบ.ปัดคุกคาม ชี้การแชร์ต่อผิด พ.ร.บ.คอมพ์ "สมชัย" ตอก กกต.ไม่ฉลาด เลือกผู้ตรวจการทิ้งทวนหากทำงานไม่ดีจะโทษชุดเดิมเลือกมา

    เมื่อวันศุกร์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 54 ปี ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค ปชป. มีบรรดาแกนนำพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค, นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค,  นายมารุต บุนนาค อดีตรองหัวหน้าพรรค และอดีต ส.ส.รวมทั้งสมาชิกของพรรค เข้าอวยพรนายอภิสิทธิ์อย่างคึกคัก โดยมีตัวแทนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมทั้งนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่มีข่าวว่าถูกพรรคพลังประชารัฐทาบทามไปร่วมงานด้วย แต่ปฏิเสธที่จะย้ายพรรค ก็เข้าร่วมอวยพรด้วย
    นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันคล้ายวันเกิดปีนี้ขอขอบคุณผู้ที่อวยพรทุกคน ไม่อยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิด เพราะส่วนตัวได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจ สิ่งที่ชอบ มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขอยู่แล้ว แต่อยากลดน้ำหนัก ส่วนในเรื่องของบ้านเมือง ก็เหมือนทุกคนที่อยากให้บ้านเมืองหลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ อยากเห็นความเจริญก้าวหน้าเพื่อประโยชน์สุขของทุกคน โดยตั้งความหวังว่าปีที่จะถึงนี้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งหากเป็นไปตามโรดแมป ก็จะมีการเลือกตั้ง  จึงหวังว่าประชาชนจะไปใช้สิทธิให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ 
    ส่วนกรณีของนายนคร มาฉิม ที่ออกมาโจมตีพรรคปชป.นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ส่งผลกระทบกับพรรคโดยจะชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง จึงเชื่อว่าประชาชนจะแยกแยะได้ เพราะหากข้อความที่ระบุว่า "พวกเรา" หมายถึง "พรรคประชาธิปัตย์" ก็เป็นข้อมูลเท็จ ซึ่งพรรคจะดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป นายนครออกจากพรรคไปตั้งแต่ปี 2556 ไปลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคชาติพัฒนาแล้วก็ลาออก ซึ่งเข้าใจว่ากำลังจะไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย จึงเป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งการจะออกจากพรรคไปเป็นเรื่องปกติ แต่อย่ากล่าวเท็จ และเห็นว่าไม่จำเป็นต้องให้ คสช.เข้ามาดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็น แต่ถ้าให้ข้อมูลเท็จทำให้ผู้อื่นเสียหาย ก็ว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีอะไรต้องกังวล
    หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวถึงกรณีที่นายสุรสิทธิ์ ตรีทอง จะไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐว่า นายสุรสิทธิ์ออกจากพรรคไปตั้งแต่ปี 2554 แล้ว ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐจะดึงอดีต ส.ส.จากพรรค 12-13 คนไปนั้น ก็พอรับทราบการเคลื่อนไหวเวลาที่มีการทาบทามคนของพรรค ปชป. ซึ่งทุกคนต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง และเชื่อว่าคนของพรรคค่อนข้างตกผลึกว่าจุดยืนแนวคิดอุดมการณ์คืออะไร ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกรณีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นั้นเคยแจ้งว่าจะอยู่กับพรรค แต่ล่าสุดยังไม่ได้คุยกัน สำหรับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แจ้งว่าจะเว้นวรรคไม่ลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งหน้า 
อย่าให้การเมืองเสียหาย
    "การดึงตัว ส.ส.เป็นเรื่องธรรมดาที่พรรคการเมืองต้องแข่งขันกัน ส่วนในพื้นที่ใดที่มีอดีต ส.ส.ย้ายออกไปก็จะจัดสรรคนใหม่ลงสมัครแทน ไม่มีปัญหาอะไร รวมถึงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อดีต ส.ส.ของพรรคจะย้ายไปสังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทยด้วย เพราะมีคนจำนวนมากที่พร้อมจะทำงานกับพรรค หวังว่าประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบในวันเลือกตั้ง ใครจะทำพรรคการเมืองก็มีสิทธิที่จะทำ แต่อย่าทำให้ระบบการเมืองเสียหายในภาพรวม เพราะถ้าคนมองว่านักการเมืองสนใจแต่เรื่องผลประโยชน์ การปฏิรูปการเมืองก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะประชาธิปไตยจะยั่งยืนได้อยู่ที่ความศรัทธาของประชาชน นักการเมืองในระบบต้องทำตัวให้เป็นที่ศรัทธา" นายอภิสิทธิ์กล่าว 
    นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวด้วยว่า ในขณะนี้พรรคการเมืองเก่าไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ส่วนใหญ่ที่เดินสายอ้างสิทธิในขั้นตอนการจัดตั้งพรรคการเมืองจึงไม่อยู่ในข้อห้ามของคำสั่ง คสช. พรรคก็เดินหน้ารับฟังประชาชน รวมทั้งแสวงหาคนใหม่ๆ ในวงการต่าง ๆ เข้าสู่แวดวงการเมืองเพิ่มเติมด้วย
    ด้านนายนคร มาฉิม ให้สัมภาษณ์ที่ จ.พิษณุโลก ว่า หลังจากตนโพสต์เฟซบุ๊กแล้วมีบางคนในพรรค ปชป.โทรศัพท์มาต่อว่าบ้าง และมีข่าวว่าเตรียมจะฟ้องตนก็พร้อมจะสู้ด้วยคนเดียวอย่างโดดเดี่ยว แต่ถ้าจะให้เปลี่ยนคำพูดนั้นไม่ได้ ตนยืนหยัดพิสูจน์ให้เห็นเองว่าความจริงเป็นอย่างไร
    “กรณีมีคนพูดว่าทรยศ เนรคุณ ไม่รู้บุญคุณ ผมขออนุญาตยกมือท่วมหัว พรรคการเมืองใด รัฐมนตรีท่านใด นักการเมืองท่านใด ผมไม่เคยเหยียบย่ำ ไม่เนรคุณ ไม่เคยว่ากล่าวใส่ร้าย ซึ่งเป็นบุญคุณท่วมหัว”
     ส่วนกรณีจะไปอยู่พรรคใดนั้น นายนครบอกว่า ยังไม่สามารถกระทำได้ คสช.ยังไม่ได้ปลดล็อก มีประมาณ 5 พรรคใหญ่ที่พูดคุย แต่หากพรรคนั้น เข้าร่วมกับพรรคทหาร คงไม่เข้าแน่ เพราะเราต้องยึดมั่นในแนวทางของตน หลังจากที่ตกผลึกทางความคิด สัมผัสการเมืองทุกพรรคทุกกลุ่มทุกฝ่าย มองเห็นมิติทางการเมืองว่าเราจะเลือกฝั่งไหน จึงตัดสินใจด้วยตัวเองว่าขอเลือกอยู่ฝั่งประชาชน ขอเลือกอยู่ฝั่งประชาธิปไตยดีกว่า คำว่ายศหรือตำแหน่ง ไม่สำคัญเท่ากับได้การรับเกียรติจากประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจ
     นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) แสดงความเห็นผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า เสือหลับหรือเสือตายไม่นานก็คงรู้พิชัยสงครามกำหนดวิธีหยั่งรู้แพ้ชนะไว้ในข้อแรก คือขุนพล ก๊กเพื่อไทยทักษิณนำทัพ ปชป. ลุงชวนน้ามาร์ค ลุงบัญญัติ นำทัพ ส่วนก๊กพลังประชารัฐ ใครนำทัพ? ตอนนี้มีแต่ข่าว 3 มิตรนำทัพ ซุนวูกล่าวว่า "ด้วยประการนี้ข้าก็สามารถหยั่งทราบแพ้ชนะแล้ว"
    "ผลคำนวณจากดวงดาวของกระบี่เดียวดาย เพื่อไทยไม่ชนะถล่มทลายดังที่โว แต่จะได้ราว 200 พลังประชารัฐและพวก 200 ปชป. 100 บวกลบไม่มากนัก ตอนนี้กำลังคำนวณว่าใครจะเป็นประธานสภา?" นายไพศาลระบุ
    นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส.แพร่ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวจะมีการดันนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายของนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค พท.คนใหม่ ว่าขอยืนยันว่าเราไม่เคยคุยกันในเรื่องนี้เลย ดังนั้นตัดประเด็นนี้ไปได้เลย เพราะนายยศนันท์ไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ด้วยซ้ำ ประเด็นที่เกิดขึ้นนี้เป็นการสร้างสถานการณ์โดยการแต่งเรื่องขึ้นมา วันนี้บ้านวงศ์สวัสดิ์เขาหยุดเล่นการเมืองกันหมดทุกคนแล้ว โดยเฉพาะนางเยาวภา ซึ่งวางมือทางการเมืองอย่างแน่นอน
โวย คสช.ปิดปาก
    นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ถูกเรียกตัวครั้งที่ 11 มีหมายเรียกจาก บก.ปอท. และเลื่อนการเข้าพบเป็นวันที่ 16 ส.ค. เวลา 13.00 น.แล้วนั้น ยืนยันจะไปตามที่นัดหมายแน่นอน เบื้องต้นทราบว่ามี 2 เรื่อง เป็นรูปปกนิตยสารไทม์ ที่มีรูป พล.อ ประยุทธ์ และมีข้อเขียนในเชิงว่าถูกแบนห้ามขาย โดยมีคนจำนวนมากอยากซื้อนิตยสารไทม์ฉบับนี้ แต่หาซื้อกันไม่ได้ในประเทศไทย โดยเห็นรูปจึงนำมาแชร์โดยสุจริตใจ อีกเรื่องหนึ่งเป็นการสัมมนาทางวิชาการที่สมาคมนักข่าวฯ จัดโดยคณะกรรมการญาติวีรชนเดือนพฤษภาคม 35 ในหัวข้อ “พรรคการเมืองกับแนวทางการสามัคคีปรองดองแห่งชาติ” ซึ่งมีการพูดถึงการดูด ส.ส. ที่อาจจะทำลายความปรองดองได้ โดยได้แสดงความเห็นในทางวิชาการตามที่ได้ยินมาจากบุคคลต่างๆ ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้ดูด ซึ่ง คสช.ไม่น่าจะเป็นผู้เสียหาย เพราะ คสช.ปฏิเสธเองว่าไม่ได้ดูด ส.ส. 
    "ดังนั้นจึงไม่น่าจะมาฟ้อง ถ้าหากฟ้องก็แสดงว่า คสช.เป็นผู้ดูด ส.ส.เองใช่หรือไม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าที่ฟ้องร้องนี้เพื่อต้องการให้หยุดพูด และหยุดแสดงความคิดเห็น เหมือนที่ถูกเรียกทุกครั้งใช่หรือไม่ หรือเพราะเพิ่งกลับจากกรุงลอนดอน แล้วมาพูดถึงแนวคิดใหม่ของนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะเป็นที่นิยมของประชาชนอย่างกว้างขวาง จึงพยายามไม่ให้พูด เพราะได้รับหมายเรียกทันทีหลังจากที่พูดถึงเรื่องนโยบาย พร้อมกับ พล.อ.ประยุทธ์เองก็ได้ออกมาปรามเรื่องการสัญญาในนโยบายของพรรคการเมืองให้ระมัดระวังเรื่องกฎหมายและงบประมาณ จึงอยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะนโยบายของพรรคเพื่อไทยจะต้องผ่านกรอบคิดมาอย่างดี ขอเพียงอย่าปิดกั้นประชาชนจะได้รับความสุขอย่างแน่นอน ประเทศจะยิ่งก้าวหน้ากว่าปัจจุบันมาก" นายพิชัยกล่าว
     ขณะที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาฯ คสช. กล่าวถึงกรณีนายพิชัย และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความทำให้รัฐบาลและ คสช.เสียหายว่า การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบ หากการวิจารณ์ผิดกฎหมาย ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งเราพยายามบังคับใช้กฎหมายปกติ พยายามไม่ใช้อำนาจของรัฐดำเนินการ ขอย้ำว่าเราไม่ได้ไปคุกคามใคร
    เมื่อถามว่า การแสดงความคิดเห็นต่าง ทำไมมองว่ากระทบต่อความมั่นคง โดยเฉพาะการแจ้งความฟ้องร้องเพจของพรรคอนาคตใหม่ที่กล่าวหาถึงการดูด ส.ส. พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า เราไม่ได้หมายความว่าการที่นายธนาธรไปพูดเรื่องดูด ส.ส.แล้วบอกว่าผิด แต่การที่เอาสิ่งนี้ไปวิจารณ์ลงเฟซบุ๊กในแต่ละครั้ง คสช.มาวิเคราะห์ดูว่ามันผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดก็ต้องดำเนินการ ไม่ได้หมายความว่าผิดกฎหมายความมั่นคง แต่หมายความว่าผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 116 ก็ต้องว่ากันไป และการมาขยายความต่อ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง 
    ส่วนกรณีนายนคร มาฉิม แฉถึงแผนการล้มรัฐบาลทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่า ตนทราบเท่าที่สื่อทราบ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ช่วงนี้การเมืองมีการเคลื่อนไหวในกรอบ ซึ่งทุกคนมีวิธีคิดและการเสนอที่แตกต่างกันออกไป สังคมจะเป็นผู้พิจารณาเอง
กกต.ไม่ฉลาดเลือกผู้ตรวจฯ
    เมื่อถามว่า ได้จับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ หลังจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ผบ.ทบ.กล่าวว่า คสช.ไม่ได้เพ่งเล็งกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่บทบาทหน้าที่ของเราต้องพยายามประคับประคองสถานการณ์ความมั่นคงให้อยู่ในความเรียบร้อย เชื่อว่าทุกฝ่ายพยายามเดินไปในกรอบที่จะเกิดการเลือกตั้ง แต่ถ้ามีใครทำผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย
    นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เปิดเผยว่า  ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ ได้นำรายชื่อว่าที่ประธานและว่าที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 5 คนขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเรียบร้อยแล้ว ส่วนความคืบหน้าการสรรหา กกต.อีก 2 คนที่เหลือนั้น ล่าสุด นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานกรรมการสรรหา กกต. ได้เรียกประชุมนัดแรกใน 8 ส.ค.นี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาจะประชุมกี่ครั้ง เพื่อมีมติเลือกภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด ก่อนส่งให้ สนช.ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม พิจารณาอีกครั้ง จากนั้นจึงจะส่งให้ที่ประชุม สนช.ลงมติโหวตเลือกต่อไป
    นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. กล่าวถึงการลงมติเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง 616 คนของ กกต.จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทิ้งทวนว่า จากที่ดูรายชื่อแล้วส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความเหมาะสมทั้งด้านคุณวุฒิและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง แต่การรีบลงมติเลือกของ กกต.เป็นการดำเนินการที่ไม่ฉลาดและเปลืองตัว เพราะถึงจะปล่อยให้ กกต.ชุดใหม่เป็นผู้เลือก ก็เชื่อว่าหากพิจารณาด้วยความรู้ความสามารถ ผู้ที่จะได้รับการเลือกก็ไม่แตกต่างไปจากนี้มาก  
    “ผมเคยเสนอว่าเราเตรียมการได้แต่ในขั้นเลือก แต่ต้องให้ กกต.ชุดใหม่เป็นคนเลือก เพราะหากผู้ตรวจทำงานไม่ดี ทำงานไม่ได้ ไม่เกิดผลดีในการทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เขาจะมาหาว่าเขาไม่ได้มีส่วนเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง เพราะชุดเดิมเป็นคนเลือกมา การจะมาบอกว่าชุดใหม่มีสิทธิ์เปลี่ยนได้ตลอด ถามว่าใครอยากจะสร้างศัตรูตั้งแต่เริ่มทำงาน คงไม่มีใครทำหรอก การตัดสินใจของ กกต. จึงโดนสังคมมองว่าทิ้งทวนและจะกลายเป็นแพะในอนาคต หากผู้ตรวจทำงานไม่ได้ผล” นายสมชัยกล่าว
    ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีสื่อหลักของอินโดนีเซีย อย่าง Jakarta Post ตีพิมพ์บทความ อย่าให้ผู้นำเผด็จการทหารไทยนั่งเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า โดยได้เดินผ่านบรรดาสื่อมวลชนที่มาดักรอสัมภาษณ์บริเวณด้านหน้าและโบกมือให้เท่านั้น ก่อนเดินทางกลับ.

    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"